‘ชายรักชาย’ ติดเอดส์พุ่งไม่หยุด

กทม. เผย กลุ่ม “ชายรักชาย” ติดเอดส์พุ่งไม่หยุด สาเหตุหลักใช้ถุงยางแค่ร้อยละ 65 กทม. ร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้ารณรงค์ให้ได้ร้อยละ 80

เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 56 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายพีระพงษ์ สายเชื้อ รองปลัดกทม. เป็นประธานเปิดการประชุมรายงานสถานการณ์การติดเชื้อเอชไอวี หรือโรคเอดส์ และคาดประมาณการติดเชื้อเอชไอวีในอนาคต ในพื้นที่ กทม.

โดย นพ.วิวัฒน์ พีรพัฒนโภคิน ผู้ทำการศึกษาโครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพเพื่อดำเนินงานด้านเอดส์ของ กทม. มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนานโยบาย กล่าวสรุปสถานการณ์ว่า ปี 2556 กทม. มีผู้ติดเชื้อสะสม 163,000 คน ยังมีชีวิตประมาณ 64,000 คน และมีผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยเอดส์รายใหม่ 2,300 คน โดยร้อยละ 61.2 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ในกลุ่มชายรักชาย ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนักเห็นความสำคัญ มีการแพร่ระบาดที่รุนแรงและไม่มีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะในช่วงอายุ 17-24 ปี ที่มีการติดเชื้อรายใหม่มากที่สุด

นพ.วิวัฒน์ กล่าวต่อว่า ขอเสนอให้ กทม. เป็นผู้นำในการประสานความร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนยุทธศาสตร์รณรงค์ให้กลุ่มชายรักชายให้ตระหนักในความเสี่ยง ใช้ถุงยางอนามัยให้ได้มากกว่า ร้อยละ 80 เพราะขณะนี้มีการใช้ถุงยางเพียงร้อยละ 65 ดังนั้นต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่

สำหรับการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ เช่น ในกลุ่มของการซื้อขายบริการทางเพศมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีการใช้ถุงยางถึงร้อยละ 80 และพบว่าการติดเชื้อจากการใช้สารเสพติดลดลงในระดับหนึ่ง เนื่องจากขนาดประชากรกลุ่มนี้ลดลง การใช้เข็มร่วมกันลดลง ความถี่ในการฉีดลดลง เป็นผลจากการรณรงค์ในการป้องกันและการบำบัด แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ด้านนายพีระพงษ์ กล่าวว่า ผลของการศึกษาสถานการณ์ผู้ติดเชื้อเอชไอวีในครั้งนี้ จะนำมาจัดทำแผนเพื่อลดจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ โดยเฉพาะประชากรกลุ่มเสี่ยงใน กทม. ที่มีพนักงานบริการทางเพศหญิง 25,000 คน กลุ่มลูกค้าซื้อบริการทางเพศ 165,000 คน กลุ่มชายรักชาย 66,000 คน และกลุ่มใช้สารเสพติดชนิดฉีด 40,000 คน

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

Shares:
QR Code :
QR Code