ชี้จุดอ่อนโฆษณาพนันทางสื่อออนไลน์ ยังขาดกฎหมายชัดเจน

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข


ชี้จุดอ่อนโฆษณาพนันทางสื่อออนไลน์ ยังขาดกฎหมายชัดเจน thaihealth


เครือข่ายเยาวชนชี้จุดอ่อนเรื่องโฆษณาพนันทางสื่อออนไลน์ยังขาดกฎหมายที่ชัดเจน ผลโพลเยาวชนช่วงบอลโลกระบุ ร้อยละ 22 เห็นโฆษณาพนันบอลทุกครั้งที่เล่นเน็ต ร้อยละ 48 เรียนรู้การเล่นพนันด้วยตนเอง ด้านสภาเด็กฯ เตรียมผลักดันการรณรงค์ขับเคลื่อนทุกพื้นที่ทั่วประเทศ


วันที่ 17 กันยายน 2561 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมเสวนาเนื่องในโอกาสวันเยาวชนแห่งชาติ หัวข้อ  “เยาวชน 4.0 รู้เท่าทันพนันบอลออนไลน์?” จัดโดย มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน โครงการยูรีพอร์ต ประเทศไทย โดยองค์การยูนิเซฟ และภาคีเครือข่าย


ชี้จุดอ่อนโฆษณาพนันทางสื่อออนไลน์ ยังขาดกฎหมายชัดเจน thaihealth


นางสาวรุ่งอรุณ กล่าวว่า สสส. ร่วมกับมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน (มรพ.) และโครงการยูรีพอร์ต ประเทศไทย สนับสนุนโดยองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นและพฤติกรรมของวัยรุ่นและเยาวชนจำนวน 2,525 รายทั่วประเทศ เกี่ยวกับการพนันทายผลฟุตบอลออนไลน์ ทั้งในช่วงก่อนและหลังการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018  โดยพบประเด็นที่น่าสนใจคือ ร้อยละ 57 เล่นอินเตอร์เน็ตวันละมากกว่า 5 ชั่วโมง  ร้อยละ 22 พบเห็นโฆษณาพนันทุกครั้งที่ออนไลน์  ร้อยละ 18 เคยเข้าไปดูโฆษณาพนัน  โดยร้อยละ 54 ระบุว่าสาเหตุที่เข้าไปเล่นเพราะแค่เล่นขำๆ ร้อยละ 48 เรียนรู้การเล่นพนันด้วยตนเอง  และร้อยละ 52 คิดว่าการพนันบอลเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเด็กและเยาวชน


การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการพนันออนไลน์กลายเป็นปัญหาต่อการติดตามจับกุม ทั้งยังเกี่ยวพันกับปัญหาอาชญากรรมต่างๆ และยังอาจมีผลต่อพัฒนาการทางสมองของเด็กและเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติ สสส. จึงมุ่งเน้นการป้องกันและลดผลกระทบจากการพนันอย่างเต็มที่ โดยขยายความร่วมมือและทำงานกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อมุ่งตอบสนองเป้าประสงค์ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยเน้นการดำเนินงานให้เกิดผลลัพธ์สำคัญ 3 ด้าน คือ ด้านการจัดการความปลอดภัยทางถนน ด้านการจัดการภัยพิบัติ และด้านการลดปัญหาจากการพนัน” นางสาวรุ่งอรุณ กล่าว


ชี้จุดอ่อนโฆษณาพนันทางสื่อออนไลน์ ยังขาดกฎหมายชัดเจน thaihealth


นายคงเดช กี่สุขพันธุ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสารนิเทศ (ดิจิทัล) องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า โครงการยูรีพอร์ต มีความยินดีที่ได้สร้างความร่วมมือระยะยาวกับสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. ในการปรับใช้โพลสำรวจและกิจกรรมของยูรีพอร์ต เพื่อทำความเข้าใจมุมมองและพฤติกรรมของเยาวชนต่อปัจจัยเสี่ยงทางสังคมต่างๆ พร้อมส่งเสริมสิทธิในการแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมของวัยรุ่นและเยาวชนอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของยูรีพอร์ต โดยคาดหวังว่าความร่วมมือนี้ จะทำให้วัยรุ่นและเยาวชนได้เข้ามามีบทบาทร่วมในการพัฒนานโยบายและโครงการด้านปัจจัยเสี่ยงทางสังคมในประเทศไทยมากขึ้น


ด้าน นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน (มรพ.) กล่าวว่า ฟุตบอลโลกครั้งนี้ แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนว่า โลก 4.0 ได้นำพาการพนันมาหาเด็กและเยาวชนผ่านช่องทางออนไลน์ ที่มีแนวโน้มเข้ามาแทนที่การพนันในช่องทางเดิมๆ ซึ่งน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งเพราะการพนันออนไลน์มี 4 ด้านที่อันตรายครบถ้วน ทั้ง “ง่าย กระตุ้น ลุ้นถี่ และมีเดิมพันสูง”  คือ เข้าถึงได้ง่าย, กระตุ้นและปลุกเร้าด้วยสิ่งเย้ายวนหลากหลายรูปแบบ


ทั้งการโฆษณาเชิญชวนด้วยพริตตี้ เน็ตไอดอล รวมถึงโปรโมชั่นต่างๆ, เปิดโอกาสให้เล่นพนันได้ถี่ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง และวางกับดักให้เดิมพันในปริมาณเงินที่มาก ยิ่งเล่นนานยิ่งลงเดิมพันมาก


ความท้าทายในรื่องนี้ คือจะทำอย่างไรให้ผู้คนในสังคมที่การสื่อสารมาเร็วไปเร็วอย่างนี้มีโปรแกรม “คุ้มกัน” ที่ติดตั้งไว้ในตัวเอง  เพราะไม่มีเทคโนโลยีใดที่จะคัดกรองสิ่งคุกคามที่มาทางออนไลน์ได้อย่าง 100% เรื่องที่ต้องเร่งช่วยกันทำคือสร้างการเรียนรู้ให้เด็กเยาวชนและครอบครัวเกิดการ “รู้ทัน” และคุ้มกันตัวเองได้” นายธนากร กล่าว        


ด้าน นายธนวัฒน์ พรหมโชติ รองประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เครือข่ายสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ยุค 4.0 ตื่นตัวกับการลดปัญหาจากการพนันบอลออนไลน์อย่างมาก โดยช่วงฟุตบอลโลกที่ผ่านมา ได้ร่วมกับ สสส. และมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน สร้างสรรค์และจัดทำสื่อรณรงค์หลายรูปแบบ เช่น หนังสั้น 5 เรื่องจาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ และสามารถขยายผลได้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น จังหวัดศรีสะเกษประสบความสำเร็จในการจัดทำ MOU กับหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนจากการพนัน และมุ่งหวังให้เกิดการดำเนินงานเช่นนี้ในจังหวัดอื่นๆ โดยได้กำหนดในแผนงานของแต่ละพื้นที่ ทั้งระดับตำบล อำเภอ และจังหวัด ให้จัดกิจกรรมผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจังมากขึ้นในปี 2562


ชี้จุดอ่อนโฆษณาพนันทางสื่อออนไลน์ ยังขาดกฎหมายชัดเจน thaihealth


ด้าน นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ช่วงฟุตบอลโลกที่ผ่านมา ภาคีเครือข่ายของสถาบันยุวทัศน์ฯ ได้จัดทีมเฝ้าระวังสื่อทุกประเภท และพบว่าสื่อออนไลน์เผยแพร่เนื้อหาที่ส่งเสริมหรือเชิญชวนให้เล่นพนันออนไลน์มากกว่าสื่อกระแสหลัก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชิญชวนจากเว็บพนัน ซึ่งมีมากกว่า 2 แสนเว็บไซต์ โดยใช้กลยุทธ์ทางการตลาดในการกระตุ้นให้สนใจและอยากเล่นอยากลองด้วยคำง่ายๆ จูงใจเด็ก อย่างไรก็ตาม ปัญหาการพนันในยุค 4.0 นี้ ยังไม่มีอะไรที่มากำกับดูแลเพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนอย่างจริงจัง ดังนั้นหน่วยงานต่างๆ ควรร่วมมือกันสกัดกั้นการเข้าถึงพนันออนไลน์ของเด็กและเยาวชน โดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น เช่นเดียวกับกฎหมายควบคุมการโฆษณาเหล้า-บุหรี่ ที่มีการกำหนดไว้อย่างชัดเจน

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ