นำร่องฐานข้อมูลร่วม ยกระดับชีวิตเด็กเปราะบาง

ที่มา : เดลินิวส์


นำร่องฐานข้อมูลร่วม ยกระดับชีวิตเด็กเปราะบาง thaihealth


แฟ้มภาพ


พื้นที่กทม. มีโรงเรียนในสังกัด 300 แห่ง มีนักเรียนกว่า 2 แสนคน ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนสังกัดกทม.ใน 50 เขต 298 ศูนย์ มีเด็ก 25,975 คน โดยรับภาระกับเด็กและเยาวชนที่อยู่ในครอบครัวที่เปราะบางยิ่งกว่าเด็กและเยาวชนในพื้นที่อื่น ๆ


รายงานผลการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในเขตกรุงเทพ มหานคร จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติร่วมกับองค์การยูนิเซฟ พบว่า เกือบ 1 ใน 6 (ร้อยละ 15.8) ของเด็กอายุ 0-17 ปี ไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อและแม่และเด็กอายุ 1-14 ปี ในชุมชนของกรุงเทพมหานครร้อยละ 73.1 ถูกอบรมด้วยการทำร้ายจิตใจหรือร่างกายในช่วง 1 เดือนก่อนการสำรวจ


ด้วยเหตุนี้ 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) สำนักกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนานโยบาย (สวน.) ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "การพัฒนาต้นแบบบริการร่วมระหว่างหน่วยบริการพัฒนาคุณภาพชีวิต เด็ก เยาวชน และครอบครัวด้วยดิจิทัล (Seamless Transaction Services)" โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นต้นแบบบริการทางสังคมด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต เด็ก เยาวชนและครอบครัว ต่อเนื่องตลอดช่วงวัย


นพ.ชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ภารกิจของกรุงเทพมหานครมีหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือการดูแลสุขภาพเด็กก่อนปฐมวัย ซึ่งจากการดำเนินงานก็พบปัญหาหนึ่งที่สำคัญ คือ เรื่องของข้อมูล  โดยในปีแรกจะมีการพัฒนาแพลตฟอร์มการเรียนรู้ร่วมและส่งต่อบริการร่วมกันของ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่  1. กลุ่มผู้ให้บริการจากศูนย์บริการสาธารณสุข 45 ร่มเกล้า คุณครูจากศูนย์เด็กเล็ก และโรงเรียน 2. กลุ่มผู้รับบริการที่เป็นเด็ก เยาวชน และครอบครัว และ 3. คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับเขต คณะกรรมการคุ้มครองเด็ก ที่เป็นกลไกร่วมจัดบริการ


"ต้นแบบบริการไร้ตะเข็บด้วยนวัตกรรมดิจิทัล จึงเป็นการพลิกโฉมบริการที่เคยแยกส่วนกันให้เกิดเป็นองค์รวม สามารถดูแลต่อเนื่องตลอดช่วงวัย ตั้งแต่ฝากครรภ์ เด็กแรกเกิด เข้าสู่ศูนย์เด็กเล็ก เด็กอนุบาล เด็กและเยาวชนในวัยเรียน จนถึงวัยรุ่น อันเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพตามวิสัยทัศน์ยุทธศาสตร์ประเทศไทย 20 ปี" นพ.ชวินทร์กล่าว


ดร.สุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กล่าวว่าโครงการนี้เป้าหมายอยู่ที่จะต้องนำข้อมูลที่จัดเก็บมาตรฐานต่างกันและเก็บอยู่ในหลายหน่วยงาน มาบูรณาการข้อมูลร่วมกัน  สามารถขยายผลนำบริการแบบใช้งานร่วมกันหรือ Shared Service


น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส. กล่าวว่า  ที่ผ่านมา สสส. ได้ดำเนินโครงการพัฒนารูปแบบการดูแลเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนของ กทม. 3 แห่ง คือ ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนชุมชนวัดสวัสดิ์วารีสีมาราม ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนชุมชนแป้นรักษา และ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กพิทักษา


"ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการจัดทำฐานข้อมูลดิจิทัลเกี่ยวกับเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงเยาวชน เช่น เด็กปฐมวัยในศูนย์เด็กเล็ก อาจมีพัฒนาการล่าช้า หรือโรคประจำตัว เมื่อเข้าเรียนอนุบาลหรือประถมศึกษา ครูก็จะทราบข้อมูลของเด็กและเกิดการดูแลต่อเนื่อง รวมถึงในอนาคตโครงการนี้จะเป็นต้นแบบที่จะขยายไปในจังหวัดอื่น ๆ ด้วย" น.ส.ณัฐยากล่าว


นายธรรมรักษ์ การพิศิษฏ์ ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนานโยบาย (สวน.) กล่าวว่า ต้นแบบนี้ใช้เป็นพื้นที่เสริมศักยภาพการเรียนรู้ (Empower) ผู้รับบริการ ผู้ให้บริการและกลไกคณะกรรมการคุณภาพชีวิตระดับเขต (พชข.) และคณะกรรมการคุ้มครองเด็ก ไปสู่ระบบงานแบบดิจิทัล ต่างจากอดีตที่แยกส่วน เช่น เด็กติดเอดส์ก็ไปดูเรื่องเอกสาร โดยไม่รู้ว่ารอบตัวเด็กมีสภาพเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมเป็นอย่างไร แต่เมื่อมีฐานข้อมูลดิจิทัลร่วมกันจะเป็นจุดเอกซเรย์ได้หมดและใช้ข้อมูลร่วมกัน นำไปสู่เป้าหมายเดียวกันคือสุขภาวะของเด็ก อีกทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของระบบราชการที่จะต้องเรียนรู้.

Shares:
QR Code :
QR Code