ดร.วรนุช ตรีวิจิตรเกษม คนต้นคิดกล้าเปลี่ยนลดเด็กอ้วน
ที่มา : เว็บไซต์ไทยโพสต์
ภาพโดย สสส.
คนต้นคิดกล้าเปลี่ยน ดร.วรนุช ตรีวิจิตรเกษม อดีตผอ.โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน 12 ปี ที่ปรึกษาโครงการเด็กไทยดูดีมีพลานามัย ร.ร.กรุงเทพคริสเตียน เป็นหัวหอก 1 ใน 40 ร.ร.เข้าโครงการลดจำนวนเด็กอ้วน สสส. แพทย์วิทยากรโครงการเด็กไทยดูดีมีพลานามัยอบรมความรู้ เปลี่ยนไลฟสไตล์ทั้งร.ร. ห้ามนำน้ำอัดลม-น้ำหวาน ลดอาหารรสจัด หวาน มัน เค็ม เผ็ด สูตรไม่ต้องปรุงรสก็อร่อยได้
เปิดประสบการณ์เด็กเคยอ้วนกับแพคเก็จลดหุ่นในโรงเรียน เครือข่ายเด็กไทยดูดี 4.0 อ.ศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผอ.ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย นักเรียนโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนที่เข้าร่วมโครงการลดหุ่นในร.ร. นันท์ วงศ์ถนอม ชั้น ม.5 วิทย์ ณภัทร สุเทพากุล ชั้น ม.5 ศิลป์ ชยพัทธ์ ทรงพิพัฒน์ ชั้น ม.4 ดำเนินรายการโดยรศ.ดร.กาญจนา สุริยพรหม อาจารย์ประจำอาจารย์คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ห้องราชเทวี 1 โรงแรมเอเชีย ราชเทวี
อ.ศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผอ.ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย กล่าวว่า ร.ร.เข้าร่วมโครงการลดอ้วนกับ สสส. เนื่องมาจากในช่วงปี 2544 มีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมเด็ก BCC ตุ้ยนุ้ยมาก ใครเดินผ่านก็หยิกแก้มเด็ก ครูก็อ้วนด้วย
“ก่อนหน้านี้ผมเป็นครูธรรมดา ผู้บริหาร ร.ร.ให้ยกเลิกหวาน มัน เค็ม เผ็ด และการขายน้ำอัดลมเป็นเรื่องของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมซึ่งเป็นเรื่องยากมากสำหรับคนไทยที่ชอบปรุง เด็กบางคนก็ซ่อนน้ำอัดลมไว้ใต้โต๊ะ ทุก ร.ร.ทราบดีว่าการขายน้ำอัดลม ไอศกรีม ใน ร.ร. ไม่ใช่กำไรแค่บาทสองบาท การที่ผู้บริหาร ร.ร. ในช่วงเริ่มต้นมี ดร.วรนุช อ.เพ็ญจันทร์ คำนึงถึงสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ กล้าตัดสินใจยกเลิกการขายน้ำอัดลม น้ำหวานภายใน ร.ร. รวมทั้งเปลี่ยนการปรุงอาหาร งดหวาน มัน เค็ม เผ็ด เอาเครื่องปรุงออกไปจากโต๊ะอาหาร ในช่วงเริ่มแรกทั้งครู นักเรียน ผู้ปกครองหงุดหงิด แต่นโยบายนี้ทำให้ทุกคนในองค์กรตื่นตัว เด็กก็ลดความอ้วนได้ หล่อเป็น Model ที่ดี มีการออกกำลังกายฝึกแอโรบิคแดนซ์ ออกไปวิ่งให้มีความสุข ทำให้ขยับตัวเอง ออกกำลังกายทำไปเรื่อย ๆ”
อีกสิ่งหนึ่งที่ ดร.วรนุช เป็นประธานฯ ให้มีการยกเลิกการใช้กล่องโฟมซึ่งต้นทุน 3 บาท หันมาใช้กล่องกระดาษที่ทำจากชานอ้อยต้นทุน 7 บาท ซึ่งขณะนั้นราคาแพงมาก ตอนนี้ใน ร.ร. ไม่ใช้กล่องโฟมแต่ใช้กล่องกระดาษจากชานอ้อยแทน ถือว่าเป็นนโยบายที่กล้าหาญมากในการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงเพื่อเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตอนนี้ทุก ร.ร. รู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่คุ้มเกินคุ้มจริง ๆ
ในช่วงแรกของการผลักดันโครงการลดอ้วนใน ร.ร. ก็รู้สึกว่าเป็นภาระของอาจารย์ที่มีกิจกรรมใหม่เข้ามาใน ร.ร. แต่สุดท้ายเมื่อสรุปว่าทุกฝ่ายได้ประโยชน์ มีกำลังใจที่จะทำให้ประสบความสำเร็จให้ ร.ร.เป็นต้นแบบ เมื่อไม่มีน้ำอัดลมใน ร.ร.ก็ฝึกให้ทุกคนเปลี่ยนไลฟสไตล์ การกินก๋วยเตี๊ยวที่แต่เดิมต้องปรุง ถ้าไม่ปรุงต้องดิ้นพล่าน ๆ ก็กลายเป็นรู้สึกดีว่าถึงไม่ปรุงก็อร่อยได้ แล้วเตือนตัวเองว่าปล่อยให้อ้วนจะเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคหัวใจ
นันท์ วงศ์ถนอม นักเรียน ร.ร.กรุงเทพคริสเตียน ชั้น ม.5 วิทย์ จากเดิมที่มีน้ำหนัก 120 กก.ปัจจุบันมีน้ำหนัก 110 กก. เป็นคนหนึ่งที่เข้าร่วมกิจกรรมกับ สสส. เข้าร่วมอบรมกับ ศ.พญ.ชุติมา ศิริกุลชยานนท์ หัวหน้าโครงการเด็กไทยดูดีมีพลานามัยเพื่อเป็น Role Model ของนักเรียน “ตอนแรกผมรู้สึกอึดอัด จำใจทำ แต่เมื่อทำไปแล้วส่งผลดีต่อผมและพ่อแม่ของผมเกิดเป็นแรงบันดาลใจที่จะต้องทำให้สำเร็จ ควบคุมอาหาร คุมปากตัวเองดีที่สุด ไปไหนต้องไม่กินเพราะเราเป็นคนมีน้ำหนักเกินอยู่แล้ว ออกกำลังกายด้วยการวิ่ง เข้าฟิตเนส”
“ในช่วงแรกที่ลดน้ำหนัก ผมรู้สึกว่าโคตรทรมานมาก ๆ ยกน้ำหนัก ลดอาหาร น้ำหนักลดในช่วง 2 เดือนแรก ก็รู้สึกดี เกิดแรงบันดาลใจว่าเราจะต้องทำให้สำเร็จ”
ณภัทร สุเทพากุล ชั้น ม.5 ศิลป์ ชยพัทธ์ ทรงพิพัฒน์ ชั้น ม.4 ทั้งสองกล่าวว่า ปกติก็ไม่ค่อยดื่มน้ำอัดลมอยู่แล้ว ดื่มน้ำเปล่าที่ติดยี่ห้อของ ร.ร. เป็นประจำ ทั้งสองไม่อ้วนแต่อยากมีสุขภาพดีจึงเข้าร่วมโครงการลดอ้วนด้วย ตอนนี้ก็ปฏิวัติตู้เย็นในบ้านเลือกอาหารสุขภาพมากิน
ดร.วรนุช ตรีวิจิตรเกษม อดีตผอ.โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนคนที่ 14 (อยู่ในตำแหน่ง 12 ปี) ที่ปรึกษาโครงการเด็กไทยดูดีมีพลานามัย มีประสบการณ์ทำงาน ร.ร.กรุงเทพคริสเตียน 40 ปี (จบจาก ร.ร.เซนต์โยเซฟคอนแวนต์ จบปริญญาตรีด้านการสอนภาษานักเรียนมัธยม มศว.ปทุมวัน จบปริญญาโท Boise State U. สหรัฐ ปริญญาเอก ด้านการศึกษา Illinois State U สหรัฐฯ) กล่าวว่า ในช่วงที่เป็นผอ.ร.ร.กรุงเทพคริสเตียน (ร.ร.ชายล้วน) ก็สังเกตว่านักเรียนชั้นประถมปีที่ 1 – มัธยมปีที่ 6 จำนวน 5,000 กว่าคน มีเด็กอ้วน 30% เนื่องจากพ่อแม่ตามใจ เด็กกินดีอยู่ดี กินอาหารและน้ำอัดลมอย่างที่เรียกว่าครบสูตรที่ทำให้อ้วน
ดร.วรนุช กล่าวว่า ในช่วงแรกเชิญหมอจากรพ.จุฬาฯ มาวิเคราะห์พฤติกรรมเด็กในการกิน ทำให้เป็นโรคอ้วน ต่อมา สสส.มีโครงการเข้ามาชักชวนให้ รร.เข้าร่วมกิจกรรม ก็ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ ต้องขอบคุณศาสตราจารย์ แพทย์หญิงชุติมา ศิริกลชยานนท์ หัวหน้าโครงการเด็กไทยดูดี มีพลานามัยให้ความรู้ในการเข้าโครงการอบรมของ สสส.
“แทนที่เราจะทำคนเดียว แต่มีผู้มีความรู้มาช่วยให้ความรู้เพื่อนำไปปฏิบัติ และยังมีการติดตามผลด้วย”
“เราคิดว่าสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ สิ่งแรกคือเลิกขายน้ำอัดลม น้ำหวานใน ร.ร.ทั้ง ๆ ที่เงินจากการขายน้ำอัดลม น้ำหวานสร้างรายได้ให้ ร.ร. ปีละเป็นล้าน ๆ บาท บาง ร.ร.ได้รถตู้จากเงินกำไร ช่วงแรกที่ตัดสินใจไม่นำน้ำอัดลมเข้า ร.ร.ทั้งนักเรียน ครู พ่อแม่ผู้ปกครองไม่พอใจเพราะเขาเคยซื้อกินได้ อาหารที่ขายภายใน ร.ร. ลดหวาน มัน เค็ม เผ็ด เอาเครื่องพวงออกไปจากโต๊ะอาหาร ในช่วงแรกเด็กมัธยมประท้วงไปซื้อน้ำตาล 1 กก. มาวางไว้บนโต๊ะอาหาร การเปลี่ยนแปลงไม่ได้ทำได้ง่าย ๆ กว่าจะขอความร่วมมือสร้างความเข้าใจร่วมกันก็ต้องใช้เวลา”