คุยกับผู้จัดการ สสส. (เดือนธันวาคม 2565)

                   เดินทางมาถึงเดือนสุดท้ายของปี 2565

                   ช่วงสามปีที่ผ่านมานับเป็นบททดสอบความอดทนและความยืดหยุ่นปรับตัวของบุคคล ครอบครัว องค์กร ชุมชน และประเทศชาติ จากการต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์โรคระบาดครั้งยิ่งใหญ่ในรอบศตวรรษ ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบทั้งในเชิงสุขภาพ สังคม เศรษฐกิจ

                   ทุกปีใหม่ สสส. และภาคีสุขภาพต่าง ๆ ก็จะมีเรื่องมารณรงค์ มาชักชวนให้ผู้คนมีพฤติกรรมการใช้ ชีวิตภายใต้วิถีที่จะเอื้อต่อการมีสุขภาพดีให้มากขึ้น อย่างช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ปริมาณการเดินทางน่าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ เรื่องอุบัติเหตุทางการจราจร ซึ่งหลายหน่วยงาน “สานพลัง” ร่วมกันหามาตรการป้องกันอุบัติเหตุ 7 วันอันตราย มาตรการป้องกันเกิดขึ้นในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการเคลียร์พื้นที่ทางหลวง การแก้ไขจุดเสี่ยงอันตราย การตั้งด่านเพื่อเฝ้าระวังป้องปราม การที่ชุมชน ร่วมด้วยช่วยกัน ปิดทางกลับรถอันตราย ตักเตือนสมาชิกในชุมชนที่ดื่มแล้วขับ ก็เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยป้องกันและลดอุบัติเหตุ

                   ในด้านการดื่มแล้วขับปีนี้ สสส. มีการรณรงค์ “ดื่มไม่ขับ กรึ่ม ๆ ก็ถึงตาย” เพื่อย้ำเตือนทุกคน อย่าคิดว่าดื่มนิดหน่อยเป็นเรื่องแค่นี้ เพราะจากสถิติมีคนที่เสียชีวิต บาดเจ็บ พิการ จากที่คิดว่าดื่มนิดหน่อยยังไหว ขับได้ไม่มีปัญหาเกือบทั้งสิ้น

                   ในช่วงปีใหม่ 2566 ยังถือเป็นโอกาสดีที่งานวิ่งเพื่อนักวิ่งหน้าใหม่อย่าง ThaiHealth Day Run จะกลับมาอีกครั้ง หลังสถานการณ์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งในช่วงโควิด-19 หลายคนขาดกิจกรรมทางกาย ขาดการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ มีหลายคน เริ่มออกมาวิ่งที่งาน ThaiHealth Day Run เป็นงานแรก ด้วยรูปแบบกิจกรรมที่ทุกเพศ ทุกวัย สามารถเข้าร่วมได้ มีการจัดงานวิ่งที่ได้มาตรฐาน สร้างความปลอดภัยให้กับนักวิ่ง รวมทั้งมีรูปแบบความสนุกสนาน จนทำให้นักวิ่งได้ประสบการณ์ดี ๆ และเป็นจุดเริ่มต้นของการวิ่งสนามถัดไป

                   การเดินทางเข้าสู่ปีใหม่ หลายคนอาจจะยังทำสิ่งที่ตั้งใจไม่สำเร็จ หรือทำผิดพลาดอะไรไปบ้าง คนทั่วโลกต่างก็ใช้เวลาในช่วงขึ้นปีใหม่ตามวัฒนธรรมของตนในการเป็นหมุดหมายเวลาของชีวิต ที่จะได้ทบทวน และเริ่มต้นทำสิ่งที่ตั้งใจใหม่อีกครั้ง สิ่งที่อาจจะผิดพลาดบ้าง ทำไม่ได้บ้างในปีที่ผ่านมา แต่เราสามารถแก้ไขและเปลี่ยนแปลงตัวเองได้อยู่เสมอ

                   ปณิธานปีใหม่เหล่านี้ ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะให้ใครมากำหนดให้ แต่ละคนเลือกกำหนดที่สอดคล้องตรงกับช่องว่างที่อยากจะเติม จริต ศักยภาพ โอกาส หรือบริบทใดใดของตัวเราเป็นที่ตั้งจะดีกว่า

                   ยุคนี้ แอบเหลือบมองปณิธานปีใหม่ของผู้คนทั่วโลกในโซเชียลมีเดีย พบความหลากหลายเหลือคณานับ แต่แน่นอนว่า จุดมุ่งหมายส่วนใหญ่มุ่งสู่ปลายทางความสุขของชีวิต จึงมีปณิธานจำนวนมากเลยทีเดียวที่เกี่ยวโยงกับสุขภาวะมิติต่าง ๆ อาทิเช่น

                   สุขภาพกาย “ออกกำลังกายเพื่อให้รู้สึกดี ไม่ใช่แค่ให้ผอม” “ดื่มน้ำให้มากขึ้น” “ขึ้นบันไดเป็นหลัก” “เอาน้ำตาลออกจากพวงเครื่องปรุง” ฯลฯ

                   สุขภาพจิต “พูดให้น้อยลง ฟังให้มากขึ้น” “แผ่เมตตาต่อสารจากโซเชียล” “เริ่มงานอดิเรกชนิดใหม่” “ฉลองชัยชนะให้บ่อยขึ้น” ฯลฯ

                   สุขภาพปัญญา จิตปัญญา “เริ่มฝึกทำสมาธิจริงจัง” “อาสา อาสา อาสา” “ส่งสิ่งที่ดีต่อกลับไปให้คนอื่น” (Pay it forward) ฯลฯ

                   สุขภาพสังคม “ให้เวลากับคนที่มีความหมายให้มากขึ้น” “ลดขยะ ลดการใช้พลาสติก” “ลดเวลาซุบซิบนินทา” “จริงจังกับบัญชีค่าใช้จ่าย” “รวมกลุ่มเพื่อนก่อการดีใหม่ ๆ” ฯลฯ

                   ปณิธานทำนองข้างต้นพบวนเวียนค่อนข้างถี่ในโซเชียลมีเดีย และการจับแยกเป็นสี่กลุ่มมิติสุขภาพเป็นเรื่องค่อนข้างยาก จนไม่ควรจะต้องไปแยกมันด้วยแต่ละมิติของสุขภาวะเกี่ยวพันกันไปมาอย่างแนบแน่น ขอแต่เลือกตั้งปณิธานให้เหมาะกับกาละปีใหม่นี้ของตนให้มากที่สุด และตั้งจิตตั้งใจปฏิบัติให้จงได้

                   เนื่องในโอกาสปีใหม่ ปีที่ 21 ของ สสส. องค์กรสร้างสุขนี้ สสส. จะยังคงยืนหยัดทำหน้าที่ร่วมสานพลังสร้างเสริมสุขภาวะ ให้ทุกคนมีสุขภาวะที่ดีต่อไป

Shares:
QR Code :
QR Code