นักเคลื่อนไหวจี้อย.ออกคำเตือนโบท็อกซ์
หลังมีคนไข้เสียชีวิต เชื่อเกิดจากยากระจายไปสู่อวัยวะสำคัญ
หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทม์สฉบับออนไลน์รายงานว่าขณะนี้กลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสุขภาพได้ออกมาเรียกร้องให้ทางการสหรัฐฯออกคำเตือนใหม่สำหรับการใช้สารโบท็อกซ์ โดยเชื่อว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนไข้ที่ได้รับการฉีดสารนี้แล้วตัวยาเกิดการกระจายไปสู่อวัยวะสำคัญอื่นๆ ในร่างกาย
กลุ่มนักเคลื่อนไหวซึ่งมีชื่อเรียกว่า พับบลิค ซิติเซน นี้ได้เข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานอาหารและยาหรือเอฟดีของสหรัฐอเมริกาเรียกร้องให้หน่วยงานซึ่งทำหน้าที่ในการกำกับดูแลเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยาหน่วยงานนี้พิจารณาเพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงในการเสียชีวิตในลักษณะเช่นเดียวกับ 16 กรณีที่ว่านี้ด้วยเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้บริโภค
ด้านคุณจูลี่ ซาวิสซ่า ซึ่งเป็นโฆษกหญิงของอย.สหรัฐฯกล่าวว่าขณะนี้ยังไม่สามารถจะให้ความเห็นใด ๆ ได้เกี่ยวเรื่องนี้ได้เลยเนื่องจากคำร้องของกลุ่มนักเคลื่อนไหวพับบลิค ซิติเซน กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของอย.
ขณะเดียวกันผู้บริหารบริษัทแอลเลอร์แกน ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตโบท็อกซ์ได้ออกแถลงการณ์ต่อเรื่องนี้มีใจความว่าผลข้างเคียงต่าง ๆ ของโบท็อกซ์นั้นเกิดขึ้นได้น้อยมาก และเป็นไปได้ว่าเป็นผลข้างเคียงที่เกิดจากการที่ผู้ใช้ยามีความเจ็บป่วยที่รุนแรงอยู่แล้ว
ทั้งนี้แถลงการณ์ของบริษัทผู้ผลิตสารโบท็อกซ์ระบุด้วยว่าอีกทั้งยังไม่มีการพิสูจน์ใดๆ ยืนยันว่าโบท็อกซ์เป็นสาเหตุของผลข้างเคียงในกรณีที่มีการกล่าวอ้าง ส่วนบริษัทซอลสติสซ์ นิวโรไซแอนซ์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตยาซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโบท็อกซ์แต่ใช้ชื่อทางการค้าว่า ไมโอบล็อก ไม่ยอมแสดงความคิดเห็น
กลุ่มพับบลิค ซิติเซนกล่าวว่าคนที่เสียชีวิตหลังมีการใช้สารโบท็อกซ์ฉีดเข้าร่างกายนั้นอาจจะเกิดในกรณีที่ใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดจากภาวะกล้ามเนื้อบริเวณคอขอด (cervical dystonia) ซึ่งแพทย์จะใช้โบท็อกซ์ฉีดเข้าไปที่จุดต่าง ๆ บริเวณคอทำให้คนไข้หายปวดได้นานเป็นสัปดาห์ ๆ หรือบางทีก็เป็นหลายระยะเวลาหลายเดือน แต่อย่างไรก็ตามปัญหาคือตำแหน่งที่แพทย์ฉีดสารโบท็อกซ์เข้าไปนั้นอยู่ใกล้กับอวัยวะสำคัญๆ อื่นมากเกินไปซึ่งอาจทำให้คนไข้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาเป็นต้นว่า ปัญหาเรื่องการกลืนและปัญหาเรื่องการสำลักอาหารและน้ำเข้าปอดซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
ทั้งนี้ จากกรณีที่พับบลิค ซิติเซนอ้างถึงมีเพียง 1 รายเท่านั้นที่พบว่าเป็นคนไข้ที่ได้รับการฉีดสารโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ส่วนผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ เป็นคนที่มีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อหรือมีอาการอื่นๆที่ไม่ได้มีการระบุไว้แน่ชัด
ดร.ซิดนีย์ เอ็ม โวล์ฟ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการด้านการวิจัยสุขภาพของ กลุ่มเคลื่อนไหว พับบลิค ซิติเซนกล่าวว่ากรณีการเสียชีวิตเหล่านี้อาจไม่เกิดขึ้นหากว่าคนไข้ได้รับคำเตือนที่เพียงพอเกี่ยวกับความเสี่ยงของสารโบท็อกซ์ก่อนที่จะตัดสินใจรับการรักษาจากแพทย์ด้วยการใช้สารที่มีพื้นฐานมาจากสารพิษตัวนี้
“ไม่ควรมีใครต้องเสียชีวิตจากการใช้โบท็อกซ์เพื่อการรักษาทางการแพทย์” ดร.โวล์ฟกล่าวและว่า “ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่ากรณีการเสียชีวิตที่ยกมานี้แสดงให้เห็นว่าคนไข้ไม่ได้รับทราบถึงความเสี่ยงในการเกิดปัญหาเหล่านี้ก่อนรับการรักษา”
ที่มา : สำนักข่าวต่างประเทศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
ภาพประกอบ : www.thaihealth.or.th
update 28-01-51