ผลเสียของการเล่นสมาร์ทโฟน ต่อนิ้วและมือ
ที่มา : SOOK Magazine No.65
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
การเล่นสมาร์ทโฟนเป็นประจำไม่เพียงส่งผลเสียต่อปฏิสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้าง อย่างที่เขาเรียกกันว่า “สังคมก้มหน้า” เท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียหนักมากต่อร่างกาย โดยเฉพาะนิ้วและมือของเรานี้เอง มาดูกันสิว่ามีอาการไหนบ้าง ถ้าหากยังใช้เวลาอยู่กับสมาร์ทโฟนนาน ๆ แบบนี้
1. อาการชา
อาการชาเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุและหลายส่วนของมือ ไม่ว่าจะเป็นชาที่ปลายนิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง และอีกครึ่งของนิ้วนาง อาจมาจากการเกิดพังผืดกดทับเส้นประสาทข้อมือ แต่ถ้ามีอาการชาไปทั้งมือ ไล่ไปจนถึงไหล่และคอ ร่วมกับมือและนิ้วอ่อนแรง ก็เป็นได้ทั้ง Text Neck Syndrome หรือ ที่เราเรียกรวม ๆ กันว่าออฟฟิศซินโดรม แต่ถ้าหากร้ายแรงกว่านั้นก็อาจเป็นปัญหากระดูกคอทับ เส้นประสาทเลยทีเดียว
วิธีการรักษา : เปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ อย่าก้มหน้าเป็นเวลานานๆ พยายามให้คอตั้งตรง แต่หากเรื้อรังจนกลายเป็นกระดูกคอทับเส้นประสาทจริง ๆ จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด
2. อาการนิ้วล็อค
นิ้วล็อคเกร็งเหยียดนิ้วตรงลำบากหรืองอเข้าไม่ได้ อาจเกิดจากการที่กล้ามเนื้อมีอาการอักเสบนานๆ จนร่างกายซ่อมแซมตัวเองเกิดเป็นพังผืดหนารัดเส้นเอ็นที่ใช้งอนิ้วจนกลายเป็นนิ้วล็อคได้
วิธีการรักษา : ลดการใช้เวลากับสมาร์ทโฟนลง ทำกายภาพบำบัด ในบางรายอาจต้องผ่าตัดพังผืด
3. ตะคริว
มีอาการตะคริวที่นิ้วมือ หรือรู้สึกปวดเกร็งตามกล้ามเนื้อนิ้วมือ อาจเกิดจากอาการข้อต่ออักเสบที่มือ
วิธีการรักษา : ออกกำลังกายกล้ามเนื้อมือและนิ้ว โดยการบีบคลายลูกบอลยางขนาดพอดีมือ และใช้ถุงร้อนประคบบริเวณที่เป็นตะคริว
4. ปวดนิ้ว
อาการปวดตามข้อนิ้ว โดยเฉพาะนิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง เกิดจากอาการเส้นประสาทนิ้ว 4 ถูกบีบรัดอยู่นาน ๆ อย่างเวลาที่เราใช้กด ใช้เลื่อนหน้าจอโทรศัพท์
วิธีการรักษา : ลดการใช้สมาร์ทโฟน เมื่อมีอาการปวดให้ใช้การประคบเย็นตามข้อนิ้ววันละ 3-4 ครั้ง
5. ปวดนิ้วก้อยด้านใน
ปวดตามข้อนิ้ว และตามแนวนิ้วด้านใน บางรายอาจมีอาการเจ็บเมื่อถูกกด เป็นสาเหตุจากท่าถือ โทรศัพท์ที่ใช้นิ้วก้อยรองรับ อาการนี้มีชื่อว่า iPhone Pinky
วิธีการรักษา : เปลี่ยนการถือสมาร์ทโฟน โดยใช้การประคองด้วยอุ้งมือ
ลองสังเกตดูว่านิ้วและมือของเรามีอาการข้างต้นหรือไม่ ถ้ามีก็เป็นสัญญาณว่าเราควรต้องลงการใช้มือถือลงสักหน่อยแล้วล่ะ