ปิดเทอมสร้างสรรค์สนุกกับแอพ `แชะ-อัพ-แชร์`
"แหล่งเรียนรู้ คือ สถานที่ที่ทำให้เด็กๆ ได้เล่น ได้คิด ได้อ่านหนังสือ ได้ทำกิจกรรมที่เหมาะสม ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ทุกอย่างเป็นแหล่งเรียนรู้ได้หมดเลย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ หรืออาจจะเป็นกิจกรรม"
ดังนั้น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้จับมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม จัด "โครงการปิดเทอมสร้างสรรค์" เปิดพื้นที่การเรียนรู้ให้ช่วงเวลาปิดเทอมเป็นประตูสู่การเรียนรู้เด็กๆ โดยรวบรวม "แหล่งเรียนรู้" กว่า 2,000 แห่ง เผยแพร่ผ่านแอพพลิเคชั่น Do See ในการช่วยค้นหาและใช้ในการเล่าเรื่องถึงสถานที่นั้นๆ" ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวในงานแถลงข่าว โครงการ "ปิดเทอมสร้างสรรค์" ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เขตคลองสาน กรุงเทพฯ เมื่อเร็ว นี้
"โครงการนี้เกิดขึ้นเนื่องจากในช่วงปิดภาคเรียนมักพบปัญหา ทั้งอุบัติเหตุเด็กจมน้ำเสียชีวิตเฉลี่ย 4 คนต่อวัน พฤติกรรมเด็กติดจอมากกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ เช่น โรคอ้วนหรือปัญหาเด็กหาย ถูกล่อลวงจากอินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 5 รายต่อวัน จึงจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ให้เด็กหันมาใช้เวลาว่างในช่วงปิดภาคเรียนให้เกิดประโยชน์กว่า 100 โครงการ อาทิ กิจกรรมอาสา ค่ายกีฬาเยาวชน กิจกรรมสื่อสร้างสรรค์ เปิดในเยาวชนและครอบครัวที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมในพื้นที่ต่างๆ ฟรี และสามารถ แชะ อัพ แชร์ ถ่ายภาพและอัพเดทแนะนำพื้นที่แหล่งเรียนรู้ที่น่าสนใจให้คนอื่นได้รับประสบการณ์ดีๆ ไปพร้อมกัน เสมือนเป็นคอมมูนิตี้ย่อมๆ ที่เด็กสามารถแสดงความคิดเห็น กดไลค์ แบ่งปันและติดตามโปรไฟล์ของบุคคลอื่นได้ด้วย"
"ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์" รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการนี้ถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของหน่วยงานภาครัฐ เอกชนและภาคประชาสังคม มาร่วมกันเปิดพื้นที่เรียนรู้ ให้เป็นปิดเทอมที่สร้างสรรค์ อีกทั้งยังเป็นประตูการเรียนรู้ที่ยั่งยืนของเด็กไทยและสามารถขยายพื้นที่ให้ครอบคลุม รวมถึงพัฒนายุทธศาสตร์ในการทำงานร่วมกันระดับชาติต่อไป
"สหภูมิ ภูมิธฤติรัฐ" รองอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ได้จัดกิจกรรมเชิญชวนเยาวชนสืบสานด้านศิลปะและประติมากรรมใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้การไปศึกษาตามแหล่งเรียนรู้เพื่อทราบถึงวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์ เกิดการเรียนรู้นอกเหนือตำรา จึงเป็นสิ่งที่เยาวชนควรทำในวันนี้ สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารถติดต่อผ่านเฟซบุ๊ก ปิดเทอมสร้างสรรค์
ทางด้าน แบงค์ หรือ ทศพร กลั่นฉ้อน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบำรุงวิชา กล่าวว่า เทอมนี้จะชวนเพื่อนๆ มาร่วมกิจกรรมที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติ เพราะเชื่อว่าจะได้รับความรู้นอกเหนือตำราเรียนมาก โดยเฉพาะซุ้มศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้หรือท้องฟ้าจำลอง ได้นำกิจกรรมเกี่ยวกับการทายขนสัตว์และพับกระดาษเป็นรูปกวาง ซึ่งมีเกร็ดความรู้แฝงไว้ทุกที่
"น้องมิ้ว" ด.ญ.ณัฎฐชา แก้วปู่วัด อายุ 11 ปี เล่าว่า เช้าๆ จะมาวิ่งออกกำลังกายและตีแบดบางครั้งกลางวันก็มาทำการบ้านกับเพื่อนๆ หรือถ้าวันไหนมีกิจกรรม เช่น ประดิษฐ์สิ่งของก็จะชวนเพื่อนๆ เข้าร่วมกิจกรรม อ่านหนังสือในห้องสมุดด้านหลังสวน การอ่านหนังสือช่วยพัฒนาทักษะการเรียนได้
เช่นเดียวกับสองหนุ่มน้อยอย่าง "น้องกาย" ด.ช.รวิชวงศ์ ภู่จันทร์ อายุ 10 ปี และ "น้องโฮป" ด.ช.จุตรพัฒน์ อ่วมสร้อย อายุ 12 ปี บอกว่า เรียนนาฏศิลป์โขนที่สถาบันคึกฤทธิ์ ทำให้ร่างกายที่แข็งแรงเพราะถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัว แถมยังฝึกการอดทนด้วย ชุดหนักแต่สนุก เพราะได้เพื่อนใหม่ได้มิตรภาพ ใช้เวลาหลังเลิกเรียนมาทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ดีกว่าไปเล่นเกม และได้ช่วยรักษาวัฒนธรรมของไทยเอาไว้และช่วยกันสืบสานให้เด็กไทยรุ่นต่อๆ ไปอีกด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก โดยฉวีวรรณ มะโนปา