‘จิตสำนึก’ กับทิศทางของบ้านเมือง

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์


ภาพประกอบจากเว็บไซต์ samutsongkhram.go.th


\'จิตสำนึก\' กับทิศทางของบ้านเมือง thaihealth


'สร้างสำนึกพลเมือง" ร่วม 'รับผิดชอบสังคม" ดูจากท้องถิ่น-ชุมชน ก็ 'สะท้อนในภาพรวม" ยุคที่ 'ปฏิรูป-หน้าที่-สิทธิ" ในไทยกำลังฮอต


เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า "ประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่" ผล ออกมาคือ "ผ่าน" ซึ่งจากนี้ก็ต้อง "ตามดูการออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ" ขณะที่เรื่องของ 'สิทธิและหน้าที่พลเมือง"ซึ่งก็ย่อมต้องมีการบรรจุอยู่ในร่างรัฐธรรมนูญ ก็เป็นเรื่องที่ประชาชนคนไทยคง 'ต้องให้ความสนใจ" โดยก่อนหน้าที่จะมีการลงประชามติวันที่ 7 ส.ค. ก็เคยมีการชูเรื่องนี้ไว้ ทั้งในด้านการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพคนไทยการกำหนดให้รัฐมีหน้าที่ทำให้สิทธิเป็นจริง


อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ความเป็นไปของประชาชนคนไทย ของประเทศไทย จะเป็นไปภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ ภายใต้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญใหม่ กับประชาชนคนไทยในบางพื้นที่ในบางชุมชนนั้น ก็ได้มีการนำร่องในเรื่อง 'สำนึกพลเมือง" อย่างน่าสนใจ น่าพิจารณา อย่างเช่น พื้นที่ จ.สมุทรสงคราม โดยเมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค. ก่อนหน้าที่จะมีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่ไม่นาน ในพื้นที่นี้ได้มีการจัดเวทีเสวนาหัวข้อ "ทิศบ้าน ทางเมือง …สมุทรสงคราม" ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน จนถึงผู้สูงอายุ ในพื้นที่มีจุดหมายเพื่อ 'พัฒนาท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน" 'สร้างสำนึกพลเมือง" เพื่อ 'รับผิดชอบท้องถิ่น"


บนเวทีดังกล่าวนี้ ก็ได้มี "ข้อเสนอแนะ" มีทรรศนะจากผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ คน เกี่ยวกับ "การสร้างจิตสำนึกของพลเมือง" เพื่อร่วมกันพัฒนาท้องถิ่นและชุมชนอย่างยั่งยืน โดย ชิษนุวัฒน์ มณีศรีขำ ผู้บริหารโครงการพลังเด็กและเยาวชนเพื่อการเรียนรู้ภูมิสังคมภาคตะวันตก ได้นำเสนอไว้ว่า พื้นที่สมุทรสงครามนั้น มีทรัพยากรท้องถิ่น และมีสิ่งที่มีคุณค่ามากมาย ทั้งยังแวดล้อมไปด้วยภูมิปัญญาดั้งเดิมที่ทุกๆ คนควรช่วยกันรักษา และควรช่วยกันหาแนวทางที่จะสามารถปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงในสังคม เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะเป็นทางรอดให้กับคนสมุทรสงครามได้ ท่ามกลางกระแสไทย กระแสโลกที่เปลี่ยนไป


มีการเสนอแนะว่า เรื่องไหนที่มีผลกระทบกับวิถีชีวิตควรรีบแก้ไขเร่งด่วน ขณะเดียวกันก็ ต้องพัฒนาท้องถิ่นของตัวเองควบคู่ไปพร้อมกันด้วย ซึ่งจะทำให้การทำงานนั้น อยู่บนพื้นฐานการใช้ความรู้ ไม่ใช้แค่อารมณ์ความรู้สึก โดยอาจเริ่มจากการทำให้คนในชุมชนสามารถจัดการและพึ่งพาตัวเองในเรื่องใกล้ตัวก่อน เรื่องใดที่เกินศักยภาพของชุมชนจึงค่อยขอความร่วมมือจากรัฐ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถ้าทำได้ ไม่เพียงการพัฒนาจะไม่เกิดปัญหา แต่ยังเกิดสำนึกพลเมืองด้วย ซึ่งจากการลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง จะทำให้คนรุ่นใหม่ ๆ สามารถที่จะรับมือกับสถานการณ์แวดล้อมที่กำลังเปลี่ยนแปลง ได้เป็นข้อเสนอแนะแนวทางพัฒนาโดยไม่เกิดปัญหา


ด้าน พิสิฐ เสือสมิง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม ระบุไว้ในทำนองเดียวกันว่า การแก้ปัญหาท้องถิ่นควรเริ่มจากคนในท้องถิ่นเองก่อน ไม่ใช่คาดหวังหรือเอาแต่รอให้รัฐแก้ปัญหาของท้องถิ่น ซึ่งประเทศที่อยู่รอดในเวทีโลกนั้นคือประเทศที่พึ่งพาตนเองได้ ชุมชนท้องถิ่นก็เช่นกัน การจะทำให้อยู่รอดได้ ต้องพึ่งพาตนเองให้ได้มากที่สุด จากการยืนด้วยลำแข้งของตนเอง จากฐานทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชน และการนำภูมิปัญญาบรรพบุรุษมาประยุกต์ใช้ พร้อมกันนี้ก็ยังมีการระบุอีกว่า ขณะที่ผู้ใหญ่กำลังขับเคลื่อนท้องถิ่นไปข้างหน้านั้น ขณะเดียวกันก็ควรส่งเสริมสนับสนุนให้ลูกหลานได้ลงมือทำสิ่งที่ดีที่จะช่วยสร้างสำนึกพลเมืองไปพร้อมกันด้วย เพื่อให้คนรุ่นใหม่เข้ามารับช่วงดูแลท้องถิ่นและชุมชนต่อไป"


ทั้งนี้ ชนม์สวัสดิ์ ฉิมเชื้อ ตัวแทนเยาวชนในพื้นที่ จากกลุ่มท่าคาเรียนเจอร์ ก็ได้เสนอแนะไว้ว่า ที่ผ่านมากระบวนการสร้าง 'สำนึกพลเมือง"จากการทำโครงการเพื่อชุมชน ด้วยฐานความรู้ของชุมชน สะท้อนถึงการทำงานชุมชนร่วมกันระหว่างผู้ใหญ่กับเด็กและเยาวชนว่า ผู้ใหญ่ต้องสนับสนุนให้เด็กเรียนรู้ถูกผิดจากการลงมือทำ แต่การจะให้เด็กและเยาวชนสนใจเรื่องชุมชนนั้น ผู้ใหญ่ก็ต้องสร้างแรงบันดาลใจแก่เด็ก โดยให้ทำกิจกรรมที่สอดคล้องกับความสนใจของเด็กแต่ละช่วงวัยด้วย พร้อมทั้งควรต้องส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กมีโอกาสได้ทดลองทำ รวมถึงได้เรียนรู้ถูกผิดจากการลงมือทำสิ่งต่างๆ เหล่านั้นด้วยตัวเอง


"แม้ช่วงแรกจะยากกว่าแบบที่มีผู้ใหญ่คอยคิดมาให้ แต่แบบเก่า บางทีก็แก้ปัญหาไม่ตรงจุด ส่วนแบบนี้แม้จะทำได้ยากกว่า แต่จะเกิดการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ได้ตรงจุดกว่าแน่นอน" เป็นมุมมองน่าสนใจจากตัวแทนเยาวชน 


 

Shares:
QR Code :
QR Code