จากเรื่องที่ “ไม่อยากจำ”

แต่คนไทยต้องไม่ลืม

จากเรื่องที่ “ไม่อยากจำ”

  

เชื่อว่าหลายคนยังคงจำภาพความเสียหายที่เกิดกับ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้ แม้ว่าเหตุการณ์พระเพลิงเผาห้างสรรพสินค้าเซ็นเตอร์วันจะผ่านไประยะหนึ่งแล้ว ความสูญเสียที่เกิดขึ้นคงเป็นเรื่องที่ทุกคนไม่อยากจะจดจำ แต่สำหรับ คนไทย ควรเป็นเรื่องที่เราต้อง ไม่ลืม…ไม่ลืม….ที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้แก่กัน

 

            วันนี้ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ยังคงใช้พื้นที่สำนักงานชั่วคราวอยู่ที่ห้างเซ็นจูรี่  ชั้น 6 เนื่องจากอาคารสำนักงานเดิมที่ถูกไฟไหม้ไปนั้น ยังต้องรอการปรับปรุงเพื่อให้กลับมาเป็นสำนักงานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเช่นเดิม ส่วนเหตุผลที่เราควรมีส่วนช่วยมูลนิธิฯ นั้น ไม่เพียงแต่เป็นการช่วยลบความบอบช้ำที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย แต่เป็นเพราะมูลนิธิฯ ได้ทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภคมาโดยตลอดนั่นเอง

 

            วรรวิสา ชักชวน คือหนึ่งเสียงของผู้บริโภคที่ได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค หลังจากที่เธอประสบปัญหาจากอุบัติเหตุทางรถโดยสาร

 

            หลังประสบอุบัติเหตุและไม่ได้รับความเป็นธรรม เราได้รับคำแนะนำ คำปรึกษา จากมูลนิธิฯ ในการเรียกร้องสิทธิของตัวเอง ตอนนั้นเรารู้สึกดีใจที่มีมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพราะถ้าไม่มีมูลนิธิฯ ผู้บริโภคอีกหลายๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าจะไปเรียกร้องความเป็นธรรมได้ที่ไหน เป็นมูลนิธิฯ ที่ทำประโยชน์เพื่อสังคมอย่างแท้จริง

 

วรรวิสา ยังบอกด้วยว่า อยากให้มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคอยู่คู่กับสังคมไทยไปตลอด และขอเป็นกำลังใจให้กับทีมงานของมูลนิธิฯ ทุกคน

จากเรื่องที่ “ไม่อยากจำ”

 

            ด้าน รศ.ปาริชาติ วลัยเสถียร ซึ่งร่วมบริจาคเงินให้กับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคทันทีที่ทราบข่าวเหตุเพลิงไหม้สำนักงานฯ เปิดเผยถึงความรู้สึกที่มีต่อ สารี อ๋องสมหวังเลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคว่า เป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นมาก ซึ่งสารีนั้นเรียนสายพยาบาล แต่ด้วยความรักในการทำงานเพื่อสาธารณะ จึงย้ายตัวเองไปเรียนด้านการพัฒนาชุมชน เพื่อให้ได้รับความรู้อย่างครอบคลุม กว้างขวางขึ้น

ผลงานของเขาเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม ซึ่งดิฉันได้ร่วมบริจาคไปแล้ว และจะร่วมบอกกับรุ่นพี่รุ่นน้องว่าให้ช่วยกันบริจาคสมทบทุนเพื่อสร้างสำนักงานให้กับมูลนิธิฯ ต่อไปด้วย เพราะเราอยากให้มูลนิธิฯ ได้ทำหน้าที่เพื่อผู้บริโภคต่อไป

 

            ส่วน ดร.ฉิก ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่ให้การสนับสนุนบริจาคคอมพิวเตอร์แก่กับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค บอกกับเราว่า ให้การสนับสนุนมูลนิธิฯ เพราะมูลนิธิฯ ทำงานเสียสละเพื่อผู้บริโภคและสังคม ทั้งๆ ที่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่นั้นมีความเสี่ยงต่อการเพ่งเล็งจากองค์กรใหญ่

 

แต่มูลนิธิฯ เลือกที่จะเสนอความจริง และสิ่งที่เป็นความรู้ ตีแผ่ลงในนิตยสารฉลาดซื้อ ซึ่งเป็นนิตยสารที่มีประโยชน์อย่างมากต่อผู้บริโภค

 

เช่นเดียวกับประกิต หลิมสกุลที่กระโดดลงมา ให้การสนับสนุนโดยช่วยเขียนคอลัมน์ให้กับมูลนิธิฯ โดยบอกว่า มูลนิธิเป็นองค์กรที่ดี มีความตรงไปตรงมา ตั้งแต่มูลนิธิได้รับผลกระทบ ตนก็ช่วยเขียนคอลัมน์เพื่อเผยแพร่ข่าวสารให้มูลนิธิฯ เรื่อยมา

 

ทิววัฒน์ ภัทรกุลวณิชย์ผู้ให้การสนับสนุนโดยวาดภาพการ์ตูนประกอบนิตยสารฉลาดซื้อ กล่าวด้วยความรู้สึกไม่ต่างกันว่า ตนเคยร่วมงานกับทางมูลนิธิฯ มาก่อน โดยเขียนปกหลังของ นิตยสารฉลาดซื้อ และนำเอาภาพปกนั้นมาทำเป็นกระเป๋าผ้า 

 

ผมรู้สึกว่ามูลนิธิฯ เป็นองค์กรที่คอยทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชนตระหนักและรู้ถึงสิทธิ เพื่อจะได้รักษาสิทธิของตัวเองไว้ ถึงวันที่มูลนิธิฯ มีปัญหาเราก็ต้องช่วยกัน

 

เหตุการณ์ที่ไม่คนไทยไม่อยากจะจดจำผ่านพ้นไปแล้ว แต่คนไทยทุกคนต้องไม่ลืมที่จะช่วยเหลือกัน

 

 

 

 

 

ที่มา: team content www.thaihealth.or.th

 

 

update:01-07-53

อัพเดทเนื้อหาโดย :คมสัน ไชยองค์การ

Shares:
QR Code :
QR Code