“ปอดบวม” คร่าเด็กเล็กทั่วโลกปีละกว่า 2 ล้านคน
เตือนพ่อแม่ดูแลลูกหลานใกล้ชิด
“กุมารแพทย์” ชี้ยาปฏิชีวนะรักษา “ปอดบวม” ไม่ได้ผล ระบุคร่าชีวิตเด็กอายุต่ำกว่ากว่า 5 ขวบ ทั่วโลกปีละกว่า 2 ล้านคน แนะใช้วัคซีนรักษาโรคติดเชื้อ “นิวโมคอคคัส” หรือ “โรคปอดบวม” ได้ดีที่สุด เตือนพ่อแม่ดูแลลูกหลานใกล้ชิด ย้ำล้างมือบ่อยๆ ปิดปาก-จมูกทุกครั้งที่จาม
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่โรงแรมเอเชีย สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย และสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทยจัดประชุมสัมมนาระดับชาติเรื่อง “โรคติดต่อเชื้อนิวโมคอคคัสในประเทศไทยครั้งที่ 1” โดยมี รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนันท์ กุมารแพทย์โรคติดเชื้อ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติโรคติดเชื้อเข้าร่วมกว่า 200 คน
รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าวว่า เป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการรวมตัวของกุมารแพทย์โรคติดเชื้อทั่วประเทศ เกี่ยวกับโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัส ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคปอดบวม เพราะเชื้อนิวโมคอคคัสดื้อยาปฏิชีวนะรักษาไม่ได้ผล อีกทั้งองค์การอนามัยโลกระบุว่า เชื้อนิวโมคอคคัส เป็นต้นเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ทั่วโลกกว่า 2 ล้านคนต่อปี ส่วนประเทศไทยพบว่า เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ติดเชื้อนิวโมคอคคัส ประมาณ 21 คน ต่อประชากรเด็กกว่า 1 แสนคน
“เชื้อนิวโมคอคคัสเกิดจากแบคทีเรียแพร่กระจายง่าย และก่อให้เกิดโรคติดเชื้อรุนแรง เช่น การติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนล่าง ปอดบวม ติดเชื้อในกระแสเลือด ติดเชื้อทางเดินหายใจ โรคหูหนวก ไซนัสอักเสบ หากไม่ได้รับการรักษา โดยรับประทานยาปฏิชีวนะหรือฉีดวัคซีน จะทำให้เด็กเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะหน้าหนาวเชื้อแพร่กระจายได้ดี” รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าว
รศ. (พิเศษ) นพ.ทวี กล่าวถึงแนวทางรักษาโรคปอดบวมที่ได้ผลว่า การฉีดวัคซีนเป็นการป้องกันที่ได้ผลดีที่สุด แต่ค่าใช้จ่ายเข็มละ 3,500-5,000 บาท และต้องฉีด 4 ครั้งเสียค่าใช้จ่ายกว่า 1 หมื่นบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงรัฐบาลควรสนับสนุนการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อดังกล่าวฟรีให้เด็กทุกคน หากทำได้เหมือนทั่วโลก จะลดผู้ป่วยติดเชื้อนิวโมคอคคัสได้ถึง 3.9 ล้านคน ขณะเดียวกันพ่อแม่ควรดูแลลูกหลานใกล้ชิด ล้างมือบ่อยๆ ปิดปาก-จมูกทุกครั้งที่จาม เพื่อป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัส
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
update 27-11-51