‘นวดกดจุดเท้า’ หยุดบุหรี่ ที่ รพ.สต.ดอนทราย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
'นวดกดจุดเท้า' นวัตกรรม โครงการ "3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน" หยุดบุหรี่ได้จริง รพ.สต.ดอนทราย จังหวัดราชบุรีต้นแบบระดับภูมิภาค สสส.มุ่งต่อยอดศึกษาวิจัย
สสส.จัดทำโครงการ “3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน” มา กว่า 2 ปี เริ่มเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ทั้ง อสม. และนวัตกรรมนวดกดจุดฝ่าเท้าที่ รพ.สต.ดอนทราย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หยุดบุหรี่ได้จริง พร้อมขยายผลไปในพื้นที่อีก 104 ตำบล ขับเคลื่อนเมืองราชบุรี ต้นแบบเมืองสุขภาวะแห่งแรกของไทย
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จังหวัดราชบุรีเป็นจังหวัดขนาดใหญ่ เห็นความท้าทายจึงได้ลงมาขับเคลื่อนให้เป็นต้นแบบของจังหวัดที่บูรณาการงานส่งเสริมสุขภาพ ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2550 จนถึงปัจจุบัน ราชบุรีสามารถขับเคลื่อนงานโดยสร้างความร่วมมือได้ทุกระดับ ตั้งแต่ อสม. รพ.สต. และกับภาคเอกชนคือ บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรี มีความคืบหน้าในการดำเนินโครงการฯ ที่ชัดเจน และมีนวัตกรรมที่น่าสนใจ คือ นวดกดจุดฝ่าเท้า
“ผู้สูบบุหรี่ สูบเพราะสมองติดสารนิโคตินที่ได้จากบุหรี่ การนวดกดจุดฝ่าเท้าจะสัมผัสกับจุดต่างๆ ที่ส่งผลโดยตรงกับ สมองใหญ่ สมองเล็ก และต่อมใต้สมอง กระตุ้นให้หลั่งสารแห่งความสุข การรับรู้กลิ่นต่างๆ เปลี่ยนแปลงไป เราลงพื้นที่แล้วเห็นว่าได้ผลจริง ตอนนี้งานที่ต้องเข้ามาส่งเสริม คือ การศึกษาวิจัยเรื่องนี้ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ และใช้เครื่องมือแพทย์แผนทางเลือกให้กว้างขวางต่อไป”
รศ.ดร.ธราดล เก่งการพานิช รองหัวหน้าภาควิชาสุขศึกษาและพฤติกรรมศาสตร์ หัวหน้าโครงการพัฒนาแกนนำหนุนเสริมโครงการ “3 ล้าน 3 ปี เลิก บุหรี่ ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน” กล่าวว่า อัตราการลดผู้สูบบุหรี่ของไทย คงที่มากว่า 10 ปี แม้ว่าจะมีนโยบายมาตรการ การรณรงค์ส่งเสริมดีเด่นติดลำดับโลก ปัจจุบันจำนวนมีผู้สูบบุหรี่กว่า 10.9 ล้านคน หากลดลง ได้ 3 ล้านคน ประเทศไทยจะสามารถบรรลุเป้าหมายขององค์การอนามัยโลก การทำงานจึงต้องคิดใหม่ ทำใหม่ เสริมศักยภาพ อสม. ที่เข้าถึงกลุ่มผู้สูบบุหรี่ได้จริง โครงการฯ ดำเนินงานเป็นเครือข่ายซึ่งทบทวนแล้วพบว่ากลุ่มคนที่เข้มแข็งที่สุด คือ ผู้ที่ทำงานสาธารณสุขในระดับพื้นที่คือ อสม. แต่การทำงานจะใช้อะไรเป็นเครื่องมือ ผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ยืนยันให้เห็นถึงการเลิกบุหรี่ได้สำเร็จส่วนใหญ่เป็นการเลิกด้วยการหักดิบ หรือเลิกเองด้วยความเต็มใจ ดังนั้นการขับเคลื่อนโครงการจึงพยายามเข้าถึงกลุ่มผู้สูบบุหรี่และชักชวนให้เลิกบุหรี่ด้วยวิธีการที่เหมาะสมตามบริบทของผู้สูบและสถานบริการสุขภาพ ซึ่งการดำเนินโครงการที่ผ่านมาปรากฏพื้นที่ต้นแบบที่เห็นผลแล้วคือ ที่ รพ.สต.ดอนทราย จังหวัดราชบุรี ที่ใช้ การนวดกดจุดฝ่าเท้า ได้อย่างเห็นผล และถึงแม้การดำเนินโครงการภายใน 3 ปี อาจจะลดลงได้ไม่ถึง 3 ล้านคน แต่ระบบที่ยั่งยืนจะทำให้การขับเคลื่อนงานเดินหน้าต่อไป
สมศรี โพธิ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดอนทราย จังหวัดราชบุรี เล่าว่า รพ.สต. ดอนทรายเริ่มเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่ปี 2558 โดยใช้วิธีการนวดกดจุดฝ่าเท้าบำบัดอาการอยากบุหรี่ ซึ่งให้ผลเป็นที่น่าพอใจ การติดตามงานและถอดบทเรียนเพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานคือเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้งานขยายผลต่อเนื่อง โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการกับเรา 120 คน เราทำงานทั้งเชิงรับและรุก ต่อมาจึงเปิดให้บุคคลภายนอกพื้นที่มาเข้ารับบริการด้วย อีกทั้งขยายความร่วมมือ เข้าไปนวด และอบรมกับทุกกลุ่ม เช่น วัด พระสงฆ์ โรงเรียนมัธยม บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรี หรือจัดทำโครงการขึ้นในพื้นที่เฉพาะ เช่น โครงการสิ่งแวดล้อมปลอดบุหรี่ในศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชน 3 ปี ที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วม 489 คน สามารถลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ลงได้ ร้อยละ 41.51 ตรงนี้ถือว่าเป็นเป้าหมายขององค์การอนามัยโลกอีก เราภูมิใจมาก ในปี 2560 เราได้รางวัลหน่วยบริการสาธารณสุขผลงานดีเด่นระดับภูมิภาค อสม.ได้รางวัลระดับประเทศ การทำงานของเราตอนนี้ได้รับงบประมาณจากหลายส่วนทั้ง สสส. กองทุน สปสช. ระดับตำบล จากบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรี นี่คือความยั่งยืนของระบบ
ลุงวิน สมยาโรน อายุ 88 ปี สูบบุหรีมากว่า 70 ปี เล่าว่า เขาไม่คิดว่าบุหรี่จะเป็นอันตราย ต่อเมื่ออายุมากขึ้นจึงเริ่มคิดว่าจะสูบเพื่ออะไร เพราะร่างกายไม่เหมือนเดิมแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเลิกได้ จนเมื่อได้เข้าโครงการฯ ในปี 2558 จึงเลิกบุหรี่มาได้กว่า 3 ปีแล้ว เจ้าหน้าที่เขาชักชวนให้เลิกบุหรี่ แล้วไปนวดกดจุดฝ่าเท้าให้ที่บ้านผมก็ไม่คิดอะไร แต่พอนวดต่อเนื่อง 3 วัน เรารู้สึกว่าไม่อยากบุหรี่อีกเลย เขาถามว่าเลิกได้ไหม ผมคิดว่าได้ ก็ให้ห่อยาสูบเขาไปเลย แล้วเราเดินมานวดที่ รพ.สต.ดอนทรายเองบ้าง ต่อเนื่อง 7 วัน คือหายขาดเลิกได้จริง ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่สบายใจมาก คงดีกับสุขภาพแน่ๆ
พระนันทชัย อายุ 22 ปี แห่งวัดท่ามะขาม ต.ดอนทราย เป็นอีกผู้หนึ่งที่เลิกยาเสพย์ติดได้ด้วย การนวดกดจุดฝ่าเท้า เล่าว่า “ตอนนั้นไปเกณฑ์ทหาร แล้วถูกจับได้ว่าติดยาทางเจ้าหน้าที่ของ รพ.สต.ก็เข้าไปรับมา บอกว่าบำบัดอาการติดยาได้ เราเป็นคนตำบลนี้อยู่แล้ว ก็กลับมาให้เจ้าหน้าที่ทดลองนวดก็ไม่ไกลจากบ้าน เดินมาได้ พอนวดได้ 2 วัน รู้สึกว่าไม่อยากแล้ว เวลาเห็นคนสูบก็จะเหม็น กลิ่นไม่เหมือนเดิมแล้ว แต่ตอนนั้น ก็ใช้วิธีการหลบเลี่ยงคนสูบด้วย เพราะยังไม่แน่นอน พอนวดได้สัก 10 วัน ก็แน่ใจว่าเราเลิกได้แน่แล้ว” แต่นอกจาก วิธีการนวดกดจุดแล้วพระนันทชัยเล่าว่า ใส่ใจของเจ้าหน้าที่ที่คอยสอบถาม ใส่ใจ ให้กำลังใจก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ข้ามผ่านมาได้ พอแน่ใจว่า เลิกได้แน่นอน อาตมาก็ตัดสินใจบวช ตอนนี้ก็ 9 เดือนแล้ว ไม่กลับไปสูบบุหรี่อีกเลย”
ปัจจุบัน นวดกดจุดฝ่าเท้า ศาสตร์แพทย์แผนทางเลือกโบราณของภูมิปัญญาจีนที่มีอายุกว่า 5,000 ปี ได้รับความนิยมอย่างแพร์ในประเทศไทยมากขึ้นในรอบ 20 ปี ในฐานะแพทย์แผนทางเลือกที่ไม่ก่อเกิดอันตราย ประหยัดค่าใช้จ่าย บำบัดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง อาการปวดหัวไมเกรนต่างๆ และล่าสุดกับการนำมาใช้ลดเลิกบุหรี่และเหล้าก็ได้ผลอย่างชัดเจนเช่นกัน