เรื่องโดย ปัญจวรา บุญสร้างสม  Team Content www.thaihealth.or.th

ภาพประกอบจาก สสส.

นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ หรือ “เกรซ” สาวสวย บุคลิกดี ผู้ครองตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 ตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ ที่ไม่ได้มีเพียงความสวยงามภายนอกเท่านั้น แต่ยังสวยงามด้วยทัศนคติ และมุมมองการใช้ชีวิตอีกด้วย

เธอได้ใช้ความรู้ ความสามารถที่เธอมีในการสร้างประโยชน์ต่อสังคมอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการเป็น Brand Ambassador ให้กับกรมสุขภาพจิต เธอได้จัดทำโครงการจิตอาสาชื่อว่า “ Let me hear you“ หรือ “หัวใจมีหู” เพื่อให้คำปรึกษาในด้านจิตวิทยา โดยเฉพาะโรคซึมเศร้า เพราะอยากมีส่วนช่วยให้สังคมเข้าใจถึงผู้ป่วยโรคจิตเวชมากขึ้น นอกจากนี้ เธอยังทำโครงการส่งต่อเจลแอลกอฮอล์ไปในพื้นที่ต่างๆ ร่วมกับคุณแม่ด้วย

วันนี้เธอมาเผยเคล็ดลับการดูแลตัวเองให้มีร่างกายที่แข็งแรง และจิตใจที่แจ่มใสอยู่เสมอ จนปรากฏเป็นรอยยิ้มสดใสควบคู่กับความสวยงามที่เปล่งประกายออกมาอย่างที่ทุกคนได้เห็น เธอเล่าให้ฟังว่า เธอมักจะดูแลตัวเองด้วยเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน เธอเป็นคนที่ดื่มน้ำเยอะมาก ซึ่งการดื่มน้ำเยอะๆนั้น จะช่วยเรื่องผิวพรรณไปในตัว นอกจากนี้ เธอยังให้ความสำคัญกับเรื่องการพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

สิ่งสำคัญที่สุดที่เธอเน้นย้ำคือ การรักษาสุขภาพจิตของตนเอง พยายามทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ เพราะเธอเชื่อว่าหากข้างในใจแข็งแรงแล้ว สุขภาพร่างกายก็จะดีตามไปด้วย เวลารับข่าวสารเข้ามากๆ สิ่งที่ทำได้ คือ ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น และหาวิธีปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์นั้นๆ ซึ่งโดยส่วนตัวของเธอ ก็จะใช้วิธีจัดการกับความเครียด โดยการฟังเพลง ทำงานศิลปะ หรือใช้เวลาร่วมกับครอบครัว ซึ่งเป็นเหมือนการชาร์จพลังให้กับตัวเอง

เมื่อมีโอกาสสัมภาษณ์นางงาม สิ่งที่จะไม่ถามถึงไม่ได้ก็คงจะเป็นนิยามความงามสำหรับตัวเธอ สาวสวยเสียงใสตอบเราว่า “นิยามความงามสำหรับเธอนั้น คือ ความงามจากข้างใน เธอเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนมีความงามในแบบของตัวเองอยู่เสมอ สิ่งสำคัญ คือ การใช้ความเป็นผู้หญิงอย่างไรเพื่อเป็นกระบอกเสียง สื่อสารหรือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม สร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นให้กับสังคมต่อไป”

สุดท้ายนี้ ในฐานะตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ที่ต้องทำงานทั้งในบ้านและนอกบ้าน เธออยากฝากให้ผู้หญิงทุกคนแบ่งเวลาดูแลตัวเองอยู่เสมอ จัดสรรเวลาพักผ่อนที่เหมาะสม ทำงานอดิเรกที่ตัวเองชอบ ดูแลสุขภาพทั้งร่างกาย-จิตใจควบคู่กันไป และไม่ลืมที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกๆวัน

ไม่ว่าในช่วงเวลาปกติ หรือในช่วงที่เราทุกคนต่างต้องเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบาก การรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจ ก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเสมอ สสส.อยากเชิญชวนให้ทุกคนหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพให้มากกว่าเดิม เพราะนอกจากจะทำให้เรามีร่างกาย และจิตใจที่ดี พร้อมเผชิญกับทุกสถานการณ์แล้ว ยังถือเป็นการร่วมรับผิดชอบต่อสังคม ร่วมสร้างวินัยในการใส่ใจเรื่องสุขอนามัย และใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาวะ

ยิ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 แบบนี้ การดูแลสุขภาพนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่งขึ้นไปอีก หากมีความจำเป็นต้องเดินทางออกนอกบ้าน อย่าลืมสวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ ไม่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง หรือพื้นที่แออัด เมื่อกลับถึงบ้านก็รีบทำความสะอาดเสื้อผ้า และร่างกายให้เรียบร้อย ถึงแม้เวลาอยู่ในบ้านของตัวเองแต่ถ้ามีสมาชิกครอบครัวคนอื่นอยู่ด้วย ก็ยังมีความจำเป็นที่จะเว้นระยะห่าง แยกของใช้ส่วนตัวให้ถูกสุขลักษณะ แน่นอนว่าอาจทำให้รู้สึกอึดอัด หรือไม่สะดวกไปบ้าง แต่เพื่อความปลอดภัยของตัวเราและคนที่เรารัก เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำสิ่งเหล่านี้ให้เป็นกิจวัตรประจำวันในชีวิต เพื่อจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้ด้วยกัน

ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาไหน สสส. จะขอยืนหยัดเคียงข้างคนไทย ทำหน้าที่สื่อสาร ส่งเสริม และสร้างสรรค์สังคมแห่งสุขภาวะในทุกมิติ ทั้งกาย จิต ปัญญา และสังคมต่อไป