ต้อนรับปีใหม่ทั้งกาย-ใจไร้แอลกอฮอล์

ส่งความห่วงใย เพื่อสุขภาพผู้รับ

 

 ต้อนรับปีใหม่ทั้งกาย-ใจไร้แอลกอฮอล์

          ใกล้จะได้กล่าวคำว่า “สวัสดีปีใหม่” แล้ว คำคำนี้มีความหมาย ถือเป็นการเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ ให้ชีวิตมีคุณค่ามากขึ้น และช่วงเทศกาลปีใหม่ประชาชนนิยมซื้อกระเช้าของขวัญมอบให้แก่กัน แน่นอนว่าเทรนด์กระเช้าสุขภาพหรือกระเช้าสินค้า ทางเลือกมาแรงในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงถึงการส่งความสุขในช่วงปีใหม่ พร้อมทั้งบ่งบอกถึงความห่วงใย ใส่ใจสุขภาพของผู้รับ ซึ่งเป็นบุคคลที่รัก เคารพ และนับถือ

 

          หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนช่วยกันรณรงค์กระเช้าสุขภาพ โดยทุกกระเช้าจะต้องคัดเลือกสินค้าที่มีคุณภาพดี แสดงฉลากอาหารถูกต้อง มี อย. รับรอง สินค้าที่นำมาบรรจุลงกระเช้าต้องมีระยะเวลาก่อนหมดอายุอย่างน้อย  6 เดือน แสดงรายละเอียดวันหมดอายุของสินค้าชนิดที่มีอายุสั้นที่สุดบนกระเช้า แสดงตราสัญลักษณ์หรือชื่อสถานที่ประกอบการบนกระเช้า

 

          ตอนนี้ใครที่จัดส่งกระเช้าทำลายสุขภาพ ประเภทที่มีเหล้าราคาแพงเป็นพระเอกโดดเด่นที่สุดในกระเช้า ถือว่าตกกระแส แถมยังจะถูกตั้งคำถามว่าเป็นการส่งความสุขหรือความเศร้ากันแน่ ขณะที่ผู้จัดจำหน่ายกระเช้าเหล้าเองก็มีสิทธิติดคุกหรือทั้งจำทั้งปรับ เพราะตามกฎหมายใหม่ห้ามนำเหล้าใส่กระเช้า อย่างไรก็ตาม ปีที่ผ่านมาพบว่าการส่งของขวัญเพื่อส่งความสุขในเทศกาลปีใหม่ปีนั้น มีความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ค่อนข้างชัดเจน กระเช้าเหล้ามีจำนวนลดน้อยลงจนสังเกตได้ และที่เข้ามาแทนก็คือ กระเช้าเพื่อสุขภาพ ซึ่งน่าจะเป็นการส่งความสุขได้อย่างแท้จริง

 

          ธีระ วัชรปราณี  ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้  ทางสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ออกประกาศ เรื่องการจำหน่ายกระเช้าปีใหม่ที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้ระบุชัดเจนว่า การจัดจำหน่ายกระเช้าของขวัญสำเร็จรูปที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมอยู่ด้วย หรือกระเช้าที่มีเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าข่ายผิดกฎหมาย จึงขอความร่วมมือองค์กรต่างๆ ร่วมรณรงค์ของขวัญปลอดเหล้า และให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปี 2551 อย่างเคร่งครัด

 

          ด้านเยาวชนไทยก็เข้ามาร่วมรณรงค์ส่งเสริมค่านิยมใหม่ ปลูกจิตสำนึกการมอบของขวัญเพื่อสุขภาพโดยปราศจากแอลกอฮอล์  ผ่านโครงการรณรงค์  “ของขวัญ..ปลอดเหล้า”  โดยร่วมกับเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เชิญชวนให้ผู้ใหญ่ ประชาชนทั่วไป งดส่งและรับของขวัญที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อสุขภาพที่ดีและเพื่อส่งความสุขให้กัน

 

          อุกฤษฎ์ จันทวี นายกองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏจันเกษม สมาชิกมูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา กล่าวว่า ในสังคมไทยปัจจุบันนี้ ยังคงมีพฤติกรรมการมอบของขวัญปีใหม่ด้วยเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งอัตราการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดโรคถึง 60 โรค ทำให้เกิดปัญหาในครอบครัว โรคเอดส์ ดังนั้น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงไม่ใช่สินค้าธรรมดา และไม่ควรนำมาเป็นของขวัญมอบแด่ที่รักและเคารพ รวมไปถึงการจัดงานเลี้ยงต่างๆ ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

 

          อนาคตเยาวชนไทยมีแนวโน้มที่มีการดื่มสุราในอัตราเสี่ยงที่สูง ด้วยปีนี้ได้มีพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พุทธศักราช 2551 เกิดขึ้น เพื่อเป็นการสกัดนักดื่มหน้าใหม่ จำเป็นอย่างยิ่งที่ภาครัฐและภาคเอกชนจะต้องช่วยกันรณรงค์อย่างเข้มข้น  ยิ่งในเรื่องของการเรียน การศึกษา โดยเยาวชนที่กำลังจะโตขึ้นเป็นอนาคตของชาติ ไม่ควรปล่อยให้ตกเป็นทาสของน้ำเมา วันนี้ขอเป็นตัวแทนเยาวชน ออกมาเชิญชวนประชาชนคนไทยและวอนผู้ใหญ่กรุณาให้ความร่วมมือในการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง เพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของสังคมไทย และเป็นตัวอย่างที่ดีของเยาวชนรุ่นหลังต่อไป”

 

          ในท้ายนี้ อุกฤษฎ์ยังขอให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพดี ไม่ป่วย ไม่ไข้ และหากนักดื่มท่านใดจะถือเอาฤกษ์ปีใหม่ 2552 เป็นการเริ่มต้นลด ละ เลิกแอลกอฮอล์ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ ส่วนใครที่กำลังคิดจะส่งท้ายปีเก่าด้วยน้ำเมา ก็ขอให้เปลี่ยนความคิดที่จะส่งผลร้ายต่อตัวเองและสังคม

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

 

 

Update 29-05-52

อัพเดทเนื้อหาโดย : กันทิมา ลีจันทึก

 

Shares:
QR Code :
QR Code