คุยกับผู้จัดการ สสส. (เดือนกุมภาพันธ์ 2567)
สวัสดีครับเพื่อนร่วมสร้างสุขทุกคน
เดือนกุมภาพันธ์นี้ ขอถือโอกาสที่ผมจะได้ทักทายทุกท่านอย่างเป็นทางการในบ้านที่อบอุ่นหลังนี้ ในตำแหน่งผู้จัดการกองทุน สสส. ที่มีเพื่อนภาคีเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพร่วมเดินทางสร้างสุข ทั่วประเทศ
ผมเชื่อมาตลอดว่า “การสร้างเสริมสุขภาพ” ควรค่าแก่การทุ่มเทแรงกายแรงใจ เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางสุขภาวะให้แก่ประชาชน
ความฝันแรกหลังเรียนแพทย์จบ “ผมอยากเป็นหมอผ่าตัด” เหมือนแพทย์หลาย ๆ คน แต่หลังจากเป็นแพทย์ใช้ทุน โดยเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน ตลอด 4 ปีของการทำงาน ได้เห็นผู้คนเสียชีวิตจากสาเหตุของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่จำนวนมาก จากความสูญเสียนี้ ได้กลายเป็น “แรงกระตุ้น” ผลักดันให้ผมเริ่มต้นสนใจการทำงานรณรงค์เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบ
ผมเป็นอีกคนที่ตระหนักถึง “พลังของการสร้างเสริมสุขภาพ” จากการที่คุณพ่อป่วยหลายโรคจากการดื่มสุรา และสูบบุหรี่ ตั้งแต่ท่านอายุยังไม่ถึง 50 ปี แต่เพราะอาจารย์หมอภากร จันทนมัฎฐะ โรงพยาบาลรามาธิบดี แนะนำให้คุณพ่อเลิกบุหรี่และสุรา สามารถเปลี่ยนแปลงสุขภาพให้กลับมาแข็งแรงได้ เป็นจุดที่เห็นบทบาทของแพทย์ ว่า “แพทย์ไม่ใช่ผู้แก้ที่ปลายเหตุ แต่ลงลึกได้ไปถึงรากของปัญหา”
หลังจากใช้ทุนครบ จากความฝันแรกที่จะเป็นหมอผ่าตัด ผมเบนเข็มไปเรียนแพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ป้องกันแขนงระบาดวิทยา และกลับมาทำงานเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนอีก 9 ปี แน่นอนว่า “การสร้างเสริมสุขภาพเป็นสิ่งที่ผมทุ่มเทอยู่เสมอ” จนตัดสินใจหยุดการทำงานบริหารในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน และสมัครไปเป็น “หัวหน้ากลุ่มงานเวชกรรมสังคม” ที่โรงพยาบาลน่าน เพื่อทำงานสร้างเสริมสุขภาพอย่างจริงจัง
ผมตระหนักเสมอว่า ปัญหาที่สำคัญที่สุดของสังคมไทย เกิดจากสุราและบุหรี่ ยิ่งผมได้รับทุนไปศึกษาการคำนวณเรื่องภาระโรค และปีสุขภาวะที่หายไป (DALYs) ของไทย ที่ประเทศออสเตรเลีย ก็ยิ่งทำให้ตระหนักดีว่า “สังคมไทยถูกเซาะกร่อน” และสูญเสียกับปัญหาเหล่านี้ไปมากแค่ไหน
จากการทำงานสร้างเสริมสุขภาพ ที่โรงพยาบาลน่าน ทำให้ผมได้มีโอกาสร่วมงานกับภาคีเครือข่ายและอาจารย์ผู้ใหญ่ของ สสส. มากมาย ได้เรียนรู้กลยุทธ์การขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพหลากหลายมิติ ทั้งหมดที่ผมอยากเล่าคือ
“ผมได้รับรู้ว่า ตนเองมี passion และอยากทุ่มเทชีวิตในการทำงานด้านสร้างเสริมสุขภาพ และพร้อมที่จะทำเต็มที่กับงานใน สสส. เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง เกิดผลลัพธ์ทางสุขภาพอย่างก้าวกระโดด”
“ดอกผลที่งดงามเกิดมาจากรากแก้วที่แข็งแรงรากแก้วมักจะมองไม่เห็นจากบนดิน คือวัฒนธรรมองค์กร อุดมการณ์ หลักคิดและค่านิยมร่วม ความมุ่งมั่นทุ่มเท ความร่วมมือร่วมใจในองค์กร สสส. เติบโตมาอย่างยาวนานด้วยรากแก้วนี้” นี่คือความเชื่อและความศรัทธาของผม
“ลำต้น” คือ อาจารย์ผู้หลักผู้ใหญ่ ภาคีเครือข่ายกลุ่มวิชาการ ที่เชื่อมประสานด้วยอุดมการณ์เดียวกัน ผมขอมีบทบาทในการดูแล บำรุงดิน รักษาสิ่งดีงามใส่ปุ๋ย โดยเฉพาะปุ๋ยของระบบข้อมูลทางระบาดวิทยาซึ่งเป็นความถนัดและตัวตนของผม และนำดอกผลของ สสส. ที่เติบโตก้าวสู่ปีที่ 23 ไปขยายผลกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนต่าง ๆ ให้กระจายไปเต็มพื้นที่
ก้าวต่อจากนี้ ผมขอสานพลังต่อด้วยความเป็นนักขับเคลื่อนเชิงยุทธศาสตร์ นักสร้างนวัตกรรม และนักสื่อสาร ซึ่งเป็นจุดแข็งที่สำคัญ ของ สสส.
เราจะนำจุดแข็งให้เป็นจุดขาย และทำบทบาทสำคัญในการเป็นนักสานพลังต่อไป การสานพลังคือ การนำจุดแข็งของเราไปปิดจุดอ่อนของเพื่อน และนำจุดแข็งของเพื่อนมาปิดจุดอ่อนของเรา การจะทำสิ่งนี้ได้ต้องให้เกียรติและเห็นคุณค่าซึ่งกันและกัน
ผมขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ สสส. ในการเดินทางก้าวต่อไป เพื่อร่วมสานพลัง สร้างนวัตกรรมและสื่อสารสุขต่อไปครับ