ปรับกระบวนทัศน์ 5 ข้อ สร้างจุดเปลี่ยนสังคมไทย

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข


ปรับกระบวนทัศน์ 5 ข้อ สร้างจุดเปลี่ยนสังคมไทย thaihealth


แฟ้มภาพ


“องคมนตรี” ยกพระราชดำรัส ร.10 ห่วงการศึกษา เน้นสร้าง “คนดี” นำ “คนเก่ง” เชื่อกระบวนทัศน์ 5 ข้อ “พอเพียง-วินัย-สุจริต-จิตสาธารณะ-รับผิดชอบ” สร้างจุดเปลี่ยนสังคมไทยใน 5-10 ปี “ดร.เทียนฉาย” หวั่นคนไทย ขาดดุลพินิจ หลงเชื่อโยไม่ไตร่ตรอง  เร่งเตรียมพร้อมคนไทย 4.0


เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย คณะอนุกรรมการเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 ร่วมกับองค์กรเครือข่ายสร้างกระบวนทัศน์และหลักคิดที่เหมาะสมสำหรับคนไทย สำนักงานสุขภาพแห่งชาติ (สช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน)ภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน จัดงาน “การสร้างกระบวนทัศน์และหลักคิดที่เหมาะสมสำหรับคนไทย” พร้อมประกาศเจตนารมณ์พันธะสัญญาร่วมกันขององค์กรภาคีเครือข่าย 275 เครือข่าย กว่า 500 คน เพื่อร่วมสร้างกระบวนทัศน์และหลักคิดสำหรับคนไทย


ปรับกระบวนทัศน์ 5 ข้อ สร้างจุดเปลี่ยนสังคมไทย thaihealth


โดย ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “หลักคิดที่เหมาะสมสำหรับคนไทย” ว่า สังคมไทยในอดีตได้รับการยกย่องจากต่างชาติในเรื่องความอ่อนโยน มนุษยธรรม กตัญญู แต่ปัจจุบันเราเผชิญกับวิกฤติคุณธรรม ต้นทุนเหล่านี้ลดต่ำลงจากกระแสความเปลี่ยนแปลงทั้งภายในและภายนอกประเทศที่กระทบเข้ามา ทำให้ถึงเวลาที่เราจะต้องคิดว่า จะปล่อยให้กระแสไหลบ่าจนพาตกเหว หรือ ลุกขึ้นมาสู้กับมัน ซึ่งปัจจุบันจำเป็นต้องทำให้ต้นทุนที่เรามีอยู่มีคุณค่าขึ้นมา โดยสถาบันหลักของไทย คือ สถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันศาสนา สถาบันครอบครัวและชุมชน ซึ่งการปรับกระบวนทัศน์ทั้ง 5 ข้อ คือ 1 พอเพียง 2 วินัย 3 สุจริต 4 จิตสาธารณะ 5 รับผิดชอบ จำเป็นต้องทำให้เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่เพียงให้สอนกันในโรงเรียนและให้เด็กท่องจำเพื่อหวังคะแนนอย่างเดียว แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องนำไปปฏิบัติต่อให้เกิดผล ซึ่งโครงการโรงเรียนคุณธรรม ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงริเริ่มไว้เป็นต้นแบบสำคัญของการปรับใช้เป็นกระบวนทัศน์ 5 ข้อ ซึ่งทรงตรัสว่า “การสร้างคนดี ให้แก่บ้านเมืองเป็นเรื่องที่ยากและยาวแต่ก็ต้องทำ” ดังนั้น การเรียนการสอนจะไม่ได้เน้นให้เด็กเก่ง แต่ทำให้เด็กมีน้ำใจ มีจิตอาสา สามัคคี หันมาช่วยเหลือกัน ซึ่งพบว่าการที่เด็กมีน้ำใจ มีคุณธรรม ส่งผลให้เด็กเรียนดีขึ้นกว่าเดิม วัดได้จากสถิติการสอบโอเน็ตอยู่ในลำดับที่ดีขึ้นเรื่อยๆ


“หากจะสร้างให้เด็กมีวินัยได้ต้องเริ่มตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งปัจจุบันเด็กอยู่ในระบบการศึกษา จึงต้องให้ความสำคัญในประเด็นการสร้างคน โดยเน้นคนดี มากกว่าคนเรียนเก่ง ไม่ใช่แข่งกันเรียน แข่งกันกวดวิชา แต่ต้องปรับความคิดมีจิตอาสา เด็กช่วยกันติว ให้คำแนะนำกันเรื่องการเรียน เน้นเรื่องระบบธรรมาภิบาล ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้องค์กรหรือโรงเรียนมีคุณภาพ คุณธรรม จัดสิ่งแวดล้อม เชื่อว่า 5-10 ปีนี้ ประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น” ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม กล่าว


ปรับกระบวนทัศน์ 5 ข้อ สร้างจุดเปลี่ยนสังคมไทย thaihealth


ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงเห็นความสำคัญด้านการศึกษา และพระราชทานราโชบายด้านการศึกษา ซึ่งทรงอยากให้การศึกษาต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน คือ 1 ทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง เข้าใจในพื้นฐานของบ้านเมือง ยึดมั่นในศาสนา มั่นคงในสถาบันพระมหากษัตริย์ และเอื้ออาทรต่อครอบครัวชุมชน 2 พื้นฐานชีวิตที่มั่นคงเข้มแข็ง รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี ปฏิบัติแต่สิ่งที่ชอบ สิ่งที่ดี ปฏิเสธสิ่งที่ผิด สิ่งที่ชั่ว ช่วยกันสร้างคนดีแก่บ้านเมือง 3 มีอาชีพ มีงานทำ ไม่ใช่เรียนอย่างเดียวแต่ไม่สามารถนำมาปฏิบัติใช้ได้ และ 4 เป็นพลเมืองดี ไม่ว่าครอบครัว สถานศึกษา สถานประกอบการ ต้องส่งเสริมให้โอกาสทำหน้าที่พลเมืองดี โดยเห็นอะไรที่ดีต่อชาติบ้านเมืองก็ต้องทำ เช่นงานจิตอาสาเป็นต้น โดยสิ่งสำคัญที่เน้นย้ำคือ การทำเพื่อชาติบ้านเมือง


ศ.กิตติคุณ ดร.เทียนฉาย กีระนันทน์ กรรมการขับเคลื่อนการปฎิรูปเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และประธานคณะอนุกรรมการเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 กล่าวว่า เป้าหมายของการพัฒนาคนไทยตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี คนไทยต้องเป็นคนที่สมบูรณ์ มีสมรรถนะทางกาย มีจิตใจและจิตสำนึกที่ดีงาม และมีสติปัญญามีการเรียนรู้ตลอดชีวิต หัวใจของการเตรียมคน คือ สร้างกระบวนทัศน์และหลักคิดที่เหมาะสม พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ และการปรับกระบวนทัศน์และหลักคิดคนไทยให้เหมาะสม มีความพร้อมสู่ศตวรรษที่ 21 เป็นหนึ่งในภารกิจหลักในการปฏิรูปประเทศ เพื่อเปลี่ยนผ่านประเทศไทยไปสู่ศตวรรษที่ 21 โดยใช้โมเดลประเทศไทย 4.0 (Thailand 4.0) การสร้างคนให้มีความพร้อมอย่างสมดุลทั้งในด้านการเรียนรู้ การมีหลักคิด และมีค่านิยมที่ถูกต้อง


“สถานการณ์ปัญหาคนไทยยุคปัจจุบัน มีแนวโน้มการใช้พฤติกรรมเสี่ยงมากขึ้น ขาดคุณธรรม วินัย ความซื่อสัตย์ มีปัญหาด้านคุณภาพเกือบทุกช่วงวัย ดูแลลูกหลานพ่อแม่ไม่ดีพอ สิ่งที่หนักที่สุด คือ ขาดดุลพินิจเปราะบางอ่อนไหว ในการเลือกใช้ชีวิต ทั้งพฤติกรรม เทคโนโลยี ทำให้เราหลงเชื่อเร็วโดยไม่ไตร่ตรอง  เป้าหมายจริงๆ ที่เราอยากเห็นคือ การที่คนไทยมีจิตสำนึก เห็นแก่ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน กว่าที่จะไปถึงเป้าหมายยาวไกลนี้มีหลายวิธีด้วยกัน แต่ 5 กระบวนทัศน์สำคัญนี้ จะเป็นกุญแจไขไปถึงการแก้ปัญหาได้ ซึ่งหลักการทั้งหมดเราได้รับใส่เกล้ามาจาก รัชการที่ 9 แล้วทั้งสิ้น” ศ.กิตติคุณ ดร.เทียนฉาย กล่าว


ด้าน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า นโยบายสำคัญของกระทรวงวิทย์ฯ ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ คือ การเตรียมคนไทยเข้าสู่ศตวรรษที่21 ผ่านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) หรือ “วิทย์สร้างคน” ซึ่งเน้นทุกช่วงวัย โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ให้มีกระบวนการความคิดที่เป็นเหตุเป็นผล เป็นเชิงวิทยาศาสตร์ ที่มีหลักฐานอ้างอิงได้ (Scientific Thinking) มีความตระหนักในหลักธรรมาภิบาล เสริมสร้างให้เกิดวัฒนธรรมวิทยาศาสตร์อย่างทั่วถึง โจทย์สาคัญที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีฝากไว้คือ ทำให้คนไทยมีความคิดความอ่าน แบบมีเหตุผล เป็นพลเมืองดีที่ตื่นรู้ เชื่อมโยงกับความดีงามตามแนวทางไทยนิยมยั่งยืน มีจิตวิญญาณและสปิริตที่หวังประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติเป็นสำคัญ อันเป็นรากฐานสาคัญของระบอบประชาธิปไตย

Shares:
QR Code :
QR Code