ธนาคารความดี

ได้ไปเห็นและสัมผัสกิจกรรม ค่ายพลเมืองเยาวชนร่วมสร้างวิถีความดี ที่โรงเรียนป่าแดง ต.หัวง้ม อ.พาน จ.เชียงราย ซึ่งมีเด็กและเยาวชนตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายตำบลสุขภาวะ 137 แห่ง จากทั่วประเทศกว่า 400 คนเข้าร่วมกิจกรรม แล้วบอกได้คำเดียวว่า นี่คือพลังบริสุทธิ์เป็นความหวังของประเทศ

ถือเป็นพื้นที่ที่ได้จัดกิจกรรมเป็นครั้งที่ 2 ในการสร้างเสริมศักยภาพของเด็กและเยาวชน ให้เป็นผู้ขับเคลื่อนสังคมไทยในอนาคตให้น่าอยู่ พร้อมหน้าพร้อมตาจากผู้แทนภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.เข้ามาสนับสนุนร่วมคิดร่วมสร้างกิจกรรม ตลอดระยะเวลา 5 วัน

ณ ปัจจุบัน มีเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ รวมตัวเป็น “เครือข่ายพลเมืองเยาวชนร่วมสร้างวิถีความดี” เป็นสมาชิกกว่า 2,000 แห่ง เพื่อนำไปสู่การทำงานร่วมกัน

การลงพื้นที่ทำกิจกรรมที่ ต.หัวง้ม อ.พาน จ.เชียงราย ครั้งนี้ เพราะที่นี่มีรูปธรรมของความดี ซึ่งง่ายต่อการเข้าถึง มีตัวอย่างแห่งความสำเร็จในโครงการและกิจกรรมมากมายกับการคิดแก้ปัญหาของชุมชนที่สะสมมาเป็นระยะเวลายาวนานจนเป็นผลสำเร็จ ด้วยกระบวนการที่เรียกว่า นวัตกรรมพัฒนาแกนนำดีสู่ชุมชน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้คิดทำความดีทุกวัน มีจิตสาธารณะเข้าร่วมกิจกรรมทั้งในหมู่บ้านและนอกโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ส่งเสริมทั้งการเรียนรู้ให้นักเรียนรู้จักทำความดีในเบื้องต้น ที่น่าสนใจ คือ ธนาคารความดี ที่ ต.หัวง้ม เริ่มเปิดมาตั้งแต่ 28 ธันวาคม 2550 แรกเริ่มมีสมาชิกเพียง 70 คน วันนี้มีสมาชิกกว่า 2,360 คน ในจำนวนนี้เป็นเยาวชนกว่าร้อยละ 30 มีความดีสะสมกว่า 33 ล้าน ความดี มีการถอนความดีที่สะสมไว้ให้ผู้อื่นไปแลกเปลี่ยนของกินของใช้เพียง 4 หมื่นความดีเท่านั้น

พระอาจารย์สุจิณกัลป์ยานธรรม และคุณพันธุ์ดี พรหมเทศ พ่ออุ้ย ผู้จัดการธนาคารความดี ต.หัวง้ม บอกว่า ความดีที่ฝากสะสมไว้กับธนาคารแห่งนี้ คือการนำมาแลกของกิน มาแลกสิ่งที่จำเป็นที่ขาดเหลือ นักเรียนมาแลกสมุด ปากกา ดินสอ หนังสือ ที่มีผู้บริจาคไว้ ความดีที่ทำให้ผู้อื่นมีความสุข ย่อมเป็นทานอันประเสริฐ สังคมจะมีความสุขที่เห็นการแบ่งปันความดี ธนาคารความดี ต.หัวง้ม น่าจะได้รับการขยายผลสู่สถานศึกษาในทุกสังกัดของศธ.ไปถึงมหาวิทยาลัย

ไม่เว้นแม้นักการเมืองไทย จะได้เห็นชื่อตอนสิ้นปี แต่ละท่านมีความดีสะสมในธนาคารฯ คนละเท่าไร

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

Shares:
QR Code :
QR Code