ดู๊ ดู ดู ดูเธอทำ ทำไมถึงทำกับเหมียวได้

คนรักษ์สัตว์หวาด “โรคหวัดแมว”

 

          เมื่อน้องเหมียว สมาชิกประจำบ้านของหมู่บ้านชะไว ต.ชะไว อ.ไชโย จ.อ่างทอง พากันล้มตายกว่าครึ่งพัน ข่าวนี้ลือสะพัดลามไปถึงหมู่บ้านของตำบลใกล้เคียงและปากต่อปากไปจนทั่วประเทศ จนทำให้ทราบข่าวว่าน้องหมาบางส่วนก็มีล้มตายจำนวนหนึ่งบ้างเช่นกัน

 

          เหตุที่เป็นเช่นนั้นคงไม่ใช่อื่นไกล นอกจากประชาชนผู้เลี้ยงกลัวติดโรคจากน้องเหมียวหรือกลัวตายนั่นเอง แต่เมื่อคิดถึงที่มาที่ไปของโรคนี้ให้ดีแล้ว ก็เพราะผู้เลี้ยงนั่นเองที่ทำให้โรคระบาดขึ้นมา

 

          เลี้ยงแบบตามมีตามเกิด ไม่นำไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้กับสัตว์เลี้ยงในบ้าน และเมื่อเป็นโรคอะไรขึ้นมาก็นำไปปล่อยวัด ให้พระสงฆ์ นอกจากจะทำหน้าที่เผยแพร่พระพุทธศาสนาแล้วต้องรับผิดชอบบาปจากความใจบุญชั่ววูบของผู้รักษ์สัตว์เลี้ยงแบบผิดๆ

 

          ล่าสุดสัตว์จังหวัดอ่างทองระบุว่า สาเหตุการล้มตายเกิดจากการติดเชื้อโรคไข้หวัดแมวและโรคไข้หวัดแมว ซึ่งก่อนอื่นสัตวแพทย์จากหลายสำนักออกมาให้ความรู้กับประชาชนว่า โรคดังกล่าวไม่ได้ติดต่อสู่คน!!!

 

          โรคไข้หวัดแมวหรือ Cat Flu เกิดจากเชื้อไวรัส 2 ชนิด แมวทุกอายุ ทุกสายพันธุ์ มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้ทั้งหมด มีแมวอีกจำนวนมากที่มีเชื้ออยู่แต่ไม่แสดงอาการ จะแสดงอาการเมื่อเกิดอาการเครียด เช่น ช่วงหลังคลอด ขณะให้นมลูก ช่วงหลังผ่าตัด เมื่อมีการเปลี่ยนที่อยู่หรือได้รับยากลุ่มสเตียรอยด์เป็นระยะเวลานาน เป็นต้น

 

          “โรคนี้พบได้ในกลุ่มแมวที่ไม่เคยรับวัคซีน อัตราการติดโรคอาจสูงถึง 100% โดยทั่วไปแล้วอัตราการตายจะไม่สูง แต่มีโอกาสตายถึง 30% ในลูกแมวที่เครียดหรือมีโรคอื่นแทรกซ้อน”

 

          การติดต่อของโรค เกิดจากแมวไปสัมผัสโดยตรงกับน้ำมูก และสิ่งคัดหลั่งอื่นๆ ของแมวที่เป็นหวัด ซึ่งละอองของสิ่งคัดหลั่งเหล่านี้จะกระจายไปได้เพียงประมาณ 4 ฟุต การสัมผัสเชื้อไวรัสที่อยู่ตามเสื้อผ้าของตัวคนและตัวแมว และส่วนใหญ่เกิดกับลูกแมวที่เกิดจากแม่แมวที่มีเชื้ออยู่แต่ไม่แสดงอาการ โดยอาจติดจากแม่แมวขณะให้นมลูก โดยทั่วไปแล้วลูกแมวจะติดเชื้อนี้เมื่ออายุประมาณ 5-8 สัปดาห์

 

          อาการที่พบคือ แมวจะมีน้ำมูกไหล ขี้ตาเฉอะแฉะมากกว่าปกติ จามหรือไอมากผิดปกติ เบื่ออาหาร ช่องปากอักเสบ เช่น มีแผลในช่องปาก โดยเฉพาะลิ้น มีไข้ ซึม หมดเรี่ยวแรง ตาอักเสบและเกิดแผลหลุมที่กระจกตา

 

          หรืออาจเป็นโรคปอดบวมหรือโรคทางเดินหายใจแทรกซ้อนตามมาอีก โดยเฉพาะแมวที่มีอายุน้อยและอายุมากเกินไป อาจทำให้ตายได้ ในแมวที่ท้องก็มีโอกาสแท้งได้

 

          วิธีการช่วยเหลือเบื้องต้นคือ หากอาการไม่รุนแรงมากจะหายได้เองแต่ต้องแยกแมวป่วยออกจากตัวอื่น และนำไปแยกไว้ในสถานที่อากาศถ่ายเทสะดวก ทำความสะอาดตาและจมูก อย่าให้กินยาลดไข้โดยที่สัตวแพทย์ไม่ได้สั่งจ่ายเพราะยาบางชนิดทำให้แมวอาการหนักกว่าเดิมหรือตายได้

 

          ส่วนโรคหัดแมว จะไม่ได้เหมือนโรคหวัดแมวที่มีผลต่อระบบทางเดินหายใจเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงระบบทางเดินอาหารด้วย ถ้าเจาะเลือดไปตรวจจะพบว่าเม็ดเลือดขาวต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด และแมวป่วยจะตายอย่างรวดเร็ว พบมากในลูกแมวที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือน จะตายได้ง่าย

 

          การติดต่อจะสามารถรับเชื้อเข้าทางปากโดยตรงแล้วภายใน 18-24 ชั่วโมงจะมีไข้ และจะเข้าสู่กระแสเลือดภายใน 24 ชั่วโมง เมื่อเชื้อเข้าไปในกระแสเลือดแล้วจะไปที่ต่อมน้ำเหลืองต่างๆ และอวัยวะที่มีเซลล์การแบ่งตัว เช่น ตามผนังลำไส้ส่วนกลาง-ส่วนปลาย ทำให้เกิดเนื้อตาย และไปที่ไขกระดูก ทำให้เกิดเม็ดเลือดขาวต่ำ ทำให้แมวท้องจะแท้ง หากเกิดในลูกแมวจะทำให้สมองลีบเล็ก ตายอย่างรวดเร็ว

 

          “วิธีการป้องกันทำได้ง่ายๆ เพียง การฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดให้แก่แมวทุกตัวในบ้าน ตั้งแต่ลูกแมวอายุ 7-8 สัปดาห์ และฉีดวัคซีนครั้งที่ 2 เมื่ออายุ 11-12 สัปดาห์ และฉีดวัคซีนซ้ำอีกทุกๆ ปี ไม่เพียงแต่การนำน้องเหมียวไปหาสัตวแพทย์เป็นประจำเพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดแมวแล้ว ยังมีวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งถือว่ามีการระบาดกว่าโรคหัดแมวที่พบกันอยู่ทุกวันด้วย”

 

          ขณะเดียวกันผู้เลี้ยงก็ต้องมีสุขลักษณะที่ดี ล้างมือทุกครั้งภายหลังจากจับสัตว์เลี้ยง หากถูกกัดก็ควรรีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและสบู่ทันที ให้ใส่ยาโพรวิโตนไอโอดีน และให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา

 

          ในเมื่อสัตว์เลี้ยงไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยจากตัวของมันเอง แต่โรคที่ระบาดขึ้นเกิดจากการไม่ดูแลเอาใจใส่ในชีวิตหนึ่งชีวิตที่เราไปรับเขาเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว เมื่อตอนวัยเยาว์น่ารักน่าอุ้ม น่าทะนุถนอม แต่เมื่อโตขึ้นก็หากินตามมีตามเกิด เลี้ยงไม่ไหวก็ไปปล่อยวัด

 

          นี่หรือคือความใจบุญของชาวพุทธไทย!!!

 

          มาร่วมสร้างความเข้าใจและสร้างสุขด้วยการทำความดีอย่างแท้จริงกับโครงการสร้างสุขทางจิตของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ไม่เพียงแต่น้องเหมียวน้องหมาจะได้รับการดูแลเอาใจใส่เสมือนบุตรหลานของท่านแล้ว ความสุขทางใจที่ท่านได้รับจากการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับสัตว์โลกด้วยกันนั้น ย่อมนำมาซึ่งความสุขสงบภายในใจอย่างแท้จริง

 

 

 

 

 

เรื่องโดย : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

ภาพประกอบ : อินเตอร์เน็ต

 

 

 

 

Update : 25-08-51