ปรับขนาดภาพคำเตือนบนซองบุหรี่
บุหรี่ขยายพื้นที่ภาพคำเตือนเป็น 85% ก่อนเวลาดีเดย์ มูลนิธิรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ชี้ไม่มีบริษัทยาสูบใดร้องเรียน ชัดเจนไม่ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างที่บริษัทยาสูบข้ามชาติฟ้องร้อง เริ่มบังคับภายใน 23 ก.ย.นี้
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า ประกาศกระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้การวางจำหน่ายบุหรี่ซิกาแรตต้องมีขนาดภาพคำเตือน 85% ของพื้นที่ซอง โดยให้เวลา 3 เดือนในการปรับเปลี่ยนรูปแบบซองบุหรี่ คือภายใน 23 ก.ย. ซึ่งจากการตรวจสอบร้านขายปลีกบุหรี่พบว่า ซองบุหรี่ซิกาแรตที่มีขนาดภาพคำเตือน 85% ได้มีการวางจำหน่ายแล้ว ทั้งบุหรี่ที่ผลิตโดยโรงงานยาสูบและที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยใช้เวลาไม่ถึง 2 เดือน
"จากการสอบถามสำนักควบคุมยาสูบ กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบว่า ไม่มีบริษัทบุหรี่ร้องเรียนว่ามีปัญหาในการปฏิบัติตามกฎหมาย แสดงว่าคำฟ้องต่อศาลปกครองที่อ้างว่าประกาศฉบับนี้เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ทางเทคนิคนั้น ความเป็นจริงเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก และที่อ้างว่าภาพคำเตือนขนาด 85% จะทำให้มองไม่เห็นเครื่องหมายการค้า ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ร้านค้าปลีกก็เป็นเรื่องที่กล่าวอ้างเกินจริง" ศ.นพ.ประกิต กล่าว
ศ.นพ.ประกิต กล่าวว่า ทั้งนี้ บริษัทบุหรี่ยังสามารถแสดงเครื่องหมายการค้าบนซองบุหรี่ที่เหลือบนพื้นที่ซอง 15% ให้เห็นได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งยังมีการแสดงเครื่องหมายการค้าในขนาดเดิมที่ฝาปิดและก้นซองบุหรี่ในซองบุหรี่ชนิดแข็งด้วย ส่วนกรณีที่กล่าวอ้างว่าภาพคำเตือนขนาด 85% ไม่ได้สัดส่วนและเกินความจำเป็นนั้น บริษัทบุหรี่ควรจะพึงพอใจแล้ว เพราะมีกำไรมหาศาลในแต่ละปี โดยโรงงานยาสูบมีกำไรปีละไม่ต่ำกว่า 6-7 พันล้านบาท และบริษัทฟิลลิป มอร์ริสได้กำไรปีละ 3 พันล้านบาท ในขณะที่มีคนไทยเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ปีละ 50,710 คน
ทั้งนี้ 5 ประเทศที่มีภาพคำเตือนบนซองบุหรี่ขนาดใหญ่ที่สุด ได้แก่ ออสเตรเลีย ขนาด 87.5% ประเทศไทย 85% และเนปาล บรูไน แคนาดามีขนาด 75% ทั้งนี้ภาพคำเตือนขนาดใหญ่บนซองบุหรี่เป็นมาตรการที่คุ้มค่าที่สุดในการเตือนพิษภัยของบุหรี่ เนื่องจากสามารถเข้าถึงคนที่สูบบุหรี่ทั่วประเทศ รวมทั้งคนใกล้ชิดที่ไม่สูบบุหรี่โดยที่รัฐบาลไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายด้วย
ที่มา : เว็บไซต์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต