พัฒนาระบบแนะแนว เปิดมุมมองใหม่สัมมาชีพ
ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
'อบจ.สุราษฎร์ ร่วมกับ สสค. 'หนุน'สมัชชาการศึกษาฯ'พัฒนาระบบแนะแนว เปิดมุมมองใหม่โลกสัมมาชีพ
สมัชชาการศึกษาจังหวัดสุราษฎร์ธานี เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จจากการศึกษาดูงาน "การเตรียมความพร้อม ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น สู่โลกการทำงานในสายอาชีพ" และ "มหกรรมเปิดโลกสัมมาชีพ" ของ "สภาการศึกษาจังหวัดภูเก็ต" เตรียมนำองค์ความรู้ที่ได้รับมาปรับใช้ ในพื้นที่ ผสานความร่วมมือภาคเอกชน สถาบันอาชีวศึกษา สมาคมผู้ปกครอง และครูแนะแนว เปิดมุมมองใหม่ ในการเรียนรู้เพื่อก้าวสู่โลกของการทำงานที่หลากหลายให้กับเยาวชน
"สุราษฎร์ธานี" เป็นหนึ่งใน 14 จังหวัดที่ทำงานร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ในการปฏิรูปการศึกษา ภายใต้โครงการจังหวัดปฏิรูปการเรียนรู้ หรือโครงการการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ Area-Based Education (ABE) ที่มีองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี และสมัชชาการศึกษาจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นหน่วยงานประสานเชื่อมโยง เครือข่ายการทำงานในพื้นที่โดยล่าสุดคณะทำงานของจังหวัดสุราษฏร์ธานีได้ไปศึกษา ดูงานความสำเร็จของสภาการศึกษาภูเก็ต ในการปรับเปลี่ยนทัศนคติและค่านิยมของครู ผู้ปกครอง และการเรียนรู้ของเยาวชนให้สอดรับกับโลกของการทำงานที่เปลี่ยนไป และเตรียมนำมาขยายผลพัฒนาระบบแนะแนวอาชีพในพื้นที่
นายธีรวัฒน์ รัตนกุล ประธานประสานงาน จังหวัดปฏิรูปการเรียนรู้จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า คณะกรรมการสมัชชาการศึกษาจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะนำแนวทางการดำเนินงานและปัจจัยความสำเร็จของจังหวัดภูเก็ตมาปรับใช้ในพื้นที่ โดยเฉพาะในเรื่องของการขยายความร่วมมือไปยังภาคเอกชน ผู้ประกอบการ และสถาบันอาชีวศึกษาให้เข้ามา มีส่วนร่วมในการเตรียมความพร้อมของผู้เรียนสู่โลกการทำงานให้ลูกหลานของชาวสุราษฎร์ธานีรู้จักตัวเอง รู้จักการเรียนรู้ที่รูปแบบใหม่ และรู้จักความหลากหลายของงานและอาชีพในปัจจุบัน
"สิ่งที่สำคัญในการขยายผลในเรื่องนี้ก็คือการทำให้เด็กและเยาวชนได้รู้ตัวเองว่าในอนาคตเขาจะทำอะไรเพื่อประกอบอาชีพ ให้รู้จักตัวเอง โดยจะต้องทำงานร่วมกับครูแนะแนว ด้วยการให้ความรู้ และความเข้าใจถึงโลกของอาชีพและทางเลือก ในการเรียนรู้ในปัจจุบันที่ไม่เหมือนเก่า รวมไปถึงการเปลี่ยนทัศนคติของผู้ปกครองให้ตระหนักว่าการเรียนรู้ในปัจจุบันนั้นไม่ใช่เรียนเพื่อปริญญาบัตรแต่เป็นการเรียนรู้เพื่อการประกอบอาชีพ ซึ่งเป็นโจทย์ที่ คณะทำงานจะต้องนำกลับไปพัฒนาต่อ"
ด้าน ดร.สมพร เพชรสงค์ คณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวเสริมถึงแนวทางการดำเนินงานนับจากนี้ว่า การทำให้เด็กได้รู้จักตนเองและค้นพบตัวเองในเรื่องของการเรียนรู้ และเรื่องของอาชีพได้เร็วมากขึ้นเท่าไรก็จะทำให้เด็กไม่หลุดออกนอกระบบหรือเสียเวลาไปในเรื่องที่ตนไม่ถนัด
"เนื่องจากบริบทเชิงพื้นที่ของสุราษฎร์ฯ กับภูเก็ตมีความแตกต่างกัน ในเบื้องต้นคณะทำงานของจังหวัดสุราษฎร์ธานีจะกลับไปสำรวจข้อมูลใน 2 ประเด็นคือ ความต้องการในด้านอาชีพของเยาวชนและผู้ปกครองในพื้นที่ และศึกษาถึงสภาพของครูแนะแนว เพื่อที่จะนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาเครื่องมือและกลไกในการพัฒนากระบวนการ ทำงาน รวมทั้งการให้ความรู้กับครูแนะแนว และผู้ปกครอง รวมไปถึงการออกแบบกิจกรรมให้สอดคล้องกับความต้องการของเด็กและเยาวชนที่จะจัดขึ้นนับจากนี้"
"ปัจจุบันมีผู้จบปริญญามากมาย แต่จบมาแล้วไม่มีงานทำ ตกงาน ทั้งๆ ที่ มีตำแหน่งงานเปิดรับมากมาย แรงงานจังหวัดสุราษฏร์ธานี เปิดตลาดนัดแรงงานมีความต้องการ 600 ตำแหน่ง มีผู้มีคุณสมบัติสมัครได้ 200 ตำแหน่ง ถามว่าเป็นเพราะอะไร เรียนเพื่อปริญญา หรือเรียนเพื่อมีอาชีพในอนาคต เราควรให้ข้อมูลกับนักเรียน ผู้ปกครองว่าเรียนเพื่อการมีงานทำหรืออาชีพ มิใช่เรียนเพื่อปริญญาแผ่นเดียว เรียนแล้วมีงานทำ เรียนแล้วสามารถมองเห็นอาชีพที่ตนเองรัก ต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ จับมือร่วมกันสร้างอนาคตให้เด็กสุราษฎร์ธานี" นายทนงศักดิ์ ทวีทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวสรุป