ป้องกันอุบัติเหตุทางถนนของ ศปถ.อำเภอ จ.สงขลา
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
ภาพประกอบจากสำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
จังหวัดสงขลา ติดตามและแลกเปลี่ยนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนของศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.อำเภอ) ร่วมเสนอผลการดำเนินงานและร่วมถอดบทเรียนในการกำหนดแนวทางการป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุให้มีประสิทธิภาพเห็นผลเป็นรูปธรรมและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืน
วันนี้ (6 พ.ย. 61) ที่ห้องประชุมเฟื่องฟ้า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานการประชุมติดตามและแลกเปลี่ยนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนของศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.อำเภอ) โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ นายมาหามะพีสกรี วาแม ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา , นายเชาวลิต นิฒรรัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา , นางปราถนา วัชรานุรักษ์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ ผู้แทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา ฯลฯ เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน
นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การป้องกันอุบัติเหตุ จำเป็นที่ทุกหน่วยงานจะต้องร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งทั้งในแต่ละชุมชน แต่ละท้องถิ่น และแต่ละอำเภอ โดยเฉพาะอำเภอใหญ่ ๆ ที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อยากให้มีการคุมเข้มทุกมาตรการ เช่น การห้ามขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด , การสวมหมวกนิรภัย ฯลฯ นอกจากนี้ แต่ละอำเภอจะต้องเร่งวิเคราะห์สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในแต่ละพื้นที่อย่างละเอียด เพื่อหามาตรการในการป้องกันอุบัติเหตุ โดยอาจจะเป็นนวัตกรรม หรือมาตรการทางสังคมให้มีความเหมาะสมกับแต่ละชุมชน เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ลดความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง
ด้าน นายมาหามะพีสกรี วาแม ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา กล่าวว่า ตามที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดสงขลา จำนวน 3 โครงการ ซึ่งได้ดำเนินโครงการแล้วเสร็จไปแล้ว จำนวน 1 โครงการ คือ โครงการสานพลังสร้างมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนนจังหวัดสงขลา ซึ่งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา ได้ดำเนินกิจกรรมร่วมกับกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา , บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด และบริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชันซิสเทม จำกัด (ห้างเทสโก้โลตัส) คัดเลือกห้างเทสโก้โลตัสทั้งหมดในจังหวัดสงขลา จำนวน 9 สาขา และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา รวม 10 องค์กร เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จและจัดส่งผลการดำเนินงานแก่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดสงขลาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในระดับอำเภอจังหวัดสงขลา ตรัง พัทลุง โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา รับผิดชอบในการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนระดับอำเภอในจังหวัดสงขลา , โครงการขับเคลื่อนเครือข่ายเพื่อพัฒนาการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดสงขลา เพื่อพัฒนาเครือข่ายการเฝ้าระวังการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน แก่ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนอำเภอ ซึ่งได้ดำเนินกิจกรรมโครงการไปแล้ว ดังนี้ การสนับสนุนงบประมาณการดำเนินงานขับเคลื่อนศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนระดับอำเภอ ๆ ละ 5,000 บาท (ยกเว้นอำเภอสะเดา) , การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพแกนนำระดับอำเภอในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดสงขลา จำนวน 2 รุ่น ๆ ละ 8 อำเภอ ระหว่างวันที่ 21 – 22 และ 25 – 26 มิถุนายน 2561 ณ ห้องประชุม โรงแรมหาดใหญ่พาราไดส์ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ถนนราษฎร์อุทิศ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นคณะทำงานศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนอำเภอ (ศปถ. อำเภอ) , การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาเครือข่ายการเฝ้าระวัง การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ระหว่างวันที่ 6 – 7 สิงหาคม 2561 ณ ห้องประชุม โรงแรมหาดใหญ่พาราไดซส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
และในวันนี้ (6 พ.ย. 61) เพื่อให้การดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางระดับอำเภอ (ศปถ.อำเภอ) สามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้จัดประชุมในครั้งนี้ขึ้น เพื่อศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนอำเภอ เสนอผลการดำเนินงานและร่วมถอดบทเรียนในการกำหนดแนวทางการป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุให้มีประสิทธิภาพเห็นผลเป็นรูปธรรมและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืนต่อไป