ปฏิรูปประเทศไทย ถึงเวลาคนไทยหันหน้าสามัคคี

ปฏิรูปประเทศไทย ถึงเวลาคนไทยหันหน้าสามัคคี

 

            วันนี้เราปฏิเสธไม่ได้ว่าสังคมไทยของเรากำลังผจญกับมรสุมทางการเมืองที่หนักที่สุดครั้งหนึ่งก็ว่าได้ 

 

การที่ต้องเห็นภาพของคนไทยที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ทะเลาะและเผชิญหน้ากันเอง รวมถึงภาพความรุนแรง จากการปะทะกำลังในหลายพื้นที่ ภาพการเผาทำลายอาคาร บ้านเรือน สิ่งของต่างๆ จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก

 

            ภาพที่ปรากฏออกมาเหล่านี้  แสดงออกได้ว่าขณะนี้คนในประเทศ กำลังขาดความสามัคคีและแตกแยกกันเองอย่างรุนแรง

 

            ความรุนแรงที่เกิดขึ้น นอกจากจะนำมาซึ่งความสูญเสียและความเสียหายที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้แล้ว ยังทำให้สภาวะจิตใจของคนในประเทศต้องห่อเหี่ยว ย่ำแย่ และหลายๆ คนยังเป็นกังวลกับบสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะเป็นไปในทิศทางใดต่อไป จะดีขึ้นหรือไม่

 

 ทางออกของปัญหาที่ดีที่สุดคือ ให้ทุกคนหันหน้าเข้าหากันและรับฟังปัญหาซึ่งกันและกัน

 

            สอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาลที่ได้ประกาศใช้ แผนปรองดองแห่งชาติเพื่อปฏิรูปประเทศไทย  เพื่อสร้างความเข้าใจและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นใหม่ในสังคม  เพื่อให้คนไทยเกิดความสามัคคีกันมากขึ้น

 

            โดยข้อเสนอแผนปรองดองแห่งชาติของรัฐบาล เพื่อนำไปสู่ความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น  มีสาระสำคัญ 5 ข้อ ประกอบด้วย

 

ข้อ 1  เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์  และการไม่ดึงสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเครื่องมือความขัดแย้งทางการเมือง

 

ข้อ 2 ปฏิรูปประเทศอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะการปฏิรูปให้ประชาชนได้รับสวัสดิการอันพึงมีพึงได้ มีอาชีพ มีรายได้ มีความมั่นคงในชีวิต มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

 

ข้อ 3 ปฏิรูประบบสื่อสารมวลชน ต้องเคารพสิทธิเสรีภาพของสื่อ และสื่อเองก็ต้องมีจรรยาบรรณของสื่อที่จะไม่บิดเบือนข้อเท็จจริงและไม่ยุยงให้เกลียดชังและใช้ความรุนแรงนั้น จะเป็นประโยชน์แก่พลเมืองในระบอบประชาธิปไตยในการเลือกตัดสินใจทางการเมืองอย่างรู้เท่าทัน

 

ข้อ 4  ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ต่างๆ จากความสูญเสียในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นับตั้งแต่มีการชุมนุมวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ความจริงกับสังคม เพราะสังคมจะอยู่กันได้อย่างปกติสุขนั้น ต้องอยู่กันด้วยเรื่องของข้อเท็จจริง

 

 ข้อ 5 ปฏิรูปการเมือง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาทางการเมืองของนักการเมือง และแก้ไขปัญหาอันเนื่องมาแต่การชุมนุมทางการเมือง ทั้งนี้ เป็นบทบาทของรัฐสภาที่จะมีส่วนช่วยให้เกิดการก้าวข้ามความขัดแย้ง เกิดการขอโทษและการให้อภัยต่อกัน

 

            ทั้งนี้ ในกระบวนการปรองดองทั้ง 5 ข้อนั้น ทาง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ก็ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในแผนด้วยเช่นกัน  ในข้อที่ 2 ที่ว่าด้วยเรื่องของการปฎิรูปประเทศอย่างรอบด้าน

 

            โดย สสส. ได้เป็นแกนกลางร่วมกับองค์กรต่างๆ เช่น มูลนิธิชัยพัฒนา  สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นต้น ในการจัดจัดเวทีสาธารณะรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน ตั้งเวทีเฉพาะกลุ่ม แล้วนำผลมาประมวลสังเคราะห์ ในประเด็นการแก้ไขปัญหาโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคม ที่สอดรับกับแนวทางการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสร้างความเป็นธรรมทางสังคม

 

นอกจากนี้สสส. ก็ยังจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับกรมสุขภาพจิตในการเร่งเยียวยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ความไม่สงบในสามสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

            ถือได้ว่า กระบวนการเหล่านี้เป็นทางเลือกหนึ่งในการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นแก่สังคม ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ไม่ปกติในสังคมแบบนี้  ก็น่าจะเป็นคำตอบที่ดีในการช่วยบรรเทาสังคมให้คลายจากความตึงเครียดและเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ต่อไปในอนาคต

 

            แต่อย่างไรก็ตาม แผนปรองดองนี้จะประสบความสำเร็จได้มากแค่ไหน ก็อยู่ที่คนในสังคมให้ความร่วมมือมากน้อยเพียงใด เพราะหากคนในชาติกลับมาสามัคคีร่วมมือร่วมใจกันอีกครั้ง

 

             ประเทศไทยของเรา ก็จะกลับมาเป็นสยามเมืองยิ้มที่มีแต่รอยยิ้มความสุขสงบเหมือนเดิมเช่นเคย

 

 

 

 

 

 

ที่มา: คมสัน ไชยองค์การ Team content www.thaihealth.or.th

 

 

 

Update: 24-05-53

อัพเดตเนื้อหาโดย: คมสัน ไชยองค์การ

Shares:
QR Code :
QR Code