พนักงานพร้อมใจ’งดเหล้า…พักตับครบพรรษา’

ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก โดย ชูวิทย์ จันทรส           


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ


พนักงานพร้อมใจ'งดเหล้า...พักตับครบพรรษา' thaihealth


กลุ่มผู้ใช้แรงงานถือเป็นพลังหลักสำคัญของประเทศที่ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในหลากหลายมิติ แต่จากสถิติพบว่า กลุ่มผู้ใช้แรงงานมีพฤติกรรมการดื่มสุราที่ยังน่าเป็นห่วง ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพ เศรษฐกิจของคนงาน และไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ อีกทั้งแรงงานจำนวนมากมีรายได้จำกัดแต่กลับต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกับการดื่มสุรามากกว่าความจำเป็นของลูกและครอบครัว


ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ลงพื้นที่จัดกิจกรรมเสริมพลังใจลดละเลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเข้าพรรษาให้แก่พนักงาน  โรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ จ.สมุทรปราการ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้แรงงานได้ตระหนักถึงปัญหาผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  ให้พนักงานเกิดค่านิยมใหม่ไม่ดื่มเหล้า และเพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนงานและครอบครัว


จะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล พูดถึงผลสำรวจแรงงานในหลายจังหวัดกว่า 1,914 ตัวอย่าง พบว่า เข้าพรรษาปีนี้กลุ่มผู้ใช้แรงงานกว่า 73.9% อยากให้โรงงานและชุมชนมีนโยบายสนับสนุนกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษา เนื่องจากเห็นว่า สุขภาพร่างกายจะดีขึ้น ซึ่งจะมีผลดีต่อการทำงาน และทำให้หนี้สินพนักงานพร้อมใจ'งดเหล้า...พักตับครบพรรษา' thaihealthของแรงงานลดลง มีเงินเก็บ ครอบครัวมีความสุขมากขึ้น ซึ่งงานวิจัยบอกว่า ในครอบครัวที่มีคนดื่มจะเสี่ยงก่อความรุนแรงในครอบครัวมากกว่าครอบครัวที่ไม่ดื่ม 3-4 เท่า รวมถึงอุบัติเหตุความเสี่ยงในการทำงานจะลดลง  อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได อีกด้วย


อย่างไรก็ตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเหตุความสูญเสียทางเศรษฐกิจปีละกว่า 160,000 ล้านบาท ในขณะที่การงดเหล้า 3 เดือน จะช่วยประหยัดเงินให้ชาติถึง 6.4 หมื่นล้านบาทต่อปี


ศิวัต จรัญยานนท์  ผู้จัดการโรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ จ.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า พนักงานในโรงงานของเรามีประมาณพันกว่าคน อายุเฉลี่ย 25 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายมากกว่าหญิง ทั้งนี้จากการทำแบบสอบถามพบว่า พนักงานกว่า 60% มีพฤติกรรมดื่มสุรา บางรายดื่มทุกวัน ทั้งนี้เคยพูดคุยสอบถามพนักงานรายหนึ่ง ได้คำตอบที่น่าตกใจมาก ว่าปกติดื่มเบียร์วันละสองขวด ซึ่งถือว่าดื่มหนัก และหัวหน้างานมาสะท้อนให้ ฟังบ่อยๆ ว่า คนงานบางรายมีปัญหาสุขภาพ มีหนี้สิน


"โรงงานของเราต้องการให้พนักงานลดละเลิกการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงอบายมุขต่างๆ เพราะเห็นปัญหามาตลอด วันเงินเดือนออก พนักงานต้องจับกลุ่มเลี้ยงสังสรรค์ แทนที่ทำงานเหนื่อยจะได้นำเงินไปใช้จ่ายในสิ่งที่เกิดประโยชน์  และใช้จ่ายในครอบครัว"


สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ เราได้เชิญชวนพนักงานที่สมัครใจลงชื่อปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา ซึ่งมีมากกว่า  60% ที่ตั้งใจงดดื่ม รวมถึงมีการแสดงละครสะท้อนปัญหาที่เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อสร้างความตระหนัก จากนั้นจะมีการเปิดใจพูดคุยกับพนักงานจริงๆ เป็นนโยบายของบริษัทตั้งแต่แรกที่ต้องการให้พนักงานมีสุขภาพที่ดี เราอยากจะดูแลใส่ใจพนักงานทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขอนามัย อาหาร เราอยากให้คุณภาพชีวิตพนักงานดีขึ้น


โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นปัญหาสำคัญของคนในโรงงาน เพราะพนักงานส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย จึงมีพฤติกรรมสังสรรค์ตามมาซึ่งเราอยากให้พนักงานใช้เวลา 3 เดือนหยุดพักตับ งดเหล้าเข้าพรรษา เพราะเชื่อว่าพนักงานพร้อมใจ'งดเหล้า...พักตับครบพรรษา' thaihealthช่วง 3 เดือนนี้จะช่วยให้มีสุขภาพดีขึ้น มีเงินเหลือเก็บ อย่างน้อยเขาจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ครอบครัวแฮปปี้ นายจ้างก็แฮปปี้ การทำงานก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น


นายจ้างผู้นี้ กล่าวถึงมาตรการที่เข้มงวดในโรงงานด้วยว่า โชคดีที่โรงงานของเรามีมาตรการเข้มงวด มีเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์โดยเฉพาะช่วงพักกลางวัน หากพบ จะมีการเตือนด้วยวาจา  หรือเป็นลายลักษณ์อักษร และขั้นสุดท้ายคือไล่ออก แต่ที่ยังเห็นปัญหา คือร้านค้าที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หน้าโรงงานมีมากขึ้น  การเข้าถึงจึงเป็นไปได้ง่าย จึงต้องฝากหัวหน้างานให้เข้มงวด เข้มแข็ง ตรวจสอบลูกน้องให้ดี และหัวหน้าต้องใกล้ชิดลูกน้อง เป็นเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน รู้ถึงพฤติกรรม ลูกน้อง


คาดว่าเราจะจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ คุณภาพชีวิตของพนักงานอย่างต่อเนื่อง  เชื่อว่าจะมีพนักงานเข้ามาร่วมเพิ่มขึ้นทุกปี จนสามารถขยายผลไปยังโรงงานอื่นได้มากขึ้น และขอฝากไปยังกลุ่มผู้ใช้แรงงานว่า หากเมื่อไหร่ที่เราใช้จ่ายเกินตัวก็จะมีปัญหา เช่น เอาเงินไปลงกับแอลกอฮอล์ ซึ่งควรหันหลังให้อบายมุขเหล่านี้แล้ววางแผนการใช้ชีวิต การใช้เงิน  หากขยันหมั่นเพียรไม่มีคำว่าอดตาย


วิวัฒน์ สียางนอก อายุ 54 ปี หัวหน้างานโรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า เริ่มดื่มเหล้ามาตั้งแต่อายุ 19 ปี เมื่อก่อนดื่มเหล้าหนักมาก  ดื่มกับเพื่อนร่วมงานเกือบทุกวัน เลิกงานก็เดินเข้าร้านเหล้าที่ตั้งอยู่หน้าโรงงาน จนกระทั่ง 10 ปีหลังๆ เริ่มมีปัญหาสุขภาพ เพราะดื่มหนัก หมอระบุว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง และครอบครัวต้องการให้เลิกดื่ม อีกทั้งยังเห็นการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาในโรงงาน  จึงตัดสินใจเข้าร่วมปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษาปีนี้เป็นปีแรกและตั้งใจไว้ว่าจะงดดื่มต่อเนื่องทุกๆ ปี  หรือเลิกดื่มให้ได้ในที่สุด


"ผมมองว่ากิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษา  ทำให้เกิดกระแสคนหันมารักสุขภาพตัวเอง ทั้งยังช่วยพนักงานได้อย่างมาก จากการพูดคุยกันในกลุ่มเพื่อน และลูกน้องที่โรงงาน  หลายคนสนใจพร้อมใจงดเหล้าเข้าพรรษา ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีทั้งต่อตัวเอง นายจ้าง  คนในครอบครัว อยากฝากว่า คนที่ดื่มควรหันมาห่วงสุขภาพ ควรหาอะไรทำ  อย่ามัวเอาเวลาไปลงที่ขวดเหล้า ควรหันมาพักตับพักร่างกายสู้งานสร้างเงินเดือน ให้งานออกมามีประสิทธิภาพ และผลตอบแทนดีๆ จะตามมาแน่นอน ซึ่งสุภาษิตที่ว่าไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ยังนำมาใช้  ได้กับทุกคน" หัวหน้างาน กล่าว


ขณะที่ เกียรติศักดิ์ เขียวลือ อายุ 43 ปี พนักงานฉีดล้างอุปกรณ์รถยนต์ บอกเล่าประสบการณ์การดื่มสุรา และปีนี้จะเริ่มงดเหล้าเข้าพรรษาเป็นปีแรกว่า ทำงานที่บริษัทแห่งนี้มากว่า 15 ปี ยอมรับว่าเป็นคนที่ชอบดื่มสังสรรค์ เพื่อนชวนก็ไม่กล้าปฏิเสธ ทุกๆ เดือนหมดเงินไปกับค่าเหล้าสูงถึงหมื่นบาท


เมื่อร่างกายสุขภาพแย่ลง เริ่มไม่ไหว เหนื่อยง่าย จึงตั้งใจลดละเลิกสุราเพื่อเป็นของขวัญให้ตัวเอง และคนที่เรารัก และใช้โอกาสเข้าพรรษาปีนี้ลงชื่อปฏิญาณตนงดเหล้า 3 เดือนเป็นปีแรก "ผมเห็นปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสุขภาพตัวเอง และคนรอบข้างเยอะมาก ทั้งอุบัติเหตุ ทะเลาะวิวาท ถูกตำรวจจับเพราะเมาแล้วขับปีนี้จึงตั้งใจทำอะไรเพื่อตัวเอง แม้มันจะต้องใช้ความพยายามแต่ผมก็จะเอาชนะใจตัวเองให้ได้" พนักงานรายนี้ กล่าวทิ้งท้าย


หากบรรดาโรงงาน หรือทุกภาคส่วนร่วมกันขยับ เข้มงวดจริงจัง ปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของแรงงานไทยจะค่อยๆ ลดลงและนำไปสู่ทางออกที่ยั่งยืนได้อย่างแน่นอน

Shares:
QR Code :
QR Code