ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

แฟ้มภาพ

จากการประกาศปิดสถานบริการเมื่อวันที่ 18 มี.ค. พร้อมใช้มาตรการ การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) ซึ่งถือเป็นมาตรการที่หลายประเทศใช้ในการควบคุมการระบาดของโควิด-19

หลายคนอาจกังวลว่าการพบผู้ป่วยมากขึ้น รวมถึงมาตรการเข้มข้น จะนำไปสู่ระยะที่ 3 และปิดประเทศหรือไม่ ความจริงแล้วสิ่งสำคัญกว่าคือการที่ประชาชนตระหนัก และปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง ไม่ว่าเราจะอยู่ในระยะใดก็ตาม

ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในงานแถลงข่าว ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย รวมสมอง ร่วมใจ "สู้ภัย COVID-19" ณ อาคารเฉลิมพระบารมี 50 ปี ว่า ปัจจุบันรัฐบาล ประกาศมาตรการเข้มข้น เพื่อเป็น การชะลอการระบาดของโรค ทุกคน ต้องร่วมมือร่วมใจกันเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคน

ขณะที่ภาคส่วนที่ต้องปฏิบัติงานก็ทำเต็มที่ บุคลากรด้านสุขภาพจะเหนื่อยมาก หากเราไม่ให้ความร่วมมือ อยากจะขอร้องประชาชนว่า หน้าที่ท่าน คือ ดูแลสุขภาพตัวเอง เช่น หมั่นล้างมือด้วยสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจล 70% ขึ้นไป เว้นระยะห่างพอสมควร ขอให้ทำ นี่คือหัวใจ ส่วนภาครัฐ เอกชน ก็ร่วมมือกันทั้งเรื่องยา วัคซีน มีการสั่งยาเข้ามาเพื่อเตรียมพร้อม เพื่อให้ชะลอการระบาดของโรคมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล

"ขณะที่หลายคนพูดถึงระยะ 3 แต่ความจริงไม่สำคัญ ไม่ว่าจะระยะไหนเราต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ใช่เข้าระยะ 3 แล้วถึงจะดูแลตัวเอง หากระยะ 2 ไม่ดูแล ตัวเอง ยิ่งจะทำให้เข้าสู่ระยะที่ 3 เร็วเข้าไปอีก นอกจากนี้ มาตรการภาครัฐ ต้องเข้มข้น และพวกเราต้องร่วมมือกัน ถ้าเรามีวินัยเราจะไม่ไปถึงจุดนั้น" ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าว