ชวนฝึกสมองลดเครียด เพิ่มความสุข
ที่มา : เว็บไซต์ข่าวสดออนไลน์
แฟ้มภาพ
การฝึกสมองให้ตื่นตัวนั้น จะช่วยส่งผลดีต่อสุขภาพใจที่เข้มแข็ง สามารถช่วยป้องกันความเครียด ลดภาวะซึมเศร้า ชะลอภาวะสมองเสื่อม ตลอดจนช่วยปรับปรุงการทำงานของสมองได้ ซึ่งการฝึกสมองนี้ ไม่จำเป็นต้องฝึกจนหนักมากเกินไป แต่สามารถฝึกได้ง่ายๆ ทุกที่ ทุกวัน ทั้งที่ทำงาน ที่บ้าน หรือทุกที่ที่สะดวก
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต แนะนำว่าประชาชนสามารถฝึกสมองด้วย 5 กิจกรรมง่ายๆ ที่ทำทุกวันแล้วจิตใจดี มีดังนี้
1. สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ (Experience something new) เมื่อเผชิญสภาพแวดล้อมใหม่ๆ สมองจะวิเคราะห์และปรับให้เข้ากับสถานการณ์ การฝึกสมองสามารถทำกิจกรรมง่ายๆ เช่น เขียนหนังสือด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด เปลี่ยนเส้นทางใหม่จากบ้านไปที่ทำงาน เยี่ยมชมสถานที่ใหม่ที่ยังไม่เคยไป ฟังเพลงแนวอื่นๆ บ้าง พบปะผู้คนใหม่ๆ เป็นการพัฒนาความยืดหยุ่นของสมอง และการทำงานประสานกันระหว่างสมองทั้งสองข้างให้สมดุล
2. การติดต่อสื่อสารกับสังคมตามความเป็นจริง (Connect social) การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมแบบตัวต่อตัว ฝึกให้สมองคิดและแสดงออกอย่างเหมาะสม เช่น สนทนากับผู้รับหรือส่ง E-mail ที่เรากำลังติดต่อ โต้ตอบกับผู้คนเป็นการส่วนตัวมากขึ้นหรือพบปะกันมากขึ้น ไปร่วมงานกิจกรรมทางสังคม เพื่อพัฒนาระบบการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. การต่อจิ๊กซอร์ (Do puzzles) หรือการเล่นเกมต่างๆ ปริศนาคำทาย การถอดรหัส แนวความคิดเชิงนามธรรม การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ และการหาคำตอบ จะช่วยให้สมองพัฒนา เช่น การเล่นเกมกระดานต่างๆ หมากรุก เกมปริศนาอักษรไขว้ เกม Sudoku ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ เพิ่มความจำ ลดภาวะสมองเสื่อม และสามารถวางแผนแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้ดีขึ้น
4. ดื่มด่ำกับความอยากรู้อยากเห็น และงานอดิเรกที่ชอบ (Indulge in your curiosities and hobbies) มีสิ่งที่น่าสนใจมากมายในจักรวาล แต่ละชุมชนมีความเป็นมาของตนเอง ปลุกความสนใจเก่าๆ ขึ้นมา แล้วเริ่มต้นใหม่ โดยพิมพ์สิ่งที่สนใจลงใน google เช่น กีฬา ดนตรี ศิลปะ จิตรกรรม ประวัติศาสตร์ หนังสือ บทกวี การเขียนหนังสือ เว็บไซต์ บล็อกต่างๆ เป็นต้น กิจกรรมดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทต่างๆ ให้ทำงานคล่องแคล่วว่องไวมากขึ้น
5. นอนหลับให้เพียงพอ (Getting enough sleep) สมองมีพลังเมื่ออยู่ในความเงียบสงบ การนอนหลับที่เพียงพอ คือ ช่วงเวลาที่ดีของการพัฒนาสมอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการนอน จึงควรปรับปรุงสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เช่น ปรับห้องนอนให้มืดที่สุด หลีกเลี่ยงการงีบในช่วงเวลากลางวัน หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นก่อนนอน เช่น งดดื่มชา กาแฟ หรือเล่นมือถือ เชื่อมโยงการนอนหลับกับเตียงนอน เมื่อการนอนมีคุณภาพจะทำให้มีสมาธิ มองโลกในแง่ดี ผ่อนคลาย และช่วยลดภาวะเครียดซึมเศร้าได้