จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็น“โรคเบาหวาน”

/data/content/23888/cms/e_cefijlmr1234.jpg

          โรคเบาหวานเป็นโรคที่เกิดจากร่างกาย ไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดไปใช้ประโยชน์ภายในเซลล์ร่างกายได้ อาจเกิดเนื่องจากขาดฮอร์โมนจากตับอ่อนที่ชื่อว่าอินซูลิน  หรือเกิดจากการที่เซลล์ในร่างกายไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมนดังกล่าว ซึ่งทำให้มีการคั่งของน้ำตาลในเลือด เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงก็จะล้นออกมากับปัสสาวะ ทำให้ตรวจพบน้ำตาลในปัสสาวะได้ และที่เรียกว่า “เบาหวาน” ก็เนื่องมาจากคำว่า  “เบา” หมายถึง “ปัสสาวะ” และ “หวาน”  ก็เนื่องมาจากว่าในปัสสาวะมีน้ำตาลนั่นเอง

          อาการทั่วไปของผู้ที่เป็นโรคเบาหวานได้แก่ :
                      1. หิวบ่อยและกินจุ แต่ผอมลง
                      2.  ดื่มน้ำและกระหายน้ำบ่อย ๆ
                      3.  ปัสสาวะมาก และบ่อยครั้ง
                      4.  เป็นแผลหรือฝีง่าย แต่รักษายาก
                      5.  คันตามผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศ
                      6.  ชาตามปลายมือ และปลายเท้า
                      7.  ตาพร่ามัว ต้องเปลี่ยนแว่นตาบ่อย ๆ

          จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเบาหวาน :
                      1. สังเกตตัวเองว่ามีอาการเด่นชัด  3 อย่าง  ของอาการเบาหวานหรือไม่
                      2. ถ้ามี  ให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจหาระดับน้ำตาลในเลือด, น้ำตาลในปัสสาวะ และอย่างอื่น ๆ  การวินิจฉัยเบาหวาน ทำได้โดยการเจาะระดับน้ำตาลในเลือดเท่านั้น  โดยให้งดอาหารก่อนเจาะเลือด 6-8 ชั่วโมง    ถ้าระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 126 มก./ดล.   ให้ทำซ้ำอีกครั้ง   ถ้ายังสูงกว่า 126 มล./ดล.   ถือว่าเป็นเบาหวาน   แต่ถ้ามีอาการดังกล่าวข้างต้น    แล้วเจาะเลือดโดยไม่ต้องอดอาหาร หากระดับน้ำตาล ในเลือดสูงกว่า 200 มก./มล. ก็ถือว่าเป็นเบาหวาน ทั้งนี้ แพทย์จะเป็นผู้บอกท่านได้ว่า ท่านกำลังเป็นเบาหวานอยู่หรือไม่

 

 

          ที่มา : เว็บไซด์คณะเทคนิกการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

          ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code