“พระไพศาล” แนะเด็กไทยมีจิตอาสาอย่าทำเพื่อตัวเอง

“พระไพศาล”แนะเยาวชนไทยช่วยเหลือสังคม-มีจิตอาสา อย่าทำเพื่อตนเอง อย่าหวังพึ่งคนที่มีอำนาจ ชี้คนเล็กๆ รวมกันก็เปลี่ยนแปลงบ้านเมืองได้ เชื่อประเทศไทยจะอยู่เย็นเป็นสุขด้วยปัญญาอย่างแท้จริง ฝากทุกคนบ่มเพาะให้รู้จักความสุขแท้

พระไพศาล วิสาโล พระไพศาล วิสาโล ประธานเครือข่ายพุทธิกากล่าวในการสัมมนาเยาวชนและผู้ขอรับการสนับสนุนที่เข้าร่วมโครงการสุขแท้ด้วยปัญญาปี 4 ของ เครือข่ายพุทธิกา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ที่สายป่านรีสอร์ท อ.มวกเหล็ฏ จ.สระบุรี เมื่อเร็วๆ นี้ว่า โครงการสุขแท้ด้วยปัญญา เป็นโครงการเล็กๆ แต่ได้สอนให้คนรู้จักการช่วยเหลือผู้คนสิ่งที่เยาวชนได้ทำไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่เราทำเพื่อผูอื่น โดยเฉพาะผู้ที่มีโอกาสน้อยกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศไทยควรจะมีผูคนประเภทนี้มากๆถึงแม้จะไม่ใช่คนเด่นคนดังคนสำคัญก็สามารถอยู่แบบไม่นิ่งดูดาย เพื่อที่จะทำให้บ้านเมืองเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง อย่าหวังพึ่งคนที่มีอำนาจ คนที่มีชื่อเสียง หรือคนที่มียศถาบรรดาศักดิ์ เพราะว่าคนเล็กคนน้อยอย่างคนธรรมดามีอยู่มากกว่าในสังคม และจะเป็นพลังขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนได้

สุขแท้ด้วยปัญญาพระไพศาล กล่าวต่อว่า การดำเนินงานเกี่ยวการบ่มเพาะคนให้รู้จักช่วยเหลือสังคมหรือสังคมจิตอาสา ผู้ที่รับการอบรมหรือผู้ที่ทำหน้าที่อบรมจะได้เรียนรู้ชีวิตซึ่งกันและกันเพราะกำลังสร้างความสุขต่อตนเอง ที่สำคัญหากเราสามารถสร้างคนที่รู้จักเผื่อแผ่ช่วยเหลือ สังคม จะทำให้สังคมดีขึ้น ที่สำคัญเมื่อคนเหล่านี้ประสบปัญหาการทำงานก็จะไม่เครียด ไม่ผิดหวัง ถึงแม้ล่มเหลวก็จะสามารถเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาดได้ เช่น กรณีคนตาบอดกับตะเกียงเพื่อนส่งตะเกียงให้คนตาบอด เพื่อให้เดินไปตามทางยามค่ำคืน เพื่อให้คนอื่นได้รับประโยชน์จากแสงดังกล่าวและป้องกันไม่ให้คนตาบอดถูกผู้อื่นเดินชน เมื่อเดินไปครึ่งทางกลับมีคนเดิมมาชนคนตาบอดจนล้มลง ทำให้คนตาบอดโมโหอย่างมาก จึงต่อว่าคนที่มาชนว่าไม่เห็นหรือไงว่าเขาถือตะเกียงอยู่ ชายคนดังกล่าวจึงบอกคนตาบอกว่าตะเกียงท่านดับนานแล้ว ซึ่งให้ข้อคิดว่า เวลาเกิดปัญหาให้มองจากตัวเองก่อน ถ้าเกิดปัญฆาแต่ไปโทษคนอื่นก็แปลว่าคนคนนั้นตาบอดเหมือนชายในเรื่อง

“อาตมาอยากให้เยาวชนที่รู้จักตนเอง รู้จักสังคม รู้จักการให้ และเป็นผู้รับอย่างเหมาะสมเชื่อว่าประเทศนี้เมืองนี้ จะอยู่เย็นเป็นสุข หรือเรียกว่า สุขแท้ด้วยปัญญาอย่างแท้จริง หากเราไม่บ่มเพาะคนของเราให้รู้จักความสุขแท้ต่อไปสังคมจะมีแต่ความวุ่นวาย มีแต่ความเดือดร้อน อาตมาได้รับทราบว่า ปีนี้มีผู้ผ่านการคัด เลือกทั้งสิ้น 37 โครงการ ซึ่งจะเสร็จสิ้นในเดือนเมษายน 2556 โดยโครงการส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพเยาวชน และกิจกรรมพัฒนาชุมชนเป็นหลัก” ประธานเครือข่ายพุทธิกา กล่าว

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
 

Shares:
QR Code :
QR Code