ประกาศสังฆมติ “รณรงค์งานบุญปลอดเหล้า งานบ้านปลอดอบายมุข”

7 องค์กรภาคีศาสนา ทั้งพระสงฆ์และแม่ชี ร่วมประกาศสังฆมติ “รณรงค์งานบุญปลอดเหล้า งานบ้านปลอดอบายมุข”  เพื่อหนุนเสริมการทำงานของพระสงฆ์นักพัฒนาและภาคีในภาคอีสาน ในด้านศีลธรรมอย่างเป็นรูปธรรม

วันนี้ (28 กพ.56) เวลา 10.35 น. ที่ศาลาปัญญานุสรณ์ วัดสันติวนาราม (พุทธอุทยาน) ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี 7 องค์กรภาคีศาสนา ประกอบด้วยเครือข่ายพุทธชยันตีสังฆะเพื่อสังคม, เครือข่ายพระสังฆพัฒนาแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง, เครือข่ายพระธรรมทายาท, เครือข่ายแม่ชีไทย, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.),เครือข่ายประชาคมงดเหล้าภาคอีสาน,ศูนย์เผยแพร่ชีวิตอันประเสริฐ(ผชป.)ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ประชุมกลุ่มพระสงฆ์นักพัฒนาภาคอีสานกว่า 20 จังหวัด จำนวน 41 รูป และแม่ชีจำนวน 5 ท่าน พร้อมอุบาสกอุบาสิกาที่ทำงานด้านส่งเสริมศาสนาและศีลธรรมประมาณ 10 ท่าน ได้ประชุมเครือข่ายฯระหว่างวันที่ 27 ก.พ.- 1 มี.ค. 56 

โดยมีแนวทางและวัตถุประสงค์ในการประชุม ประกอบด้วย 1.จัดประชุมใหญ่เพื่อปรึกษาหารือกันเป็นสังฆสภาและลงมติจัดตั้งคณะกรรมการ พร้อมทั้งหน้าที่รับผิดชอบในการเคลื่อนงานพระศาสนา 2.แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ทำงานรับใช้พระพุทธศาสนาของคณะพระธรรมทายาท, พระสงฆ์นักพัฒนา, พระธรรมทูต, พระสังฆาธิการ, พระนิสิต เพื่อจัดรูปแบบหลักสูตรสร้างศาสนทายาทสืบอายุพระพุทธศาสนา 4.จาริกเยี่ยมพระสงฆ์ต้นแบบ สนทนาปรึกษาหารือ และเรียนรู้จากชีวิต ตลอดถึงงานของพระสงฆ์ที่ประสบผลสำเร็จ (วัดนาหลวง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี)

กิจกรรมสำคัญ ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมหลัก คือ ความเป็นหนึ่งเดียวในการร่วมแถลงข่าวพร้อมประกาศสังฆมติ “รณรงค์งานบุญปลอดเหล้า งานบ้านปลอดอบายมุข” และบทสรุปการประชุม เพื่อหนุนเสริมการทำงานของพระสงฆ์นักพัฒนาและภาคีในภาคอีสาน ในด้านศีลธรรมอย่างเป็นรูปธรรม

ในเวทีดังกล่าวได้รับเมตตาจาก ดร.พระมหาบาง เขมานนฺโท เจ้าคณะอำเภอหนองหาน และได้รับเกียรติจากนายเวียงชัย แก้วพินิจ นายอำเภอหนองหาน ได้ร่วมเป็นประธานฝ่ายสงฆ์และฆราวาส ในการเป็นสักขีพยานร่วมลงชื่อประกาศมติดังกล่าวด้วย

พระดุษฎี เมธงฺกุโร เครือข่ายพุทธชยันตีสังฆะเพื่อสังคม “กลุ่มเครือข่ายพุทธชยันตีสังฆะเพื่อสังคมทั่วประเทศ มีแนวคิดสำคัญในการสานเครือข่ายพระนักพัฒนาด้วยกันและหนุนเสริมการทำงานของกันและให้มีพลังมากขึ้น พร้อมกับสามารถนำเสนอผลงานที่ผ่านมาต่อสังคมได้อย่างสมสมัย การประชุมเจอกันและมีประกาศสังฆมติทำนองนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรูปธรรมที่จะทำให้เกิดการทำงานอย่างมีเป้าหมายและแก้ปัญหาโจทย์สังคมที่เต็มแน่นไปด้วยทุนนิยมกับความเสื่อมโทรมทางศีลธรรมได้มากขึ้น”

พระครูอมรชัยคุณ เครือข่ายธรรมทายาท “เป็นการเชื่อมพี่น้องของพระสงฆ์นักพัฒนาที่ทำงานด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายพระสังฆพัฒนาแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง เครือข่ายพระธรรมทายาท หรืออื่นๆ ความเป็นปึกแผ่นและทิศทางประเด็นการทำงานครั้งนี้ จะทำให้เราหนุนเสริมงานกันและกันมากขึ้น พร้อมกับจะเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ขอบเขตงานขยายไปสู่ชุมชมและสังคมมากยิ่งขึ้น”

พระปลัดสมบูรณ์ สุมงฺคโล ประธานกลุ่มเสขิยธรรม กล่าวว่า “การได้มาพบกลุ่มพระสงฆ์ที่ทำงานพัฒนามาตั้งแต่เริ่มแรก เช่น เครือข่ายพระธรรมทายาท เหมือนการมาพบปะพี่น้องสหธรรมิกด้วยกันที่ไม่ได้เจอกันมานาน ที่น่าสนใจคือมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงาน เช่น สื่อในการอบรมและการสอน นอกจากนั้นเรื่องที่นับว่าสำคัญที่สุดคือ การได้มาเติมเต็มและให้กำลังใจต่อกันและกัน หนุนเสริมให้มีกำลังใจในการทำงานร่วมกันเข้มแข็งมากขึ้น”

นายประญัติ เกรัมย์ เครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า  “ผมว่าเป็นอีกก้าวย่างสำคัญ ที่จะได้เห็นบทบาทของพระสงฆ์ แม่ชี อุบาสกอุบาสิกาในการทำงานค้ำจุนพระพุทธศาสนาที่เป็นรูปธรรมและกล้าประกาศท้าทายจิตสำนึกด้านศีลธรรมของพุทธศาสนิกชนในเรื่องความซื่อสัตย์ต่อพระพุทธเจ้า ด้วยการรักษาศีล 5 และสร้างสังคมชุมชนแห่งศีลธรรมอย่างเข้มแข็ง”

พระสิริพัฒนาภรณ์ เครือข่ายพระสังฆพัฒนาแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง กล่าวว่า “ธมฺมจารี สุขํ เสติ ธมฺมญฺจเร สุจริตํ เป็นภาษิตสำหรับการทำงานร่วมกันของเครือข่าย ทำได้อย่างนี้ การมาร่วมกิจกรรมกันของพวกเราก็จะมีความก้าวหน้าและยั่งยืนเป็นที่พึ่งพิงอาศัยของสังคมได้อย่างแท้จริง”

ด้าน ทดร.พระมหาบาง เขมานนฺโท เจ้าคณะอำเภอหนองหาน กล่าวว่า “อาตมามีแนวคิด สร้างชุมชนบ้านเชียงและวัดสันติวนาราม ให้เป็นพุทธสถานที่อุดมไปด้วยมรดกธรรม เพื่อค้ำชูมรดกโลก โดยมีแนวปฏิบัติในเรื่องงานบุญปลอดเหล้า งานบ้านปลอดอบายมุข

ส่วน แม่ชีชูใจ ปทุมนันท์ เครือข่ายแม่ชีไทย “เราคงไม่ใช่ลูกเมียน้อย แต่อาจเป็นลูกที่ถูกลืม ที่ผ่านมางานด้านส่งเสริมศีลธรรมทำมามาก โอกาสนี้จะได้เป็นอีกช่องทางที่จะทำให้งานของแม่ชี ได้รับการสนใจและมีโอกาสหนุนเสริมกันและกันมากขึ้น” กล่าวเสริม

นายเวียงชัย แก้วพินิจ นายอำเภอหนองหาน กล่าวปิดท้ายว่า “ผมขอสนับสนุนการประกาศสังฆมติของเครือข่ายคณะสงฆ์และภาคีอื่นๆที่ได้ร่วมกันหนุนสร้างให้เกิดนโยบายงานบุญปลอดเหล้า งานบ้านปลอดอบายมุขแก่สังคมไทยโดยรวมครั้งนี้ โดยส่วนตัว ผมยินดีประกาศเป็นนโยบายเพื่อนำไปสู่การปฎิบัติในเขตอำเภอหนองหานนำร่องก่อน พร้อมกันนี้ก็จะหาทางขยายแนวคิดในกลุ่มผู้ปกครองด้วยกัน เพื่อให้ประกาศสังฆมตินี้ได้สมเจตนารมณ์ของคณะสงฆ์และภาคีทุกท่าน”

ในประกาศสังฆมติได้มีเนื้อหาสาระสำคัญในประกาศ ได้แก่

“เครือข่ายฯ จึงขอประกาศสังฆมติ ให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชนและประชาชนทั่วไป รวมถึงคณะสงฆ์ได้แสดงออกอย่างเป็นรูปธรรมในการ “รณรงค์งานบุญปลอดเหล้า งานบ้านปลอดอบายมุข” โดยร่วมดำเนินการ ดังนี้

1.ให้ทุกเครือข่ายฯ ปฏิบัติตามหลักธรรมพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัด ในเรื่องการรักษาศีลห้าและไม่เกี่ยวข้องกับอบายมุข

2.ให้ทุกเครือข่ายฯ ร่วมรณรงค์งดการให้และการรับ มอบและแจก และประชาสัมพันธ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานบุญประเพณีเนื่องด้วยศาสนาทุกชนิด ตลอดจนงานเลี้ยงต่างๆ ที่มีเด็กและเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรม

3.ให้ทุกเครือข่ายฯ ร่วมรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปรับทราบสถานที่ห้ามดื่มและจำหน่ายเหล้าเบียร์ตามกฎหมาย เช่น ศาสนสถาน สถานศึกษา สถานที่ราชการ หรืออื่นๆตามที่กฎหมายกำหนด

4.ให้ทุกเครือข่ายฯ งดรับการสนับสนุนทุกอย่างจากผลกำไรที่ได้มาจากการประกอบธุรกิจเหล้าเบียร์”

นอกจากนั้น คณะสงฆ์และเครือข่ายยังได้เห็นร่วมในการกำหนดทิศทางการทำงานของเครือข่ายฯ ดังต่อไปนี้ คือ

1.ร่วมกันสร้างหลักสูตรโดยพัฒนาจากหลักสูตรอบรมพระธรรมทายาท ตามแนวคิดหลวงพ่อพุทธทาส ท่านปัญญานันทถิกขุ เพื่อเป็นศาสนทายาทสืบอายุพระพุทธศาสนา

2.จัดตั้งคณะกรรมการบริหารงานรับผิดชอบการติดต่อประสานงานคณะฯและการจัดทำหลักสูตรการจัดอบรมตามหลักสูตรที่กำหนดไว้

3.สนับสนุนการทำงานพัฒนาของพระสงฆ์ แม่ชี และอุบาสกอุบาสิกา พร้อมยกย่องเชิดชูประกาศเกียรติคุณผู้มีผลงานรูปธรรมให้ปรากฎชัดแก่สาธารณชนทั่วไป

4.จัดตั้งกองทุนสนับสนุนงานของ “พระธรรมทายาท และสังฆพัฒนา”

5.ร่วมกันสร้างสรรค์สังคม “บวร” (บ้านวัดราชการ) ให้แผ่นดินไทยเป็นแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองภายใต้สังฆมติ “งานบุญปลอดเหล้า งานบ้านปลอดอบายมุข”

โดย นายประญัติ เกรัมย์ ทีมประสานงานกลุ่มเป้าหมายเฉพาะและประเด็นศาสนา

 

 

ที่มา : สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.)

Shares:
QR Code :
QR Code