ผนึกกำลัง 8 องค์กรต้าน “ข่าวปลอม”
ที่มา : ข่าวสด
ภาพโดย สสส.
จากปัญหาข่าวปลอมสะพัดอยู่ในโลกออนไลน์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นำโดย ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ จึงจัดเสวนาเรื่อง 'รวมพลังขับเคลื่อนต่อต้านข่าวลวงข่าวปลอม' โดยมี นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ผศ.พิจิตรา สึคาโมโต้ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายก้าวโรจน์ สุตาภักดี สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ เข้าร่วม
ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าวว่า สื่อดิจิตอลทวีบทบาทเป็นสื่อหลัก หากประชาชนมีการใช้และรับสื่ออย่างรู้ไม่เท่าทัน โดยเฉพาะปรากฏการณ์ข่าวลวง (Fake News) ที่แทรกอยู่ในประเด็นต่าง ๆ การมีทักษะการรู้เท่าทันสื่อในยุคดิจิตอลและร่วมกันเฝ้าระวังข่าวลวง จึงเป็นจุดคานงัดสำคัญ สสส.ร่วมกับ 7 องค์กร ได้แก่ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ องค์กรฟรีดิช เนามานน์ ฟาวน์เดชั่นฟอร์ ฟรีดอม (FNF) องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (Thai PBS) คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ จึงมุ่งการพัฒนา "คน" ทุกวัยสู่การเป็นพลเมืองดิจิตอลที่ตื่นรู้ มีทักษะเท่าทันสื่อ เท่าทันตนเอง มีความรับผิดชอบต่อสังคม
"สสส.พยายามขับเคลื่อนสิ่งที่นำไปสู่การมีสุขภาพที่ดี ดังนั้น ยังมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการเผยแพร่เนื้อหาที่ไม่ถูกต้องในสื่อ ทั้งสื่อหลักและโซเชียลมีเดีย อาทิ การกินยาเพื่อหายจากโรคต่าง ๆ ทั้งที่จริงป่วยจะหายเมื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การกิน การเลิกเหล้าและบุหรี่ การผนึกกำลังกันในครั้งนี้อาจจะไม่สามารถหยุดข่าวลวงได้ทั้งหมด แต่มุ่งหวังจะให้ลดปริมาณข่าวลวงให้ได้มากที่สุด" ผอ.สำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะกล่าว
นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่า การลงนามประกาศปฏิญญารวมพลังขับเคลื่อนต่อต้านข่าวลวงข่าวปลอม เพื่อร่วมสร้างกลไกการรับมือและต้านข่าวลวง สร้างความตระหนักรู้และวัฒนธรรมการตรวจสอบที่มาของข่าวสารให้กับคนในสังคมก่อนเชื่อหรือแชร์ข้อมูลออกไปในวงกว้าง เสริมพลัง สนับสนุนการทำงานซึ่งกันและกันของภาคีเครือข่าย เพื่อขยายผลองค์ความรู้ด้านการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อให้ประชาชนมีความรู้เท่าทันสื่อ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ภายใต้ระบบนิเวศสื่อที่ดี
จากนั้นผนึกกำลัง 8 องค์กร ร่วมกันลงนามปฏิญญารวมพลังขับเคลื่อนต่อต้านข่าวลวงข่าวปลอม ประกอบไปด้วย 1.กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ 2.ผู้แทนสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ 3.Head of Thailand and Myanmar, Friedrich Naumann Stiftung Thailand (FNST) 4.สสส. 5.ผู้แทนองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย 6.คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 7.คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ 8.สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์
น. ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ประธานคณะทำงานคุ้มครองผู้บริโภค สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ นำเครือข่ายประกาศปฏิญญารวมพลังขับเคลื่อนต่อต้านข่าวลวงข่าวปลอม ดังนี้
1.ส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือซึ่งกันและกันในภาคีเครือข่าย เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันเพื่อรับมือและรวมพลังต่อต้านข่าวลวงในทุกระดับของสังคม
2.ส่งเสริมและสนับสนุนการผลักดันนโยบายในการต่อต้านข่าวลวงในระดับประเทศและเกิดการขับเคลื่อนงานด้านการต่อต้านข่าวลวง ทั้งในระดับสังคม ชุมชน และประเทศชาติ
3.ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาให้เกิดการศึกษาวิจัยและสร้างองค์ความรู้ด้านการต่อต้านข่าวลวง รวมทั้งหาแนวทางปฏิบัติต้นแบบ (Best Practice) เพื่อให้เกิดฐานความรู้และแนวทางปฏิบัติอันจะนำไปสู่การผลักดันให้เกิดพลังความรู้ของสังคม
4.พัฒนากระบวนการ รูปแบบการทำงาน และนวัตกรรม ตลอดจนเครื่องมือ หรือกลไกเฝ้าระวังเพื่อใช้ในการป้องกันและการแก้ไขปัญหาข่าวลวงอย่างมีส่วนร่วม ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ทั้งภาคีวิชาการ วิชาชีพ ผู้ผลิตสื่อ ภาคประชาชน และผู้ใช้สื่อ
5.ส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความรู้ความเข้าใจด้านการรู้เท่าทันสื่อสารสนเทศและดิจิตอล (Media Information and Digital Literacy: MIDL) ประชาชนเกิดภูมิคุ้มกันต่อปัญหาข่าวลวง และพัฒนาประชาชนในประเทศไปสู่ความเป็นพลเมืองดิจิตอล (Digital Citizen)
นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานประชุมสัมมนาสากลว่าด้วยข่าวปลอม "International Conference on Fake News" มี ผู้แทนภาคีเครือข่ายนักวิชาการ นักวิชาชีพ ในประเทศไทยและผู้แทนจากนานาชาติเข้าร่วม อาทิ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิตอลจากไต้หวัน นักวิชาการด้านสื่อมวลชนจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง (The University of Hong Kong) ผู้ขับเคลื่อนเชิงนโยบายจากพรรคฟรีเดโมแครตพาร์ตี สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ผู้แทนจากสำนักข่าวรอยเตอร์ และสำนักข่าวเอเอฟพี เข้าร่วมเป็นวิทยากรและร่วมเสวนา