ปั่นยกครัวหนีอ้วน หนีโรค


          สสส. แนะวิธีออกกกำลังกายที่เหมาะสมกับคนอ้วนด้วยการปั่นจักรยาน เพราะไม่กระทบกับข้อเท้า หัวเข่า


/data/content/23931/cms/e_acefkmovz249.jpg


          สถานการณ์ตอนนี้ของสังคมไม่ว่าจะเป็นเด็กและผู้ใหญ่ ต่างประสบปัญหากับความอ้วนเนื่องจากสภาวะแวดล้อมที่ขาดการเคลื่อนไหว เช่น การออกกำลังกาย และรับประทานอาหารจำพวกขยะ อุดมไปด้วยแป้ง น้ำตาล ไขมัน และรสหวาน-เค็ม จนเกินความต้องการของร่างกาย


          คนส่วนใหญ่พอมารู้ตัวอีกทีก็น้ำหนักขึ้นไปหลายกิโลกรัม หรือกลายเป็นคนอ้วนไปแล้ว บางรายเคราะห์ร้ายมีโรคติดตัวกลับมา อาทิ โรคความดัน เบาหวาน ล้วนเป็นบ่อเกิดของโรคภัยไข้เจ็บที่น่ากลัว เช่น โรคหัวใจ หลอดเลือด โรคอัมพฤกษ์ และอัมพาต


          ขณะที่ช่องทางการออกกำลังกายก็ลดน้อยลง รวมทั้งในรายที่อ้วนมากๆ ไม่สามารถเล่นกีฬาที่เกี่ยวข้องกับการวิ่งได้ เพราะน้ำหนักตัวมาก และอาจไปกระทบกับข้อเท้าและหัวเข่า ด้วยเหตุนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงแนะนำวิธีออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคนอ้วนด้วยกิจกรรมปั่นจักรยาน ซึ่งขณะนี้ถือเป็นกีฬาที่ยอดฮิต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้จัดพื้นที่รองรับกีฬาประเภทนี้มากมาย อย่างเช่น สวนสาธารณะต่างๆ สวน รฟม. แยกผังเมือง ถนนพระราม 9 และเส้นทางจักรยานรอบสนามบินสุวรรณภูมิ ระยะทาง 23.5 กิโลเมตร ซึ่งคนเมืองกรุงจากพื้นที่ใกล้เคียงมักหาเวลาวันว่างพาครอบครัวมาปั่นกัน ที่สำคัญปลอดภัย ไม่ต้องกลัวเรื่องของอุบัติเหตุจากรถ


          ข้อดีของจักรยานที่ต้องการแนะนำคือ สะดวก สิ้นเปลืองน้อย และสุขภาพดี โดยเฉพาะคนอ้วนสามารถออกกำลังกายได้ทันที เพราะนอกจากไม่กระทบกับข้อเท้า หัวเข่าแล้ว ยังสร้างความแข็งแรงให้แก่กล้ามเนื้อต้นขา ที่สำคัญยังช่วยในการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ลดอัตราการสะสมของไขมันที่ผนังหลอดเลือดได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ หากสามารถออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้หัวใจแข็งแรง กล้ามเนื้อหัวใจทำงานได้ดีขึ้น


          อีกทั้งยังสามารถคลายเครียด เพราะเมื่อปั่นจักรยานในสถานที่เหมาะสมแล้ว ยังช่วยให้ระบบหายใจแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนเพื่อนำไปสร้างเม็ดเลือดขาวในกระแสเลือดได้ดีขึ้น และส่งผลให้เราอารมณ์ดีจากการเพิ่มของระดับฮอร์โมนเอนดอร์ฟินอีกด้วย


          วิธีการปั่นจักรยานลดความอ้วน ถ้าขี่จักรยานบนทางราบด้วยความเร็วน้อยกว่า 20 กม.ต่อ ชม. อย่างนี้ถือว่าช้าไป จะไม่เกิดสภาพแอโรบิกที่ต้องการ อย่าลืมว่าการขี่จักรยานเป็นการออกกำลังที่ตัวจักรยานมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพมาก ถ้าขี่ช้าๆ ตัวจักรยานจะเป็นตัวช่วยเสียส่วนใหญ่ ประโยชน์ต่อหัวใจก็ไม่มี หรือมีก็น้อย


/data/content/23931/cms/e_adfklmnuwyz1.jpg


          ดังนั้นจึงควรถีบจักรยานอยู่ในช่วงความเร็วประมาณ 25-28 กม.ต่อ ชม.  จึงถือว่าได้ออกกำลังกายเต็มที่ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องหักโหม หากยังทำไม่ได้ช่วงแรก ก็พักบ้างหรือลดความเร็ว และเมื่อปั่นบ่อยๆ ร่างกายแข็งแรงขึ้น แล้วค่อยเพิ่มความเร็วขึ้น


          ตอนเริ่มใหม่ๆ ถีบไปสัก 20 นาทีก็พอ แล้วพักจนชีพจรกลับมาเป็นปกติ แล้วก็เริ่มซอยขาใหม่ต่ออีกจนรู้สึกเหนื่อยแบบสบายๆ คือเหนื่อย แต่ไม่ใช่เหนื่อยจนเดินไม่ได้ หัวใจแทบจะเต้นออกมานอกอกหล่นไปกองกับพื้น จนเกือบถูกจักรยานที่ขี่อยู่ทับเอา อย่างนี้ใช้ไม่ได้ มันเหนื่อยเกินไป เอาแค่เหนื่อยไม่มากก็เป็นพอ


          การปั่นที่ดีควรพยายามให้เหมือนกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ครั้งละไม่ต่ำกว่า 40 นาที 3-4 วันต่อสัปดาห์ การขี่จักรยานโดยเฉลี่ยจะใช้พลังงานประมาณ 300 แคลอรี/ชม. ซึ่งการใช้พลังงานขนาดนี้ถ้าทำสม่ำเสมอก็จะสามารถลดความอ้วนได้ และที่สำคัญต้องทำควบคู่กับเลือกรับประทานให้เหมาะสม ก็จะทำให้การลดน้ำหนักได้เร็วยิ่งขึ้น


          รู้ข้อดีของจักรยานมากมายขนาดนี้ อย่ารอช้า รีบไปหยิบหรือหาซื้อจักรยานที่เหมาะสมกับตัวเองและออกไปปั่นออกกำลังกายกัน


          ชวนปั่น 23.5 กม.รอบสุวรรณภูมิ


          หลังจากกระแสปั่นจักรยานเข้ามาคึกคักช่วงนี้ บริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) ทอท. ได้ตอบแทนสังคมด้วยการทำเส้นทางจักรยานรอบแนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วมรอบสนามบินสุวรรณภูมิ ระยะทาง 23.5 กม. เพื่อให้ประชาชนมาใช้บริการฟรี และออกกำลังกายได้อย่างปลอดภัย โดยไม่มีรถประเภทอื่นเข้ามาในพื้นที่


          โดยมีการปรับพื้นผิวถนนด้วยการฉาบผิวทางแบบสเลอรีซีล (Slurry Seal) เพิ่มความฝืดของผิวถนนให้เหมาะสมกับการปั่นจักรยาน และทาสีเขียวเพื่อทัศนวิสัยที่ดีในการปั่นจักรยาน โดยเปิดบริการตั้งแต่เวลา 06.00-17.30 น. ทุกวัน โดยต้องนำบัตรประชาชนไปแลกเพื่อนำไปใช้บริการ ซึ่งเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัย เพราะอยู่ใกล้สนามบิน


          รวมทั้งใส่เสื้อผ้าสวมสบายมากที่สุด เพราะต้องเจอสภาพอากาศร้อนและความล้าระหว่างการปั่นต้านลมแรงๆ ในบางช่วงระยะทาง และต้องเตรียมน้ำดื่มให้เพียงพอ ทาครีมกันแดด แว่นกันแดด ช่วยปกป้องผิวและสายตาจากแสงแดด และที่สำคัญสุดต้องสวมหมวกกันน็อกเพื่อความปลอดภัย พร้อมทั้งพกโทรศัพท์มือถือ หากเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถโทร.มาขอความช่วยเหลือได้ที่เบอร์ 0-2132-4000


          สำหรับการมาเส้นทางจักรยานมี 2 เส้นทางหลักๆ คือ มาทางถนนมอเตอร์เวย์ เลี้ยวเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ก่อนจะถึงสนามบินให้เลี้ยวซ้ายไปบริเวณที่จอดรถระยะยาว จากนั้นเลี้ยวขวา เพื่อไปถนนบางนา-ตราด ประมาณ 7 กม. โดยไม่ต้องขึ้นสะพานและให้ไปกลับรถจะพบทางเข้าอยู่ด้านซ้ายมือ หรือหากมาทางถนนบางนา-ตราด ให้มุ่งหน้ามาสนามบินสุวรรณภูมิ และเมื่อลงสะพานให้ลดความเร็ว และเลี้ยวทางแยกเล็กๆ ทางซ้ายมือ และเลี้ยวไปทันที ก็จะพบทางเข้าไบค์เลนสีเขียวสดใส โดยมีที่จอดรถยนต์จำนวนมากรองรับอยู่


 


 


         ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

Shares:
QR Code :
QR Code