ผนึกภาคีเฝ้าระวังไข้หวัดใหญ่
เฝ้าระวังช่วงฤดูหนาว
พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาภาคีเครือข่ายการเฝ้าระวังและควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ระดับท้องถิ่นใน กทม. โดยมีคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักอนามัย กทม. คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข คณะผู้บริหารสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรัฐและเอกชน ร่วมประชุม โดยกล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่ยังคงมีการระบาดอย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูฝนไปจนถึงฤดูหนาว ช่วงฤดูกาลดังกล่าวจะทำให้การระบาดของโรคกระจายออกไปในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีกลุ่มคนอยู่กันอย่างหนาแน่น เช่น โรงเรียน โรงงาน แหล่งชุมชน
ดังนั้น เพื่อลดการป่วยและการเสียชีวิต จึงต้องมีการเตรียมพร้อมในมาตรการป้องกันควบคุมโรคและการดูแลผู้ป่วย รวมทั้งการสำรองยาต้านไวรัสและการจัดหาให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลให้แก่กลุ่มเสี่ยงต่างๆ กทม.จึงร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และ สสส. เตรียมพร้อมและเฝ้าระวังการระบาดของไข้หวัดใหญ่ โดยเฝ้าระวังการระบาดในระยะเริ่มต้น เพื่อลดอัตราการติดเชื้อและเสียชีวิตในประชาชนกลุ่มเสี่ยง ตลอดจนดูแลรักษาผู้ป่วย เน้นให้แพทย์รักษาผู้ป่วยโดยใช้อาการทางคลินิกเป็นหลัก ส่วนการตรวจทางห้องปฏิบัติการควรส่งตรวจเฉพาะกรณีผู้ป่วยที่อาการรุนแรง
นอกจากนี้ ยังได้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์และประสานเครือข่าย เร่งส่งเสริมบทบาทอาสาสมัครสาธารณสุข สื่อสารความรู้การป้องกันโรคและดูแลตนเองแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง รวมทั้งเร่งประสานความร่วมมือทุกภาคส่วนเพื่อเสริมสร้างความพร้อม และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการปัญหาไข้หวัดใหญ่ การแนะนำให้ความรู้แก่ประชาชน ซึ่งผู้ที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ควรหยุดพักรักษาตัวที่บ้านเป็นเวลา 7 วัน หลีกเลี่ยงการไปสถานที่ที่มีการรวมตัวของคนกลุ่มมาก ปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยที่ดี ล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ หากมีอาการไอหรือจาม ให้ใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก รับประทานอาหารที่ร้อนและใช้ช้อนกลาง ทั้งนี้ประชาชนที่ป่วยควรจะสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไหวัดใหญ่
พญ.มาลินี กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการสร้างภาคีเครือข่ายความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยความร่วมมือทั้งโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลของรัฐ และโรงพยาบาลเอกชน ถือเป็นมิติใหม่ที่ดีในการเฝ้าระวังและควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ ไม่ให้ระบาดออกไปในวงกว้าง
ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
update : 23-09-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร
