ทึ่ง ผลงานนักวิจัย ม.เทคโนฯ อีสาน

ชี้เห็ดกระด้างช่วยยืดอายุผู้ป่วยเอดส์

ทึ่ง ผลงานนักวิจัย ม.เทคโนฯ อีสาน 

          นครราชสีมา – มทร.อีสานสุดเจ๋ง วิจัยเห็ดกระด้างช่วยลดไขมันในเลือดผู้ป่วยเบาหวานและเอชไอวียืดอายุให้ยืนยาว เนเธอร์แลนด์ให้ทุนผลิตเชิงพาณิชย์แถมรับซื้อไม่อั้น

 

          ดร.นิภาพร  อามัสสา อาจารย์ระดับ 7 หัวหน้าแผนกงานวิจัยและบริการวิชาการ คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) วิทยาเขตสกลนคร เปิดเผยเมื่อวันที่  14  กรกฎาคมว่า สถาบันวิจัยและพัฒนา (สวพ.) มทร.อีสานที่ จ.นครราชสีมา ได้สนับสนุนทุนการวิจัย โครงการพัฒนาเห็ดสมุนไพร เพื่อเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในผู้ป่วยเบาหวาน  และผู้ติดเชื้อ hiv’ ตั้งแต่ปี 2550 เป็นเงินกว่า 1.7 ล้านบาท ซึ่งเป็นการต่อยอดงานวิทยานิพนธ์ของตนที่ทำไว้ โดยงานวิจัยดังกล่าวได้คัดเลือกเห็ดสมุนไพร 2-3 ชนิด ได้แก่ เห็ดบด เห็ดลม หรือเห็ดกระด้าง (lentinus polychrous lev.) และเห็ดหลินจือ (ganoderma  lucidum  (fr.) karst.) โดยพิจารณาจากเห็ดสมุนไพรที่มีศักยภาพทั้งด้านสรรพคุณและด้านการตลาด

 

          การวิจัยเห็ดสมุนไพรดังกล่าวได้ทำการวิจัยเบื้องต้นทางคลินิก  โดยทดสอบประสิทธิภาพและประสิทธิผลของสารสกัดจากเห็ดสมุนไพร ในการลดไขมันในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานพบว่า สามารลดไขมันทั้งคอเลสเตอรอล  (cholesterol)  และไขมันเหลว (triglyceride) ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน และผู้ป่วยติดเชื้อ hiv ที่มีไขมันสูง

 

          “ผู้ป่วยเบาหวานไม่ได้มีปัญหาแค่ปริมาณน้ำตาลในเลือดสูง  แต่ไขมันก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน เช่นเดียวกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ  hiv  หากปริมาณไขมันในเลือดสูงจะทำให้มีโรคอื่นรุมเร้า เนื่องจากผู้ป่วยมีภูมิต้านทานบกพร่อง ซึ่งสารสกัดจากสมุนไพรเห็ดนี้จะทำให้ผู้ป่วยมีอายุยืนยาวต่อไปได้อีก” ดร.นิภาพรกล่าว

 

          ดร.นิภาพรกล่าวว่า การเลือกเห็ดกระด้างขึ้นมาทำการวิจัยเป็นเพราะในพื้นที่ภาคอีสานจะหาเห็ดบดหรือเห็ดกระด้างได้ง่าย และส่วนหนึ่งมาจากความชอบรับประทานเห็ดจึงทำการศึกษาวิจัย ในส่วนของเห็ดหลินจือมีผลงานวิจัยหลายชิ้นที่ระบุชัดเจนว่ามีประโยชน์มากมาย ฉะนั้นเมื่อนำเห็ดบดกับเห็ดหลินจือมาสกัดร่วมกัน จึงได้เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเห็ดสมุนไพรที่เป็นประโยชน์กับผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ติดเชื้อ hiv

 

          สำหรับคุณสมบัติของ  เห็ดบด (lentinus polychrous lev.) ในตำรายาแผนไทยโบราณ มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงร่างกาย, บำรุงกำลัง และแก้ไข้พิษ โดยหมอยาแผนไทยจะนำเห็ดบด ทั้งแบบสดหรือแบบแห้ง  ต้มกับน้ำจนเดือดให้ผู้ที่มีร่างกายอ่อนเพลียจากการทำงานหรือไม่แข็งแรงเนื่องจากเพิ่งฟื้นจากไข้ สมรรถภาพทางเพศไม่ค่อยจะดี รับประทานทั้งน้ำและเนื้อเห็ดประจำจะทำให้ร่างกายแข็งแรง กระชุ่มกระชวย และยังใช้เป็นยาแก้พิษไข้ได้อีกด้วย ลักษณะทั่วไปของเห็ดบดมีหมวกเห็ดเป็นรูปกรวยลึก สีขาวนวลหรือสีน้ำตาลอ่อนอมเทา เส้นผ่าศูนย์กลาง  5-8 เซนติเมตร  (ซม.) เหนียวคล้ายหนัง ขอบงอลง ผิวมีขนสั้นๆ สีน้ำตาล ปลายงอขึ้น ดอกอ่อนมีขอบบาง และม้วนงอลง ครีบสีน้ำตาลอ่อนอมเทา บาง และแคบเมื่อแห้งจะเหนียว แข็งและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงหรือน้ำตาลอมม่วง  ครีบมีความยาวต่างกัน ด้านนอกเรียวแคบไปติดขอบหมวก ขอบครีบเป็นจักฟันเลื่อยเล็กๆ มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า  แต่จะสากมือเวลาลูบ

 

          ก้านมีลักษณะแข็ง เหนียว สีขาวนวลแล้วเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นจนเป็นสีน้ำตาลดำ เนื้อในเห็ดเป็นสีขาวหม่น หรือขาวนวลอมเทา สปอร์มีรูปรีโค้ง สีขาว ขยายพันธุ์ด้วยสปอร์ เกิดตามขอนไม้ผุที่มีความชื้น มีชื่อเรียกคือ เห็ดกระด้าง, เห็ดขอน และเห็ดบด (ภาษาอีสาน) ส่วนชื่อ เห็ดลมเป็นชื่อเรียกทางภาคเหนือปัจจุบันมีการศึกษาพบว่า เห็ดบดมีกรดอะมิโนจำเป็น (essential  amino acid) และสารประกอบ polysaccharides สามารถช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายได้

 

          “ขณะนี้สามารถผลิตเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพในรูปแคปซูล จากสารสกัดเห็ดสมุนไพรได้แล้ว โดยทาง มทร.อีสานได้จดสิทธิบัตรไว้ที่ประเทศเนเธอแลนด์ และทางเนเธอแลนด์ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณในการผลิต พร้อมรับซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจากสารสกัดเห็ดทั้ง  2  ชนิดทั้งหมด”

 

          ดร.นิภาพรกล่าวว่า  ขณะนี้คณะทรัพยากรธรรมชาติ มทร.อีสานวิทยาเขตสกลนคร ร่วมกับโรงพยาบาลพังโคน  อ.พังโคน จ.สกลนคร ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ทำการศึกษาเบื้องต้นถึงประสิทธิผลและความปลอดภัยของสารสกัดเห็ดสมุนไพรทั้ง  2  ชนิด กับผู้ป่วยของโรงพยาบาลที่ทดลองใช้สารสกัดเห็ดสมุนไพรดังกล่าวในการรักษาภาวะไขมันในเลือดสูงทั้งในผู้ป่วยเบาหวานและในผู้ป่วยโรคเอดส์ ที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสเอดส์ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจมาก.

 

 

 

 

 

ที่มา:หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

 

 

update:15-07-51

Shares:
QR Code :
QR Code