“บ้านทุ่งหก” นำร่องขยะสร้างบุญ สร้างรายได้

"สสส." สนับสนุน "บ้านทุ่งหก" จ.ลำปาง นำร่องโครงการขยะสร้างบุญ-สร้างรายได้ จัดตั้ง "ศูนย์รับของเก่าปิ๊กมาดี" เพื่อรับซื้อขยะในชุมชน นำรายได้มาตั้งเป็นกองทุนช่วยเหลือผู้สูงอายุ และผู้พิการ



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาขยะล้นเมือง ถือเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย และเป็นปัญหาเรื้อรังที่มีมานาน ข้อมูลจากกรมอนามัยพบว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีขยะเกิดขึ้นประมาณ 41,532 ตันต่อวัน หรือกว่า 15 ล้านตันต่อปี โดยร้อยละ 30 เป็นขยะที่นำไป "รีไซเคิล" ได้ แต่กลับมีการรีไซเคิลนำมาใช้ประโยชน์จริงเพียง 1 ใน 4 เท่านั้น จึงเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องเร่งช่วยกันแก้ไข โดยที่บ้านทุ่งหก หมู่ 5 ต.วอแก้ว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ได้มีวิธีกระบวนการแก้ไขปัญหาขยะที่น่าสนใจ โดยยึดถือคติว่า ใครมีขยะถือว่ามีบุญ ใครมีขยะจะได้สร้างกุศล


นายกฤษฏา เทพภาพ ตัวแทนชุมชน เปิดเผยว่า บ้านทุ่งหก ประสบปัญหาขยะที่นับวันเพิ่มปริมาณมากขึ้น ปัญหาการทิ้งขยะเรี่ยราด โดยเฉพาะอย่างยิ่งขยะทางการเกษตร และครัวเรือน หากปล่อยทิ้งไว้อาจเป็นแหล่งกำเนิดเชื้อโรคได้และส่งผลเสียต่อชุมชน จึงริเริ่มโครงการและขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อพัฒนาให้ชุมชนน่าอยู่จากสำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดตั้งคณะกรรมการขยะ มีหน้าที่ให้ความรู้และสาธิตการคัดแยกขยะให้กับทุกครัวเรือน จัดตั้ง "ศูนย์รับของเก่าปิ๊กมาดี" เพื่อรับซื้อขยะในชุมชน โดยให้แต่ละบ้านเรือนทำการคัดแยกขยะก่อนนำมาขายที่ศูนย์ฯ ซึ่งชาวบ้านก็จะมีรายได้จากการขยะ ส่วนขยะสดที่ขายไม่ได้ ก็จะส่งเสริมให้ทำปุ๋ยหมักเพื่อใช้ปลูกพืชผักแทนปุ๋ยเคมี



"ทางศูนย์ฯจะนำขยะไปขายต่อ เดือนละ 1 ครั้ง โดยเงินหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว จะนำมาเป็นกองทุนช่วยเหลือผู้สูงอายุ และผู้พิการในชุมชนที่มีอยู่จำนวน 247 คน นำเงินมาร่วมกันเพื่อดูแลกันและกัน เป็นสวัสดิการคนยาก เวลาเจ็บป่วยนอนโรงพยาบาลช่วยเหลือคืนละ 100 บาท สำหรับกรณีเสียชีวิตช่วยเหลือ รายละ 1,200 บาท สมทบเป็นค่าใช้จ่ายในการนำพาผู้ป่วย ที่ไม่มีพาหนะไปพบแพทย์เพื่อตรวจความพิการในการขอรับเบี้ยยังชีพผู้พิการ และนำไปเป็นทุนส่งเสริมอาชีพให้กับผู้สูงอายุ ผู้พิการ อาทิ จักสาน รีไซเคลิขยะมา ของตกแต่งบ้าน และนำขยะสดมาเลี้ยงไส้เดือนดิน จึงนำไปสู่การขยะสร้างบุญ ทั้งนี้หลังเริ่มดำเนินการชาวบ้านให้ความสนใจคัดแยกขยะนำมาขายจำนวนครั้งละหลายร้อยกิโลกรัม บ้างก็เอามาร่วมทำบุญ"นายกฤษฏากล่าว


นายเจษฎา ปาละมี หนึ่งในชาวบ้านที่ร่วมขับเคลื่อนโครงการ กล่าวว่า ผลลัพธ์ที่ได้จากการบริหารจัดการศูนย์รับของเก่าปิ๊กมาดี คือ 1.ปริมาณขยะในชุมชนลดลง 2.ครัวเรือนมีรายได้จากขยะ 3.เกิดการจ้างงานผู้สูงอายุ ผู้ยากไร้ยากไร้ พิการ ให้มีรายได้ 4.เงินรายได้จากขยะนำไปสมทบทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ในพื้นที่ และส่งเสริมอาชีพให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ซึ่งเมื่อขายผลิตภัณฑ์แล้วจะนำรายได้ร้อยละ 5 เข้าสู่กองทุนช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ต่อไป 5.สามารถดึงคนที่ติดเหล้าให้มาทำงานคัดแยกขยะ และลดการดื่มเหล้าได้ 6.เกิดความสามัคคีในชุมชน และ 7.ชุมชนและท้องถิ่นมีความน่าอยู่ และคนในชุมชนมีความสุขมากขึ้น


"ทั้งนี้แผนในอนาคตในการบริหารจัดการขยะต่อไป ทางชุมชนของเราจะทำครัวปลอดพิษ โดยดำเนินการนำปุ๋ยจากไส้เดือนดินมาใช้ประโยชน์ในการส่งเสริมการปลูกผักสวนครัว และให้นำมาประกอบอาหารในครัวเรือนและนำไปขายให้กับโรงเรียนบ้านทุ่งหก เพื่อใช้ประกอบอาหารกลางวันให้แก่นักเรียน ซึ่งจะทำให้เด็กนักเรียนได้รับประทานผักที่ปลอดพิษ รวมทั้งส่งผลให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และครัวเรือนที่ปลูกผักมีรายได้จากการขายผักปลอดพิษอันเป็นการส่งเสริมอาชีพโดยใช้ขยะเป็นเครื่องนำทาง"นายเจษฎากล่าว


 


 


ที่มา : เว็บไซต์เดลินิวส์

Shares:
QR Code :
QR Code