ธัญพืชเพาะงอก เพื่อผู้สูงอายุ
หลังแนวโน้มคนแก่สูงขึ้น
จากข้อมูลของกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ ระบุว่านับจากนี้ไปโลกกำลังจะเต็มไปด้วย “ผู้สูงอายุ” และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากกว่าประชากรกลุ่มอื่นๆ ดังนั้นการเตรียมความพร้อมในการดูแลผู้สูงอายุที่มีปัญหาความเสื่อมถอยของสมรรถนะของร่างกายจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ “อาหาร” ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยเสริมสร้างซ่อมแซม ต้านทาน หรือลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ
ด้วยเหตุนี้นักคณะนักวิชาการ สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์จึงร่วมกันวิจัยและพัฒนา “ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพที่เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มวัยทองและวัยสูงอายุ” โดยนำพืชผักและผลไม้ในท้องถิ่นที่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผู้สูงอายุ มาพัฒนาเป็นสูตรอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่เหมาะสมกับวัย โดยมีจุดเด่นที่กระบวนการ “เพาะงอก” ธัญพืชชนิดต่างๆ เพื่อสร้างคุณค่าอาหารเสริม เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
พนอจิต นิติสุข หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหารฯ เปิดเผยว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ในเรื่องของการรับประทานอาหารที่ถูกต้องเหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเพราะก่อนที่จะเข้าสู่วัยทอง ฮอร์โมนต่างๆ จะผลิตน้อยลง อวัยวะต่างๆ เริ่มทรุดโทรม แคลเซียมจะถูกดูดซึมและสลายไป โรคกระดูกพรุน มะเร็ง เบาหวาน และโรคระบบทางเดินอาหารจึงพบได้บ่อยมากในผู้สูงอายุซึ่งส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน
“ข้าวและถั่วเพาะงอกจะดีกับผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องย่อยอาหารยาก เพราะถูกเปลี่ยนสภาพทำให้ย่อยง่าย และการเพาะงอกทำให้มีสารอาหารเพิ่มขึ้นสูงมาก จึงเป็นโจทย์ให้ทีมงานคิดค้นอาหารเช้าและเครื่องดื่ม ที่ชาวบ้านสามารถทำได้ง่ายๆ หาวัตถุดิบได้จากในท้องถิ่น เช่น ข้าวกล้อง ข้าวเหนียว ข้าวเหนียวดำ ถั่วเขียว ถั่วดำ ถั่วแดง งาดำ ซึ่งถ้าหากเขาเตรียมพร้อมเข้าสู่วัยทองโดยการรับประทานอาหารในกลุ่มนี้ ซึ่งจะสร้างความแข็งแรงเตรียมความพร้อมให้ร่างกายได้” พนอจิตระบุ
ด้าน อ.หนูเดือน สาระบุตร หัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า ปัญหาที่ชาวบ้านกังวลคือเรื่องของการเพาะงอก ซึ่งก็อธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจง่ายๆ ว่าคือการนำข้าว หรือเมล็ดถั่วแช่น้ำห่อผ้าขาวบางใส่ในถุงดำกะเวลานับชั่วโมงไปหมั่นคอยเปลี่ยนน้ำ แล้วคอยดูติ่งในส่วนที่เป็นเจิมของข้าวว่ามีการงอกออกมานิดหนึ่งก็เป็นอันใช้ได้ ชาวบ้านก็เข้าใจเพราะเหมือนกับการนำข้าวเปลือกไปแช่น้ำเพื่อเพาะกล้า พอเพาะงอกทุกอย่างแล้วก็เอาทุกอย่างมาปั่นรวมกัน เสร็จแล้วก็นำไปต้มเหมือนกับทำข้าวต้ม
แต่แตกต่างตรงที่จะต้องเอาวัตถุดิบทุกอย่างไปทำให้งอกก่อน ซึ่งการทำโจ๊กและเครื่องดื่มธัญพืชในลักษณะต้มสดมีข้อดีคือง่าย สะดวก วัตถุดิบหาได้ในท้องถิ่น ใช้ระยะเวลาสั้นในการปรุง ทำให้มีคุณค่าทางอาหารและโภชนาการค่อนข้างสูง เพราะไม่ได้ผ่านความร้อนนาน และยังได้คุณค่าทางอาหารเพิ่มจากส่วนหรือกระบวนการเพาะงอกอีกด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
update:30-07-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่