ปั่นเล่นปั่นรู้…เข้าสู่ 200 ปี ปทุมธานี
ปั่นเล่นปั่นรู้ เรียนรู้ธรรมชาติของปทุมธานี ในระยะทาง 40 กม. โดยมีนักปั่นร่วม 200 คน ออกแรงปั่นไปยังสถานที่สำคัญ ในพื้นที่ มุ่งหน้าสู่วัดปัญญานันทาราม เพื่อถวายสังฆทานและฟังธรรมร่วมกับพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมกิจกรรม
ในปี พ.ศ. 2558 จังหวัดปทุมธานี จะมีอายุครบ 200 ปี ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. 2358 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ได้เสด็จประพาสออกเยี่ยมชาวมอญ ที่ อ.สามโคก ยังความปลาบปลื้มมาสู่พสกนิกรจึงได้นำดอกบัวมาถวายกันไม่ขาดสาย ยังความซาบซึ้งพระราชหฤทัยเป็นยิ่งนัก จึงบันดาลพระราชหฤทัยให้พระราชทานเมืองสามโคกเสียใหม่ว่า "ประทุมธานี" ซึ่งตรงกับวันที่ 23 สิงหาคมในปีดังกล่าว จึงเป็นที่มาของจังหวัดชื่อปทุมธานี
ปทุมธานีกับกรุงเทพมหานครไม่ไกลกัน แต่ความเป็นชนบท ธรรมชาติของปทุมธานียังหลงเหลืออีกมาก อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญ
ก่อนที่จะครบรอบ 200 ปีเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานีร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) จัดกิจกรรม "ปั่นเล่นปั่นรู้…เข้าสู่ 
200 ปี ปทุมธานี" ขึ้น เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา แนะนำเส้นทางจักรยานยังแหล่งเรียนรู้สำคัญในระยะทาง 40 กม. โดยมีนักปั่นร่วม 200 คน เข้าร่วมกิจกรรม ออกแรงปั่นไปยังสถานที่สำคัญ ในพื้นที่ 8 จุด โดยมีจุดสตาร์ตออกตัว ณ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ มุ่งหน้าสู่วัดปัญญานันทาราม เพื่อถวายสังฆทานและฟังธรรมร่วมกับพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมกิจกรรม เข้าวัดวันอาทิตย์ใกล้ชิดศาสนา
วัดแห่งนี้สร้างขึ้นตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อพระ ธรรมโกศาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ให้เสมือนเป็นโรงพยาบาลทางใจของชาวโลก เมื่อมาสถานที่แห่งนี้จะพบแต่ความสะอาด สว่าง และสงบ ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของวัดแห่งนี้จึงเรียบง่าย มีลานแสดงธรรมใต้ร่มไม้ธรรมชาติ
ออกจากวัดขบวนจักร ยานเดินทางลัดเลาะไปตามถนนมีทั้งลำคลอง นาข้าวเขียวขจี ผ่านย่านชุมชน เพื่อไปยัง หอจดหมาย เหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ และหออัครศิลปิน ที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก หออัครศิลปินเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปะ และวัฒนธรรม สืบเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นเลิศในศิลปะทั้งมวล ก่อตั้งเมื่อปี 2539 ภายใน
จัดแสดงภาพผลงานฝีพระหัถต์ ภาพจิตรกรรม ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์
สำหรับหอจดหมายเหตุแห่งชาติ คือสถานที่รวบรวมมรดกทางวัฒนธรรม ลักษณะเดียวกับโบราณสถานและโบราณวัตถุ แต่กลับถูกบันทึกไว้ในวัสดุต่าง ๆ เช่น ตัวอักษร ภาพวาด ภาพเคลื่อนไหว เสียง เป็นต้น
ในเส้นทางถัดมาคือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติธรณีวิทยาเฉลิมพระเกียรติ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกาญจนาภิเษก และพิพิธภัณฑ์บัว (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี) ที่นี่เก็บรวบรวมพันธุ์บัว ปลูกรักษา ศึกษาการใช้ประโยชน์ ปัจจุบันมีพันธุ์บัวมากกว่า 100 สายพันธุ์ มีทั้งบัวหลวง บัวผัน บัวสาย บัวฝรั่ง บัววิกตอเรีย และบัวพันธุ์ไทยหายาก ในพื้นที่ 18 ไร่
ก่อนจะไปสิ้นสุดที่ อพวช. ในแหล่งเรียนรู้อีกแห่งที่น่าสนใจแห่งท้องทุ่งรังสิต คือ ท้องฟ้าจำลอง (รังสิต) สถานที่รวมเรื่องราวของดวงดาวมากมาย สำหรับเด็ก ๆ ที่นี่น่าตื่นเต้นเพราะการฉายภาพท้องฟ้ายามค่ำคืน พร้อมเรื่องราวของดาวแต่ละดวงหลายคนอาจยังไม่เคยสัมผัส
ภายในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ขณะนี้ยังมีนิทรรศการหมุนเวียนของสสส. ตอน "ถีบฉันทำไมอีก" และ "ถีบ…เปลี่ยนเราเปลี่ยนโลก" เล่าเรื่องราวของจักรยาน คุณค่าของจักรยานต่อการเผาผลาญไขมันในร่างกาย
ตลอดระยะทางการปั่น เหล่านักปั่นได้เรียนรู้ จ.ปทุมธานี ในอีกแง่มุมเด็กหลายคนที่มาร่วมปั่นบอกว่า แม้ทางโรงเรียนจะพามาบางจุดแล้ว แต่การได้พาตัวเองไปสัมผัสสายลมยามเช้า และไอแดดก่อนกินมื้อเที่ยงคือ เรื่องราวที่วิเศษ
ด.ญ.ธัญพิชชา ธรรมชาติ วัย 9 ขวบ บอกเล่าประสบการณ์ประทับใจหลังมาร่วมปั่นกับคุณแม่ พ.อ.อ.ณิชาภัทร ธรรมชาติ และ คุณอา จ.ส.อ.สรศักดิ์ วงษ์เพ็ญ ว่า รู้สึกสนุกและตื่นเต้นกับการมาปั่นจักรยาน ไม่กังวลเรื่องการปั่น เพราะใช้จักรยานพ่วงที่มากับคุณอาหากไม่มีแรงก็พักขาได้ บางสถานที่เคยมากับที่โรงเรียนแต่มาครั้งนี้ได้ปั่นจักรยานมา
"ก็มีร้อนบ้างแต่เมื่อปั่นไปก็มีลมเย็น ๆ พัดมา" น้องธัญพิชชาเล่า ขณะที่คุณอาเสริมว่า ชื่นชมกิจกรรมนี้ปกติครอบครัวจะปั่นจักรยานกันเป็นประจำอยู่แล้ว
เหล่าขบวนจักรยานมารวมตัวกันร่วมรับประทานอาหาร เที่ยงร่วมกัน รับของที่ระลึกถ่ายทอดประสบการณ์ เป็นการปิดทริปจักรยานอย่างมีความสุข ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส.คุณเบญจมาภรณ์ จันทรพัฒน์ ฝากบอกว่า สำหรับบุคคลที่ต้องการค้นหาแรงบันดาลใจไปกับกิจกรรมที่จะสร้างประสบการณ์และทัศนคติที่ดีบนเส้นทางการเรียนรู้ ติดตามกิจกรรมเหล่านี้ได้ที่ เว็บไซต์ www.thaihealthcenter.org
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
