ชูนโยบาย 9 ข้อ สู่ชุมชนตำบลนมแม่
ระบบสาธารณสุขประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อต้องการให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่ถิ่นทุรกันดารต้องได้รับการรักษาที่เท่าเทียมกับผู้ที่อาศัยอยู่ในเมือง
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดโครงการมหกรรมพัฒนาคุณภาพสตรีและเด็กแบบองค์รวม ที่องค์การบริหารส่วน ตำบลก่อเอ้ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้พัฒนาคุณภาพประชากรกลุ่มแม่และเด็กไทยให้ดีขึ้น ด้วยการพัฒนาคุณภาพหน่วยบริการสาธารณสุข การจัดระบบบริการที่ได้มาตรฐาน เชื่อมโยงสู่ชุมชนให้มีส่วนร่วมในรูปแบบชมรมสายใยรักแห่งครอบครัว ซึ่งตลอดระยะเวลาดำเนินงาน พบว่า อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 14.5 ในปี 2546 และเป็นร้อยละ 47.5 ในปี 2555 การฝากครรภ์ครั้งแรกก่อน 12 สัปดาห์ร้อยละ 52 ในปี 2555 ส่วนเด็กแรก เกิดถึง 5 ปีมีพัฒนาการสมวัย ร้อยละ 70.3
รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับนโยบายกระทรวงสาธารณสุข และยืนยันเจตนารมณ์ที่จะร่วมกับสหประชาชาติในการยกระดับคุณภาพสตรีและเด็ก โดยเน้นการสร้างพ่อแม่คุณภาพผ่านโรงเรียนพ่อแม่ เพื่อเตรียมความพร้อม ความรู้การเลี้ยงดูบุตร การปลูกฝังภูมิคุ้มกันทางสังคม ปลูกฝังวินัยเชิงบวก
ทั้งนี้นโยบาย 9 ข้อ เพื่อยกระดับคุณภาพสตรีและเด็ก ประกอบด้วย 1.สร้างพ่อแม่คุณภาพ ก่อนมีบุตรเข้ารับบริการตรวจร่างกายและรับความรู้ในโรงเรียนพ่อแม่ 2.สร้างการเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียม โดยให้หญิงตั้งครรภ์ทุกคนฝากครรภ์เร็วและมาเป็นคู่ได้ทุกที่ทุกสิทธิ 3.สร้างเด็กปลอดโรคพันธุกรรมและโรคติดเชื้อ
โดยแม่ขณะตั้งครรภ์ได้รับการตรวจเลือด และเพื่อป้องกันโรคธาลัสซีเมีย เอดส์ ได้รับยาเสริมไอโอดีนและวิตามินเสริมธาตุเหล็ก 4.สร้างภูมิต้านทานทางสังคมแก่เด็ก ผ่านการเลี้ยงดูของพ่อแม่ ด้วยความรักความผูกพันได้กินนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดและอาหารตามวัย 5.สร้างเด็กฉลาดทางทางปัญญาและอารมณ์ ด้วยการเลี้ยงดูที่ถูกต้องเหมาะสมของพ่อแม่ผ่านกระบวนการกิน กอด เล่น เล่า
6.เด็กได้รับการคัดกรอง และส่งเสริมพัฒนาการ หากพัฒนาการล่าช้าได้รับการแก้ไข 7.เด็กได้รับการฝึกทักษะชีวิต ผ่านการจัดกิจกรรมในคลินิกเด็กดีและศูนย์เด็กเล็กคุณภาพ 8.สตรีและเด็กได้รับบริการฝากครรภ์คุณภาพ ห้องคลอดคุณภาพ คลินิกเด็กดีคุณภาพและศูนย์เด็กเล็กคุณภาพ และ 9.ชุมชนท้องถิ่นร่วมสร้างเด็กไทยแข็งแรง ฉลาด อารมณ์ดีและมีความสุข นพ.ชลน่าน กล่าว
ด้าน นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้เร่งดำเนินงานตามนโยบาย 9 ข้อ สู่ชุมชนตำบลนมแม่ เพื่อยกระดับคุณภาพสตรีและเด็กพร้อมทั้งส่งผลต่อการมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน โดยการดำเนินงานสนับสนุนส่งเสริมสุขภาพสตรีและเด็ก ซึ่งเป็นการพัฒนาเด็กในทุกมิติอย่างองค์รวม ตลอดจนเชื่อมโยงทุกช่วงวัยของการพัฒนาประชากร ภายใต้การจัดทำแผนพัฒนาสุขภาพแม่และเด็ก อาทิ แผนการดูแลหญิงตั้งครรภ์อย่างมีคุณภาพ แผนการดูแลเด็กแรกเกิดถึง 2 ปี และแผนการดูแลเด็กอายุ 3-5 ปี อย่างมีคุณภาพ
“เป้าหมายคือ เด็กไทยสุขภาพดีสู่ 80 ปียังแจ๋ว สร้างความเท่าเทียมและการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพสตรีและเด็กอย่างองค์รวม หญิงตั้งครรภ์ฝากครรภ์ได้ทุกที่ทุกสิทธิ สื่อสารความรู้ สร้างความตระหนักในการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค โดยสาธิตระบบบริการคุณภาพในสถานบริการสาธารณสุข และตำบลนมแม่ “model child development” ศูนย์เด็กเล็กคุณภาพในชุมชน เชื่อมโยงระบบบริการคุณภาพจากสถานบริการสาธารณสุขสู่ครัวเรือน ชุมชน และท้องถิ่น” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ส่วน นางสาวรัตนภรณ์ พลอำนวย คุณครูผู้ดูแลเด็กศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านยางน้อย องค์การบริการส่วนตำบลก่อเอ้ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี เล่าว่า ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้าน ยางน้อยได้ทำตามนโยบาย 9 ข้อ โดยการนำมาประยุกต์ใช้ในการอบรมเลี้ยงดูเด็ก คือ การเรียนผ่านการเล่น เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์-จิตใจ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา โดยผ่านกิจกรรมการเรียนการสอน 6 กิจกรรม ใน 1 วัน คือ กิจกรรมการเคลื่อนไหวและจังหวะ กิจกรรมเสริมประสบ การณ์ กิจกรรมสร้างสรรค์ กิจกรรมเสรี กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมเกมการศึกษา
“ใน 1 วัน จะมีการเล่านิทานให้เด็กฟัง 1-2 เรื่อง ซึ่งบางครั้งนิทานที่คุณครูเล่าอาจจะเป็นนิทานที่คุณครูแต่งขึ้นเอง เพื่อให้สอดคล้องต่อพฤติกรรมและแนวทางการแก้ปัญหาให้กับเด็กบางคน พร้อมทั้งการให้แรงเสริมทางบวกกับเด็ก ด้วยการกล่าวคำชื่นชมจากคุณครูและเพื่อน หรือการให้รางวัลเด็กดีเด่น ได้แก่ ดาวเด็กดี เสียงปรบมือจากเพื่อน ๆ และคุณครู การกอดเด็กด้วยความรักและจริงใจ รวมถึงการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการ ฝึกสมาธิให้กับเด็กที่มีสมาธิสั้น โดยการปั้นดินน้ำมัน การฉีกแปะ และการร้อยลูกปัด หรือถ้าหากเด็กมีปัญหาหรือมีพัฒนาการที่ล่าช้าไม่ตรงตามวัยก็จะแนะนำให้ผู้ปกครองไปรับคำปรึกษาจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลยางน้อย และที่สำคัญมีการจัดอาหารกลางวันที่สะอาดถูกหลักโภชนาการ ครบ 5 หมู่ และดื่มนมโรงเรียนทุกวันด้วย”
ขณะที่ นางธิราพร วงศ์ประพันธ์คุณครูผู้ดูแลเด็กอีกหนึ่งคนของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านยางน้อย เล่าเสริมว่า จุดเด่นของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านยางน้อย ที่ทำให้ได้รับรางวัล “ศูนย์เด็กเล็กน่าอยู่ในระดับดีมาก”ประจำปี 2555 ในครั้งนี้ คือเป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่เคยผ่านเกณฑ์การประเมินศูนย์พัฒนาเด็กเล็กน่าอยู่มาก่อน และได้รับความร่วมมือ การสนับสนุน คำแนะนำจากหน่วยงานต่าง ๆที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานสาธารณสุข ศูนย์สุขภาพจิตที่ 7 โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลยางน้อย และกฐินพระราชทานจากวัดบ้านยางน้อยที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาและปรับปรุงอาคารเรียน สื่อวัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอนและอื่น ๆ
“ถึงแม้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านยางน้อยจะมีนักเรียนเพียง 30 คน และคุณครูเพียง 2 คนแต่ด้วยความร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่ายในการพัฒนาศูนย์เด็กเล็กให้ดียิ่งขึ้นจนได้รับรางวัลในครั้งนี้ถือเป็นความภูมิใจของนักเรียน คุณครู คณะกรรมการศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก องค์การบริหารส่วนตำบลก่อเอ้ และชาวบ้านตำบลก่อเอ้ อย่างยิ่ง” นางธิราพร กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์