ถอดบทเรียนชีวิต ‘เอมี่ ไวน์เฮ้าส์’

ถอดบทเรียนชีวิต'เอมี่ ไวน์เฮ้าส์' เหล้า..ยา…ความตาย อุทาหรณ์เตือนใจวัยโจ๋


ถอดบทเรียนชีวิต 'เอมี่ ไวน์เฮ้าส์'  thaihealth


แฟ้มภาพ


เป็นที่รู้กันดีว่า นักร้องเพลงแจ๊สชื่อดังอย่าง "เอมี่ ไวน์เฮ้าส์" ต้องมาจบชีวิตลงด้วยวัยเพียง 27 ปี โดยมีเหล้า ยาเสพติด และคนรอบข้างเป็นสะพานสีดำที่นำพาชีวิตของเธอไปสู่ความตาย ทั้งที่ชีวิตของเอมี่ ไวน์เฮ้าส์จะได้พบความสำเร็จ และได้สร้างเสียงเพลงที่มีคุณค่าให้กับแฟนเพลง บทเรียนชีวิตที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต ที่น่าจะเป็นอุทาหรณ์ได้ดีให้กับคนรุ่นหลังได้ จึงถูกหยิบยกขึ้นมาสร้างเป็นภาพยนตร์ให้คนทั่วโลกได้ดู และตระหนักถึงภัยร้ายของเหล้า ยาเสพติด และสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงครอบครัว ที่มีผลกระทบต่อผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง


ที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) โรงภาพยนตร์ SF เซ็นทรัลเวิล์ดชวนเยาวชนจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย) บ้านกาญจนาภิเษกและนักเรียน นักศึกษาจากหลายสถาบัน เข้าชมภาพยนตร์ "เอมี่ ไวน์เฮ้าส์" (Amy Winehouse) เพื่อเพิ่มทักษะการใช้ชีวิต พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดผ่านเวทีเสวนาในหัวข้อ"เอมี่  ไวน์เฮ้าส์ เหล้าหรือใคร หรืออะไรทำร้ายเธอ"


นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังกลยุทธ์อุตสาหกรรมสุรา กล่าวว่า หนังเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องจริงเพื่อเป็นอุทาหรณ์เหมาะสมหรับทุกคนควรไปดู ในส่วนตัวรู้สึกว่ารู้จักหนังเรื่องนี้ช้าไปหน่อย ครั้งแรกดูผ่านเฟสบุ๊คส์ บอกได้เลยว่า เรื่องนี้ไม่ธรรมดา เป็นเรื่องจริง ที่ทำให้เราต้องสังเกตว่า หากมีคนใกล้ตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนในครอบครัว ถอดบทเรียนชีวิต 'เอมี่ ไวน์เฮ้าส์'  thaihealthที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนไปแบบเอมี่ ไวน์เฮ้าส์ นั่นอาจสรุปได้ว่า เขาส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างแล้ว ในหนังได้ตั้งคำถามให้คนดูได้คิดว่า การใช้ทักษะชีวิตกับคำว่า"มีใครไว้ใจได้บ้าง" เป็นคำถามที่คนดูต้องหาคำตอบเอง แล้วเราจะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างไร ขณะเดียวกันธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มักจะฉวยโอกาสส่งเสริมการขาย กลยุทธ์ซ้ำเติมมอมเมาเยาวชน โดยเฉพาะกลุ่มที่เปราะบางให้ดำดิ่งเร็วขึ้น โอกาสที่เยาวชนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมเป็นไปได้ยากมาก


ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยกาสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. กล่าวว่า ในหนังเรื่องนี้ได้สร้างการเรียนรู้ไว้ 3 ประเด็นคือ1.ก่อนเป็นตัว เอมี่ 2.เป็นตัวของเอมี่และ 3.สิ่งแวดล้อม ประเด็นแรกที่กล่าวถึงคือ ก่อนเป็นตัวเอมี่ สรุปได้ว่าครอบครัวมีความสำคัญและส่งผลต่อตัวเด็กในเรื่องเอมี่วัย 9 ปี รับรู้เรื่องการแยกทางของพ่อแม่ ความสุขครอบครัวหายไป แม่ไม่ได้สอนเรื่องระเบียบวินัย การควบคุมตนเอง ในหลายครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกันพ่อแม่มักจะชดเชยเด็กด้วยการตามใจ ในหนังเรื่องนี้ก็เช่นกัน แม่ไม่เคยพูดคำว่า "หยุด" และ "อย่า" กับเอมี่เมื่อเธอทั้งสูบหรี่ ดื่มเหล้า หรือจะพาผู้ชายมานอนที่บ้าน


ประเด็นที่ 2 เป็นตัวของเอมี่ กับความมีชื่อเสียง เงินทองมากมาย แต่เธอกลับไม่มีความสุข  เอมี่เลือกใช้วิถีชีวิต และการแก้ปัญหาด้วยการหนีปัญหาอีกทั้งโรคบูลิเมียก็เป็นพื้นฐานการเกิดโรคซึมเศร้าของเอมี่ เธอขาดความสามารถในการตอบสนองและการใช้ทักษะชีวิต ทุกคนมีสิทธิที่จะเลือกทำในสิ่งที่เราทำแล้วสบายใจ และสามารถตัดสินใจเองได้ และเธอก็เลือกที่จะใช้เหล้ายาเสพติด เพื่อหลีกหนีปัญหา


ประเด็นที่ 3 สิ่งแวดล้อม จากครอบครัวที่พ่อแม่ ไม่เคยใช้คำว่า"หยุด" และ "อย่า" กับเอมี่ รวมทั้งสามีที่ชักจูงให้เธอได้ถอดบทเรียนชีวิต 'เอมี่ ไวน์เฮ้าส์'  thaihealthรู้จักกับยาเสพติด ทุกครั้งที่ผ่านการบำบัดและต้องกลับมาอยู่ในสังคมเดิมๆ และกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม นั่นเขาเริ่มส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างแล้ว ซึ่งเราจะช่วยเขาได้เราต้องมีความเมตตา อุเบกขาและความอดทน เราถึงจะช่วยเขาได้ในเรื่องนี้จะเห็นว่าเหล้าจะเป็นตัวต้นทางที่นำสู่เรื่องต่างๆ ทั้งยาเสพติดและความตาย


นางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย)บ้านกาญจนาภิเษก  กล่าวว่า ในเรื่องนี้ทำให้ได้รับรู้การใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นที่สุดโต่ง และจากไปก่อนวัยอันควร แต่ลึกๆ แล้วไม่มีใครรู้ว่า อีก 80% ของชีวิตเขาต้องเผชิญกับอะไรมาบ้าง อีกทั้งปัจจัยต่างๆ ส่งให้ต้องเป็นแบบนี้ ทำให้เรามองเห็นคุณค่าของชีวิตมากขึ้น เอาบทเรียนที่ได้จากสิ่งเหล่านี้มาปรับใช้ ดูหนังแล้ววิเคราะห์บทเรียน มองให้เห็นพื้นที่สีดำของตัวละคร และต้องหาทางแก้ไขและดีดตัวเองออกมาเมื่อเกิดขึ้นกับตัวเองได้


ด้านนายบุรินทร แซ่ล้อ ผู้อำนวยการโคตรอินดี้  กล่าวว่า ดูหนังแล้วให้ดูตัวเอง  บอกได้เลยว่า ตนเคยทั้งดื่มเหล้าและสูบบุหรี่มาหมด และบอกได้เลยว่าเรื่องของสุรา ยาเสพติดในวงการดนตรีมีไหม ตอบได้เลยว่าประมาณ10% ซึ่งตนมองว่ามันเป็นเรื่องของแฟชั่นมากกว่า จากประสบการณ์การจัดงานคอนเสิร์ตโคตรอินดี้  ซึ่งตอนทำแรกๆ หลายคนบอกว่าจะทำได้จริงเหรอแต่มาวันนี้เราพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เราสามารถจัดพื้นที่บันเทิงปลอดเหล้าและบุหรี่ได้ และตนก็อยากให้การจัดงานแบบนี้ตกสู่รุ่นต่อรุ่น  ถือว่าเป็นการสร้างวัฒนธรรมใหม่ในการดูคอนเสิร์ต


"เพื่อน พ่อ แม่ ครอบครัว เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้วัยรุ่นไม่เข้าหายาเสพติดได้  เราควรปลูกจิตสำนึก ให้รู้ถึงภัยอันตรายของเหล้า ยาเสพติดต่อเด็ก"


บทเรียนชีวิตที่ก้าวพลาดที่ต้องแลกกับชีวิตของศิลปินชื่อดังอย่าง เอมี่ไวน์เฮ้าส์  อาจจะเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ต้องรู้เท่าทัน ณวันนี้ ผู้ใหญ่ในสังคมคงต้องช่วยกันเพิ่มทักษะการใช้ชีวิตให้กับเยาวชนไทย ก่อนที่จะสายเกินแก้ อย่างกับชีวิตของ"เอมี่ ไวน์เฮ้าส์"


 


 


ที่มา: หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย 

Shares:
QR Code :
QR Code