ผู้เชี่ยวชาญแนะใช้มือถือเสี่ยงเป็นมะเร็ง

เตือน! เด็ก-เด็ก ใช้เฉพาะเวลาฉุกเฉินเท่านั้น

 ผู้เชี่ยวชาญแนะใช้มือถือเสี่ยงเป็นมะเร็ง

          มหาวิทยาลัยพิตส์เบิร์กออกประกาศเตือนนักศึกษาและบุคลากรจำกัดการใช้โทรศัพท์มือถือ ชี้เสี่ยงเป็นมะเร็ง โดยเฉพาะในเด็ก

 

          ดร.โรนัลด์ บี เฮอร์เบอร์แมน ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งมหาวิทยาลัยพิตส์เบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ทางใต้ของสหรัฐ ออกประกาศเตือนนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ในคณะราว 3,000 คน เมื่อวันพุธ (23 ก.ค.) ให้จำกัดการใช้โทรศัพท์มือถือ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่จะเสี่ยงทำให้เป็นโรคมะเร็ง ซึ่งขัดแย้งกับรายงานหลายฉบับของสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ ที่ยืนยันว่าไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างมะเร็งและการใช้โทรศัพท์มือถือ ตลอดจนการที่ประชาชนไม่ค่อยกังวลกับการใช้โทรศัพท์มือถือมากเท่าที่ควร

 

          ดร.เฮอร์เบอร์แมนกล่าวว่า อาจจะต้องรอนานเกินไปกว่าจะได้รับคำตอบจากทางวิทยาศาสตร์เพื่อยืนยันแนวคิดนี้ และมองว่าประชาชนควรนำแนวคิดจำกัดการใช้โทรศัพท์มือถือนี้ไปปฏิบัติ โดยเฉพาะกับเด็กๆ ส่วนตัวมองว่าทุกคนควรจะคิดแบบปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่ามาเสียใจภายหลัง โดยในบันทึกความจำที่ถูกส่งไปยังบรรดานักศึกษาและเจ้าหน้าที่ระบุว่า เด็กๆ ควรใช้โทรศัพท์มือถือเฉพาะเวลาฉุกเฉินเท่านั้น เนื่องจากสมองของเด็กยังอยู่ในช่วงที่กำลังพัฒนา ขณะที่ผู้ใหญ่ก็ควรให้โทรศัพท์ออกห่างจากศีรษะ และควรใช้ลำโพง หรือชุดอุปกรณ์เสริมเพื่อใช้สนทนา ทั้งยังเตือนด้วยว่าไม่ควรใช้โทรศัพท์มือถือในสถานที่สาธารณะ เช่น รถเมล์ เนื่องจากจะเป็นการกระจายคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปยังผู้ที่อยู่เคียงข้าง

 

          ด้านนางเดฟรา ลี เดวิส ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาด้านเนื้องอกวิทยา มหาวิทยาลัยพิตส์เบิร์ก หนึ่งในแรงผลักดันที่อยู่เบื้องหลังการประกาศเตือนครั้งนี้ เผยว่า ไม่มีใครอยากเล่นรัสเซียน รูเล็ตต์กับสมองตัวเอง ไม่มีใครทราบว่ามือถืออันตรายหรือไม่ แต่ก็ไม่รู้ด้วยเช่นกันว่าปลอดภัยจริง ขณะที่กลุ่มต่างๆ กว่า 20 กลุ่มก็ยอมรับคำแนะนำของศูนย์แล้ว ส่วนรัฐบาลอังกฤษ ฝรั่งเศส อินเดีย ก็ออกประกาศเตือนเรื่องการใช้โทรศัพท์มือถือกับเด็กเช่นกัน

 

          ที่ผ่านมาประเด็นเรื่องอันตรายจากการใช้โทรศัพท์มือถือยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน และไม่มีสถาบันชั้นนำใดๆ สรุปเรื่องอันตรายการจากใช้โทรศัพท์มือถือมาก่อน โดยเมื่อต้นปีนี้ นักวิเคราะห์จากมหาวิทยาลัยยูทาห์ได้หยิบผลการศึกษาเนื้องอกในสมอง 9 ชิ้น รวมทั้งชิ้นที่เป็นของ ดร.เฮอร์เบอร์แมนมาวิเคราะห์ด้วย ก่อนจะสรุปเช่นเดียวกันว่า ไม่พบว่ามือถือทำให้ความเสี่ยงเป็นเนื้องอกในสมองเพิ่มขึ้น

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

 

 

update: 25-07-51

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code