ที่มา : ข่าวสด (http://bit.ly/2ARKSAF)

แฟ้มภาพ

กรมเจ้าท่า ตรวจเรือแสนแสบ สั่งติดตั้งเครื่องจับความเร็วแบบเรียลไทม์ พร้อมคุมระดับเสียง

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่บริเวณท่าเรือประตูน้ำ ติดตามตรวจสอบผลการควบคุมเรือโดยสารในคลองแสนแสบ ร่วมกับ นายเชาวลิต เมธยะประภาส (ลุงถั่ว) เจ้าของบริษัทครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด ผู้ให้บริการเรือด่วนคลองแสนแสบ ว่า หลังจากที่จท. ออกมาตรการดูแลการเดินเรือในคลองแสนแสบ ควบคุมมาตรฐานระดับเสียงไม่เกิน 100 เดซิเบล และความเร็วไม่เกิน 20 ก.ม./ช.ม. พบว่าเรือแสนแสบมีการใช้อุปกรณ์กรองเสียงเครื่องยนต์ และติดตั้งฝาครอบไอดีแบบใหม่ทำให้ระดับเสียงที่ออกมาจากห้องเครื่องลดลง 15-20% อยู่ในระดับ 90 เดซิเบล อย่างไรก็ตาม จท. ได้ขอให้มีการปรับปรุงอุปกรณ์กรองเสียงให้เสียงลดลงเหลือ 85 เดซิเบล โดยให้เรือจัดทำระบบน้ำไหลผ่านท่อไอเสียมากขึ้นกว่าเดิม (น้ำไหลผ่านท่อพร้อมกับไอเสีย) ซึ่งจะช่วยให้ระดับเสียงที่ปลายท่อไอเสียลดลง 10-15%

ส่วนการควบคุมความเร็วนั้นให้มีการล็อกรอบเครื่องยนต์ไว้ที่ 1800 พร้อมติดตั้งเครื่องวัดรอบไว้ในเรือ ซึ่งจท. ได้ติดตั้งกล้องซีซีทีวี แบบตรวจจับความเร็ว 1 จุดบริเวณซอยนานาแล้ว และสัปดาห์หน้าจะติดตั้งเพิ่มอีก 4 จุด ซึ่งกล้องจะประมวลผลส่งไปที่ห้องควบคุมของจท.หากความเร็วไม่เกินที่กำหนดจะเป็นสัญลักษณ์หน้ายิ้มสีเขียว แต่หากเกินกำหนดจะเป็นสัญลักษณ์หน้าโกรธสีแดง ซึ่งข้อมูลจะเป็นเรียลไทม์สามารถแจ้งให้เรือแก้ไขได้ทันที

นายจุริตม์ กล่าวต่อว่า จท.จะติดตามและควบคุมมลภาวะทางเสียงและความเร็วอย่างใกล้ชิด ซึ่งต้องยอมรับว่าการเดินทางโดยเรือจะช้าลงประมาณ 10 นาที แต่เพื่อทำให้มลภาวะลดลงและไม่เกิดผลกระทบต่อประชาชนทั้ง 2 ฝั่งคลอง นอกจากนี้ จท. กำลังจัดทำโครงการเสนอกระทรวงพลังงานในการใช้เงินกองทุนอนุรักษ์พลังงานมาวิจัยและทำต้นแบบเรือไฟฟ้าลดมลพิษที่เหมาะสมกับคลองแสนแสบ ลดเสียงและลดคลื่น คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนธ.ค.นี้ และจะนำมาทดลองวิ่งในคลองแสนแสบ และคลองอื่นๆในกรุงเทพฯด้วย

นายเชาวลิต กล่าวว่า ขณะนี้ได้ติดเครื่องกรองเสียงที่เรือเพื่อลดเสียงแล้วจำนวน 30 ลำจากทั้งหมด 60 ลำ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเวลานี้ตัวเลขผู้โดยสารในคลองแสนแสบเพิ่มขึ้น 4-5% จากเดิมที่ใช้บริการวันละเกือบ 6 หมื่นคนเพิ่มอีกวันละประมาณ 5-6 พันคน ซึ่งเป็นผลมาจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าในหลายเส้นทางทำให้ถนนถูกลดเลนส่งผลให้รถติดมาก คนจึงหันมาใช้บริการเดินทางโดยเรือเป็นทางเลือกแทน จนทำให้การบริการไม่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวันมีผู้โดยสารตกค้างประมาณ 3 พันคน ประกอบกับการควบคุมความเร็วให้เป็นไปตามที่จท. กำหนดส่งผลให้ผู้โดยสารกดดันต่อว่าและร้องเรียน เนื่องจากไปทำงานไม่ทัน ดังนั้น จึงอยากให้ผู้โดยสารเข้าใจ เห็นใจ และขึ้นลงเรือด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัย ส่วนกรณีจท.จะทำเรือไฟฟ้าเป็นต้นแบบนั้นหากสำเร็จและได้ผลบริษัทก็พร้อมจะลงทุนและพัฒนาเรือให้ทันสมัยและลดมลพิษ เพื่อให้บริการผู้โดยสารอย่างเต็มที่