ตะลุยค่ายปิดเทอม’ซุปเปอร์คิดส์ พิชิตภัย’
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
แฟ้มภาพ
ในช่วงปิดเทอมใหญ่แบบนี้ คุณพ่อคุณแม่หลายครอบครัวได้พาน้องๆ ไปทำกิจกรรม บ้างก็ไปเที่ยวพักผ่อน บ้างก็ไปสวนสนุก และบ้างก็เข้าค่ายเพื่อเรียนรู้สิ่งที่นอกเหนือจากห้องเรียน
การสนับสนุนให้เด็กๆ มีกิจกรรมและเน้นการเล่นเพื่อเรียนรู้ นับว่าเป็นช่วงเวลาแสนสนุกของพวกเขาเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากการเรียนด้านวิชาการที่โรงเรียนแล้ว การเข้าค่ายที่เน้นการให้ความรู้ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์นับว่าเป็นเรื่องสนุกและสามารถดึงเด็กๆ ออกจากหน้าจอโทรทัศน์ หน้าจอโทรศัพท์ เป็นการเพิ่มการขยับ ตามแนวทาง "ออกมาเล่น" (Active Play) ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
เมื่อไม่นานมานี้ ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. ได้จัดค่ายฝึกทักษะการเอาตัวรอดจากภัยใกล้ตัวสำหรับเยาวชน "Super Kids พิชิตภัย" ระยะเวลาครั้งละ 3 วัน โดยจัดยาวนานถึง 5 สัปดาห์ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กใช้เวลาช่วงปิดเทอมให้เกิดประโยชน์ ได้ทั้งความรู้และได้สังคมจากเพื่อนใหม่ๆ
ผู้ออกแบบ และผู้จัดค่าย "Super Kids พิชิตภัย"นายเทพฤทธิ์ ถนัดพจนามาทย์ หรือพี่เก่ง เล่าให้ฟังว่า เด็กๆ วัย 9-12 ปี เป็นช่วงที่ต้องออกจากบ้านไปสู่โลกภายนอก ภัยที่เจออาจมีหลายรูปแบบ จึงออกแบบค่ายโดยเน้นเรื่องภัยรอบตัวภายใต้รูปแบบ "รู้ทันเพื่อลดความเสี่ยง รู้เสี่ยงเมือเกิดภัย และรู้รักษาตัวได้หลังเกิดเหตุ" โดยค่ายแบ่งเป็น 3 วัน วันแรก เรียนรู้ ภัยที่เกิดขึ้นภายในบ้านและคอนโดฯ ประกอบด้วยภัยจากอาหาร ของเล่น เครื่องใช้ไฟฟ้า สัตว์เลี้ยง และพื้นที่เสี่ยงภายในบ้าน วันที่สอง เรียนรู้เรื่อง ภัยนอกบ้าน เช่น การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ รถยนต์ส่วนตัว รถไฟฟ้า เรือ และเรียนรู้กฎจราจร ส่วน วันที่สาม เรียนรู้เรื่อง ภัยจากคนใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นสื่อออนไลน์ สิ่งเสพติด การคุกคามทางเพศ ใน 3 วันนี้น้องๆ จะได้ความรู้ไปอย่างเต็มเปี่ยมและจะระวังภัยรอบตัวมากขึ้น รู้จักการป้องกันตัวเองและหาทางช่วยเหลือตัวเองเมื่อตกอยู่ในอันตราย
เรื่องกฎกติกาของการอยู่ร่วมกันเป็นอีกเรื่องที่สำคัญ พี่เก่ง อธิบายว่า น้องๆ ต้องอยู่ร่วมกับคนในสังคม ฉะนั้นต้องเคารพกฎระเบียบ และมีวินัยในตนเอง ในค่ายจะมีพี่เลี้ยงที่คอยบอกระเบียบวินัย ตั้งเงื่อนไขของการกระทำผิด และชื่นชมกับความดีที่น้องทำ รวมไปถึงสอนให้รู้จักการเป็นผู้นำ ผู้ตาม มีน้ำใจ มีความเสียสละและทำงานเป็นทีม รางวัลในค่ายจึงมีทั้งรางวัลของทีมดีเด่น ทีมความคิดสร้างสรรค์ รางวัลสะสมความดี และมารยาท เพราะนอกจากความรู้ที่น้องจะได้รับแล้วนั้น เรื่องกฎการอยู่ร่วมกันเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน
"ผมชอบแนวคิดของ สสส.ที่สนับสนุนให้เด็กใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว เพราะนอกจากด้านวิชาการที่สร้างไอคิว (IQ) แล้ว การทำกิจกรรมต่างๆ เป็นการสร้างอีคิว (EQ) ของเด็กด้วย และทำให้เขามีการขยับเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่มีพฤติกรรมเนือยนิ่งติดหน้าจอ สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะหล่อหลอมให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ รู้จักรับผิดชอบต่อตนเอง เป็นผู้ให้และเอื้อเฟื้อต่อสังคมด้วย" ผู้จัดค่ายฯ กล่าว
เสียงจาก ด.ญ.นฤถร นวัตวุฒิวงศ์ หรือน้องมะเฟือง อายุ 12 ปี โรงเรียนซางตาครู้สศึกษา ที่เข้าร่วมค่ายของ สสส.ที่จัดในช่วงปิดภาคเรียนมาแล้วหลายครั้ง เล่าให้ฟังถึงความประทับใจและสิ่งที่ได้เรียนรู้ว่า ตนชอบค่ายของ สสส. เพราะได้เรียนรู้เรื่องราวที่หลากหลาย แต่ละครั้งที่จัดค่ายมีกิจกรรมที่ไม่ซ้ำกัน สำหรับวันนี้ที่ได้ร่วมกิจกรรม ชอบเรื่องภัยที่เกิดขึ้นในบ้านและคอนโดฯ โดยเฉพาะเรื่องอาหาร ได้ทราบวิธีการดูน้ำมันเก่าและน้ำมันใหม่ จะได้ระวังตัวจากการกินน้ำมันเก่าที่ก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้ และสำหรับค่ายรอบหน้าก็ไม่พลาดที่จะมาเข้าร่วมอีกแน่นอน
ด้าน ด.ช.ณภัธ ตุลารักษ์ หรือน้องจ้า อายุ 9 ปี โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ เล่าให้ฟังอย่างสนุกสนานว่า มาค่ายครั้งแรกได้รู้จักเพื่อนๆ หลายคน และได้เรียนรู้เรื่องภัยใกล้ตัวที่เกิดจากอาหารที่กิน รู้ว่าเด็กต้องกินน้ำตาล โซเดียม และไขมันเท่าไหร่ นอกจากนี้ยังได้รู้วิธีดูวันหมดอายุบนซองขนมหรืออาหารด้วย
ปิดท้ายกันที่ ด.ญ.รชิตา รชตธรรมกุล หรือน้องเซนต์ อายุ 10 ขวบ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ เล่าอย่างกระตือรือร้นในสิ่งที่เรียนว่า ชอบกิจกรรมที่สอนเรื่องอันตรายจากของเล่นภายในบ้าน เพราะเป็นสิ่งใกล้ตัวมาก จะได้ระวังของเล่นอย่างสลามหรือเบบี้คริสตัลที่เป็นอันตราย แม้ว่าจะสวยงามแต่มีสารเคมี เด็กๆ ไม่ควรจะเล่น และค่ายหน้าก็จะมาร่วมกิจกรรมอีกแน่นอน
ปิดเทอมนี้เวลาที่เด็กๆ มีความสุขที่สุดคือ การที่เขาได้ทำในสิ่งที่ผ่อนคลาย สนุกสนาน และได้เรียนรู้สิ่งที่เหมาะกับวัย การออกไปเจอเพื่อนและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นับเป็นเรื่องตื่นเต้นที่ทำให้ปิดเทอมของพวกเขาเป็นที่น่าจดจำ