ปรุง “เมนูสุขภาพ” กินกันเถอะ

ช่วยให้คนไทยปลอดภัย ปลอดพุง

 

          คนไทย “ลงพุง” กันเยอะค่ะ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ “อ้วนลงพุง” คนลงพุงมักมีเหตุผลมากมายแล้วแต่จะอ้างบ้างก็ว่างานเยอะ เครียด ก็เลยต้องกินมันเข้าไป บ้างก็ว่าที่ทำงานไม่ค่อยมีอาหารที่เป็นผักขาย มีแต่แป้ง เนื้อสัตว์แล้วก็อาหารหวานๆ มันๆ ฟังแล้วก็ได้แต่เฮ้อ…ถอนหายใจให้คนเจ้าเหตุผล แต่ที่ทำเอาคนเป็นผู้ใหญ่อย่างเราๆ รู้สึกหดหู่ใจไม่น้อย ก็เด็กไทยตัวน้อยๆ ที่อ้วนลงพุงกันนี่แหละค่ะที่ชอบกินขนมผงชูรสเยอะ ขนมหวาน รวมทั้งอาหารจังค์ฟู้ด เช่น พิซซ่า เฟรนช์ฟรายด์ แฮมเบอร์เกอร์ ที่ฝรั่งเค้าเรียก “อาหารขยะ” นั่นแหละค่ะ แต่เด็กไทยชอบ…เฮ้ออออออ

 

          ปัญหาคนไทยอ้วนลงพุงกำลังลุกลามมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะพฤติกรรมตามใจปาก ขณะเดียวกันบริษัทและผลิตภัณฑ์ช่วยลดความอ้วนก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดที่ดีและได้มาตรฐานจริงก็มีแต่ที่ฉวยโอกาสมาหลอกลวงก็เยอะ ทั้งที่จริงๆ แล้วถ้าอยากจะเริ่มต้นลดความอ้วน ควรเริ่มที่ “ใจตัวเอง” ก่อน…จริงไหมคะ เอาน่า..คิดเสียว่าเป็นเรื่องหมูๆ ที่หมูอย่างเราทำได้

 

          วันก่อน มีโอกาสไปร่วมงาน “ประชุมโครงการเครือข่ายคนไทยไร้พุง ครั้งที่ 1/2553” ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่าง คณะกรรมการอำนวยการ และคณะกรรมการดำเนินงานจากกรุงเทพมหานคร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เครือข่ายคนไทยไร้พุง กระทรวงสาธารณสุขราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อหาแนวทางดำเนินงานโครงการเครือข่ายคนไทยไร้พุง และพัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพ การแก้ปัญหาโรคอ้วนของประชาชนในเขตเมือง พร้อมทั้งการพัฒนาเครื่องมือ นวัตกรรมสำหรับผู้ให้บริการทางการแพทย์และประชาชนที่ช่วยสนับสนุน และการจัดการปัญหาโรคอ้วนลงพุง ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพและโรคอื่นๆ อาทิ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเส้นเลือด และโรคหัวใจ ซึ่งล้วนแต่เป็นโรคร้ายบั่นทอนสุขภาพ

 

          ความรู้ที่ได้รับจากงานนี้คือ การเริ่มต้นดูแลดูแลตัวเองไม่ให้อ้วนลงพุงด้วย “หลัก 3 อ.” คือ การดูแลอาหาร การออกกำลังกายและการทำอารมณ์ให้แจ่มใส วันนี้เลยมี “เมนูสุขภาพ” ที่ทำง่าย สะดวก รวดเร็ว มาแนะนำคนอยากลดพุง นั่นคือ “น้ำพริกกะปิ” ซึ่งถือเป็นน้ำพริกที่ได้รับความนิยมแทบทุกครัวเรือนอ๊ะๆ อย่าเพิ่ง ดูถูกไป น้ำพริกถ้วยเล็กๆ ถ้วยนี้คืออาหารที่ที่เชื่อมร้อยความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ทั้งยังเชื่อมโยงฐานทรัพยากรอาหารที่สำคัญที่สุดของเราคือ ข้าว-ปลา-ผักพื้นเมือง เข้าด้วยกัน เพราะน้ำพริกทำให้เรากินผักได้มากขึ้น กินข้าว และปลาได้เอร็ดอร่อยขึ้น แถมมีฤทธิ์เสริมเสริมสุขภาพให้แข็งแรง เพราะอุดมไปด้วยวิตามินแคลเซียม และโปรตีน ช่วยป้องกันอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องถ่าย และทำให้ระบบเลือดไหลเวียนดี

 

          ทีนี้เรามาลงมือตำน้ำพริกกันดีกว่า ก่อนอื่นต้องเตรียมเครื่องปรุงก่อน ซึ่งหาซื้อได้ทั่วไป ได้แก่  พริกขี้หนูหอม หรือพริกชี้ฟ้า กะปิ กระเทียม น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ มะเขือพวง มะนาวน้ำสุก วิธีปรุงก็แค่ใส่กระเทียมกับกะปิลงในครก ตำให้ยุบประมาณกระเทียม 1 กลีบ แตก 4 ส่วน จากนั้นใส่พริกขี้หนูลงไปโขลกให้พอบุบ ตามด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ลงไปคลุกเคล้าให้ออกรสเปรี้ยว เค็ม หวาน แล้วจึงใส่น้ำต้มสุก ปรุงรสชาติให้กลมกล่อม หลายบ้านนิยมใส่มะเขือพวง หรือกะทิ หรือใส่แมงดาเพื่อให้รสชาติอร่อยขึ้น (แล้วแต่คนชอบ) โดยโขลกมะเขือพวงให้พอบุบๆ ในครกเป็นอันเสร็จ…ตักใส่ถ้วยมานั่งล้อมวงกันเล้ย

 

          ส่วนเครื่องแนมจะเป็นอย่างอื่นก็ไม่อร่อยเท่ากินน้ำพริกแนม “ผัก” กับ “ปลา” โดยผักสดที่นิยมนำมากิน แนมกับน้ำพริก ได้แก่ แตงกวา มะเขือ ถั่วฝักยาว ส่วนผักต้ม ได้แก่ ถั่วฝักยาว น้ำเต้า บวบต้ม มะเขือต้ม ผักกระเฉดต้มกะทิ ดอกแคต้ม ฟักทอง ผักดอง ได้แก่ ผักตับเต่าดองมะขาม ผักบุ้งดองมะขามสด ผักเสี้ยนดอง สายบัวดอง ส่วน “ปลา” ที่นิยมนำมากินแนมกับน้ำพริกมักเป็นปลาย่าง เช่น ปลาดุกอุย ปลาช่อน ปลาหมอ แต่คนกลางชอบปลาทูทอด

 

          เขียนไป น้ำลายสอไป อยากกินน้ำพริก ผักต้ม ปลาทอดจังเลยค่ะ อาหารถูกปาก ทำเองก็สะอาดปลอดภัย แถมมีคุณค่าทางโภชนาการมากมายอย่างนี้ ใครอยากลดพุงอย่าลืมปรุงเมนูที่นำมาแนะนำดูนะคะ

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

 

 

Update 17-02-53

 

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์