พลังกีฬาพาสุขทั้งครอบครัว

หนุนออกกำลังกายยกบ้านทั้ง7วัน

 

 พลังกีฬาพาสุขทั้งครอบครัว

          เมื่อวันที่ 4 – 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมาสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับเครือข่าวพันธมิตร ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กรุงเทพมหานคร, การกีฬาแห่งประเทศไทยและ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจัดมหกรรมกีฬามหามงคล ปี 2552 ภายใต้คอนเซปต์ “พลังกีฬา 7 วัน ออกกำลังกายทั้งครอบครัว”

 

          นั่นย่อมหมายถึงว่า ครอบครัวใดที่ไปออกกำลังกายกันทุนคน ไม่ว่าจะด้วยการเล่นกีฬา หรือด้วยวิธีอื่น เช่น วิ่ง เดิน ปัดกวาดเช็ดถูบ้านช่อง ล้างรถ เป็นต้น ครอบครัวนั้นย่อมจะมีสุขภาพดีกันทุกคน สุขภาพกายก็ดีสุขภาพใจก็ดี เมื่อสุขภาพกายใจดี ร่างกายย่อมห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง แล้วใครที่มีโรคภัยเบียดเบียนอยู่ ไม่ว่าจะโรคใดก็ตาม ทั้งเล็กๆ และร้ายแรง ย่อมจะถูกกำจัดไปได้ด้วยการออกกำลังกาย

 

          ผสมผสานกับการบริโภค คือ ต้องให้ความสำคัญด้านโภชนาการ เน้นการรับประทานอาหารที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายเป็นสำคัญควบคู่ไปกับการออกกำลัง อย่างที่คุณหมอนักโภชนาการพูดเน้นย้ำมาตลอดว่าให้คำนึงถึงการบริโภคอาหารครบ 5 หมู่

 

          สสส. เองนับตั้งแต่จัดตั้งองค์กรขึ้นมาก็เน้นถึงความสำคัญในเรื่องสุขภาพของประชาชนคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง และทุ่มเทรณรงค์เพื่อผลักดันให้คนไทยทุกคนเห็นคล้อยตาม เพื่อที่จะได้ดำเนินชีวิตอย่างมีสุขภาพกายกาย สุขภาพใจที่ดี เพื่อความสุขในชีวิตตนเองและทั้งครอบครัว

 

          บางคนอาจจะแย้งว่า สุขภาพกายพอกล้ำกลืนฝืนทนที่จะทำให้ดีได้ เช่น กล้ำกลืนฝืนทนไปออกกำลังการ ไปเล่นกีฬา แต่สุขภาพใจค่อนข้างจะกล้ำกลืนฝืนทำให้ดีได้ลำบากยากยิ่ง เมื่อเจอภาวะกดดันอย่างหนักหน่วงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจเรื่องฐานะความยากจน เป็นต้น

 

          เรื่องนี้ สสส. บอกเลยว่า ถึงจะพบเจอภาวะกดดันที่หนักหน่วยในชีวิตครอบครัวอย่างเวลานี้ที่คนไทยประสบปัญหาเศรษฐกิจถดถอย ภาวะปกติก็แย่อยู่แล้ว มาเจอเข้าอย่างนี้ยิ่งแย่หนัก รอความหวังการแก้ปัญหาจากรัฐบาลก็ดูเหมือนจะไม่เห็นแสง ณ ริมขอบฟ้าเอาเลยทีเดียว หวังพึ่งใครไม่ได้ต้องมาดูแลตัวเอง

 

          สสส. ได้น้อมนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมารณรงค์ให้คนไทย ครอบครัวไทยทั้งประเทศเพิ่มความขยันหมั่นเพียร เพิ่มความอดทนเพิ่มการอดออม รู้จักกินรู้จักใช้ อย่างการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในบ้านในพื้นที่ตัวเอง

 

          แนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจถดถอย ที่เราคนไทยทั้งประเทศกำลังประสบอยู่ได้ ทำยังไง ก็สิ่งที่ดีนำความสุขมาให้ทั้งตัวเองและครอบครัว เช่น จับจ่ายใช้สอยเฉพาะที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของครอบครัวเป็นสำคัญ เกินจำเป็นก็หยุดเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำเมา เป็นต้น ซึ่งไม่จำเป็นต่อครอบครัวเลย อาจไม่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น แต่เศรษฐกิจครอบครัวดีแน่แข็งแรงแน่ ประคับประคองครอบครัวให้มีความสุขได้แน่ เมื่อประคับประคองความเป็นอยู่ไม่ให้อดอยาก ไม่ต้องมีหนี้ได้ โดยยึดหลักแห่งพระราชดำริดังกล่าว สุขภาพใจของคนในครอบครัวก็จะสุขและสงบ ใจทุกคนในแสนในล้านครอบครัวสุขสงบ สังคมไทยก็ย่อมสุขสงบตามไปด้วยโดยอัตโนมัติ

 

          เช่นเดียวกับมหกรรมกีฬามหามงคล ปี 2552 ภายใต้คอนเซปต์ “พลังกีฬา 7 วัน ออกกำลังกายทั้งครอบครัว” เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ก็มุ่งหวังให้เกิดความสุขเริ่มจากทางกาย เป็นการรณรงค์ประชาชนคนไทยให้ก้าวไปสู่การมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บ

 

          โดยการออกกำลังกายด้วยพลังแห่งกีฬา 7 โซน 7 สี ดังนี้ โซนสีเหลือง “ครอบครัวนักกีฬา” โซนนิทรรศการ “เทิดไท้กษัตริย์นักกีฬา” พร้อมร่วมกันประดิษฐ์ “ปฏิทินครอบครัวนักกีฬา” และเขียนคำปฏิญาณตนเพื่อการออกกำลังกาย โซนสีชมพู “ลีลากีฬาตัวเล็ก” โซนพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กๆ และเยาวชน โซนสีเขียว “ชุมชนมั่นคงยั่งยืน” โซนวัฒนธรรมกีฬาชุมชน และกีฬาไทยจากสถาบันอาศรมศิลป์

 

          โซนสีแสด “ผู้สูงวัยใจเต็มร้อย” เป็นโซนของผู้สูงอายุ ที่รวมการออกกำลังกายและกิจกรรมเพื่อสุขภาพ โซนสีฟ้า “สุขภาพดีถ้วนหน้า” สุขภาพดีไปกับเครือข่าวภาคี และนวัตกรรมการออกกำลังกายจาก สสส. พร้อมด้วยสมาคมกีฬาต่างๆ โซนสีม่วง “กีฬาสามัคคี” บูธกิจกรรมกีฬาที่อยู่ในกระแสความสนใจ กิจกรรมโครงการต่างๆ ที่ร่วมทำกับ สสส. และโซนสีแดง “วัยทีนวัยสร้างสรรค์” โซนการแสดงกีฬาเอ็กซ์ตรีมและการแข่งขันบี – บอย เป็นต้น แล้วก็ไม่เสียเงินอะไรเลย สสส. บอกย้ำด้วยว่า ให้ทำกันทั้งครอบครัวได้ยิ่งดีเยี่ยม ออกกำลังนอกจากจะไม่เสียเงินแล้ว เมื่อร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคภัยมาเยือน ก็ไม่ต้องเสียเงินค่าดูแลรักษา ค่ายา ค่าหมอ อย่างนี้จะไม่มีความสุขทั้งกายใจได้ยังไง

 

          ที่สำคัญการปฏิบัติตัวดังกล่าว ยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำความดีให้ตัวเอง แต่เป็นการถวายเป็นพระราชกุศล เป็นการถวายการแสดงออกชื่อความจงรักภักดี เพราะเมื่อทรงเห็นว่าราษฎรของพระองค์อยู่ดีมีสุขกายใจก็ทรงสำราญพระราชหฤทัยอย่างยิ่งทีเดียว

 

          มาเริ่มสร้างความสุขกายใจ ด้วยพลังแห่งการออกกำลังกายทั้งครอบครัวทุกวันหรือทั้ง 7 วัน ใน 1 สัปดาห์ ตามที่ สสส. และหน่วยงานพันธมิตร รณรงค์ให้ครอบครัวไทยทั้งประเทศ หันมาปฏิบัติเป็นประเพณีอย่างจริงจังด้วยความห่วงใย เพื่อร่วมกันสร้างสุขให้เกิดขึ้น แล้วก็เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติอันเป็นความสุขใจที่เกิดขึ้นด้วยอีกทางหนึ่ง

 

          ลองทำเข้าจริงๆ เถอะ แล้วจะรู้ว่าสุขภาพสุขใจมีจริงๆ ในภาวะที่ดูเหมือนจะเกิดขึ้นได้ยากยิ่งอย่างตอนนี้

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

ภาพประกอบ: อินเทอร์เน็ต

 

 

Update 07-05-52

 

Shares:
QR Code :
QR Code