ดูแลสุขภาพใจด้วย ‘ไดอารี่’

กบ พิมลรัตน์ พิศลยบุตร

 

 

ทราบว่าน้องกบเป็นนักอ่าน …หนังสือที่ชอบเป็นประเภทไหนคะ

 

            กบชอบอ่านหนังสือที่ช่วยพัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ หรือหนังสือประเภทฮาวทู (how to) ค่ะ แต่ประเภทที่ชื่นชอบที่สุดคือหนังสือแนวจิตวิทยาค่ะเพราะหนังสือประเภทนี้ทำให้เรามีความเข้าใจตัวเอง และคนรอบตัวได้มากขึ้น เหตุผลก็น่าจะมาจากการที่เราเป็นคนแคร์ความรู้สึกคนอื่น ไม่อยากทำในสิ่งที่อาจจะกระทบใจใคร หรือทำให้คนรอบตัวไม่สบายใจได้

 

            เมื่อก่อนนี้ กบมักคิดว่าคนอื่นก็คงนิสัยเหมือนๆ กับเราหมด แต่การต้องพบเจอคนมากมายทำให้เรารู้ว่าคนมีหลายแบบ หลากหลายความคิด การจะทำงานร่วมกัน พูดคุยกันแล้วไม่เกิดปัญหา เราก็ต้องเข้าใจเขาในแบบที่เขาเป็นค่ะ

 

ส่วนใหญ่แล้ว นักอ่านมักชอบเขียนบันทึกลงไดอารี่ แล้วน้องกบล่ะคะ ชอบเขียนไดอารี่รึเปล่า

 

            ชอบค่ะ โดยเฉพาะช่วงที่เป็นวัยรุ่น แต่เดี๋ยวนี้ต้องทำงานเยอะขึ้นเลยมีโอกาสเขียนน้อยลง เรื่องที่กบเขียนลงในไดอารี่ก็มีหลายเรื่องนะคะ แต่ที่มักเขียนบ่อยที่สุดคือ ช่วงเวลาที่เราไม่สบายใจ หรือรู้สึกไม่ดีกับอะไรบางอย่าง กบมักจะบันทึกเรื่องราวช่วงนั้นเพื่อเอาไว้เตือนตัวเองว่า สิ่งไหนไม่ดี สิ่งไหนไม่ควรทำ เพื่อเราจะได้ไม่ทำผิดพลาด และไม่ต้องเสียใจแบบนั้นอีก เพราะกบเข้าใจดีว่า ธรรมชาติของคนเราลืมง่าย ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไป อาจจะทำผิดเรื่องเดิมซ้ำสองได้ การได้บันทึกเรื่องเหล่านี้ไว้จึงช่วยเตือนเราได้บ้างค่ะ

 

            นอกจากนี้ การเขียนไดอารี่เมื่อเรารู้สึกแย่ๆ ก็ช่วยให้เราไม่ต้องระบายอารมณ์กับใครโดยเฉพาะคนใกล้ตัว เพราะเวลาที่คนเราโมโห จิตใจจะไม่มั่นคง มีเหตุผลน้อย แถมเหตุผลส่วนใหญ่ก็มักจะเข้าข้างตัวเองทั้งนั้น การพยายามอธิบายหรือถกเถียงกับใครก็จะยิ่งทำให้เรื่องบานปลาย และต่างคนต่างเสียใจกันเปล่าๆ สู้เรานิ่งเงียบ ระบายความไม่พอใจกับสมุดดีกว่า เพราะบางทีวันรุ่งขึ้นมาอ่าน เราอาจจะพบว่า จริงๆ แล้วเราเองเป็นคนที่ผิด และไม่ควรเลยที่จะไปโกรธคนอื่น

 

 

เรียกว่าการเขียนไดอารี่ ได้รู้จักตัวเองเพิ่มขึ้นด้วยใช่ไหมคะ

 

            ใช่ค่ะ เพราะอย่างที่บอกว่า บางครั้งเราก็มองแต่มุมของตัวเองฝ่ายเดียว หรือเกิดความสับสนกับบางเรื่องได้ การจดบันทึกช่วงเวลาที่สับสนหรือมีปัญหานี้ก็จะทำให้เรามองชัดขึ้นว่า ความคิดแบบไหนที่ทำให้เราเกิดปัญหา ความคิดแบบไหนที่เราควรปรับเปลี่ยน จะได้ปรับทัศนคติได้ตรงกับสาเหตุค่ะ

 

            ที่สำคัญ นอกจากได้เรียนรู้ตัวเองแล้ว เรายังได้เรียนรู้คนรอบตัวเพิ่มมากขึ้น อย่างกบเรียนรู้ที่จะไม่ตัดสินคนตั้งแต่เจอกันครั้งแรก เพราะเชื่อว่าทุกอุปนิสัย ทุกอารมณ์ของคนแต่ละคน มีเหตุผล มีที่มา เราไม่ควรมองเขาอย่างที่เราคาดหวังให้เป็น แต่ควรมองความจริงที่เขาเป็นมากกว่า เช่น บางคนเป็นคนพูดเสียงดัง โผงผาง คนทั่วไปอาจมองว่าไม่สุภาพ แต่บางทีนั่นคือบุคลิกที่เขาเป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา กล้าแสดงความคิดเห็น และถ้ารู้จักกันนานขึ้นจะพบว่าเป็นคนมีน้ำใจ น่ารักมาก นี่ต่างหากเป็นสิ่งที่เราควรมอง ส่วนเรื่องอื่นที่มองแล้วไม่สบายใจอย่าไปคิดค่ะ

 

การเรียนรู้ที่จะปรับทัศนคติตัวเองแบบนี้ดีอย่างไรคะ

 

            การมองคนโดยไม่ตัดสิน ทำให้เราไม่เป็นคนโมโหง่าย ไม่พูดจาไม่ดีกับคนอื่น และช่วยลดปัญหาในการทำงานร่วมกันได้ เรียกว่าเป็นคนไม่มีศัตรู ค่ะ …แต่การไม่มีศัตรูภายนอก ไม่สำคัญเท่ากับ การไม่มีศัตรูในใจเราเพราะเมื่อเราไม่มองใครด้านเดียว เราก็ไม่เกลียด ไม่โมโหใคร และไม่รู้สึกแย่ …ที่สุดแล้วใจเราเองก็จะมีความสุข

 

            อ้อ! การเคารพในเหตุผลของคนอื่นทำให้เราไม่คิดไปยุ่งเรื่องของใครด้วยนะคะ ซึ่งเป็นเรื่องดีมาก เพราะจริงๆ ทุกคนก็มีเรื่องของตัวเองให้ต้องจัดการเยอะกันอยู่แล้ว จะเอาเรื่องของคนอื่นมาคิดให้ปวดหัวทำไม …ไม่สบายใจเปล่าๆ

 

…นี่ล่ะค่ะ ความสุขใจง่ายๆ ที่น้องกบได้เรียนรู้จากการเขียนไดอารี่ แล้วคุณล่ะคะ คิดจะเริ่มต้นเขียนไดอารี่กันบ้างแล้วหรือยัง

 

star tip : กบเป็นคนอ่านหนังสือหลายรอบ เพราะเรื่องที่กบอ่านเป็นเรื่องที่เราอยากจดจำ อยากเข้าใจ ที่สำคัญ เวลาอ่านหรือเขียนอะไร ก็ต้อง คิดตามไปด้วยนะคะ เพราะเราได้ทำความเข้าใจในเรื่องเหล่านั้นได้ดียิ่งขึ้น

 

 

 

 

 

 

ที่มา : นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 247

 

 

update 29-01-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : นพรัตน์ นริสรานนท์

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ