ดีเดย์จับปรับขับแล้วโทรฯ เริ่มจริง8พฤษภานี้

เพียงแค่ใช่อุปกรณ์เสริมขณะขับรถยนต์ เพื่อลดอุบัติเหตุ

ดีเดย์จับปรับขับแล้วโทรฯ  เริ่มจริง8พฤษภานี้

         

ตำรวจนครบาลประกาศจับจริงผู้ขับขี่รถใช้โทรศัพท์มีโทษปรับขับแล้วโทรฯ 400-1,000 บาท เผยติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ 30 ทางแยกทั่วกรุงเทพฯ เพื่อเฝ้าจับตา หากพบทำผิดจะส่งหมายเรียกตรงถึงบ้านให้เสียค่าปรับภายหลังระบุพร้อมกันนี้จะใช้ตรวจจับพวกตีนผี ชอบซิ่งฝ่าไฟแดงด้วย กำชับหากเจกำลังโทร.ซึ่งหน้าอาจเกิดอันตรายจะเรียกจับทันที แนะเลี่ยงได้เพียงใช้อุปกรณ์เสริม

 

          เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 เม.ย. พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) รับผิดชอบงานด้านการจราจร เปิดเผยความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมายห้ามโทรศัพท์ขณะขับรถทั่วประเทศ ซึ่งมีผลบังคับใช้วันที่ 8 พฤษภาคมนี้ว่า เป็นกฎหมายใหม่ที่นำมาบังคับใช้โดยห้ามไม่ให้ผู้ขับขี่รถใช้โทรศัทพ์มือถือพูดคุยขณะขับรถตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2551 มาตรา 43 (9) ห้ามมิการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โดยใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนา โดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้น หากผู้ใดฝ่าฝืนถือว่า มีความผิดมาตรา 157 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท ท่านไม่ต้องกลัวว่าตำรวจไมเห็นเพราะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดตามแยกต่างๆ ไว้แล้วรวม 30 แยกหลัก อีกทั้งยังใช้สำหรับการตรวจจับผู้ที่มักฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรด้วย หากตรวจพบจะมีการส่งหมายเรียกไปถึงบ้านให้มารับทราบข้อกล่าวหา

 

          พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวต่อว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ทำหนังสือสั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร บก.น.1-9 และ บก.จร.แล้วให้ศึกษาข้อกฎหมายอย่างละเอียดถี่ถ้วน ในระหว่างที่ยังไม่มีการบังคับใช้ และให้ทุก สน.ประชาสัมพันธ์ถึงอันตรายของการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถโดยเน้นการปลูกสร้างจิตสำนึกของผู้ใช้รถใช้ถนนให้คำแนะนำก่อนในระยะนี้ และให้การจับกุมเป็นมาตรการสุดท้ายที่จะนำมาบังคับใช้ อย่างไรก็ตามได้ให้นโยบายไว้แล้วว่า หากตรวจพบผู้ขับขี่มีการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถยนต์หรือขี่จักรยานยนต์ซึ่งเป็นเหตุซึ่งหน้าและก่อให้เกิดอุบัติเหตุให้ดำเนินการจับกุมในทันที แต่ต้องใช้ความละมุนละม่อมอย่างที่สุด และอยากให้ประชาชนเคารพกฎหมายไม่ต้องคอยหลบหลีกเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงแค่นำอุปกรณ์เสริมเข้ามาใช้ให้ถูกต้องเพื่อลดอุบัติเหตุตำรวจไม่อยากให้ใครต้องถูกจับ

 

ที่มา: เดลินิวส์

ภาพประกอบ : www.thaihealth.or.th

update 24-04-51

 

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ