ควันบุหรี่ ทำทารกในครรภ์ไอคิวต่ำ
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์
แฟ้มภาพ
กรมสุขภาพจิต เผยคนไทยมีปัญหาสติปัญญาบกพร่อง ไอคิวต่ำกว่าเกณฑ์ 6.5 แสนคน ชี้ส่วนหนึ่งเกิดจากแม่ตั้งครรภ์สูดควันจากบุหรี่ทั้งมือ 1และ มือ2ระบุพิษคาร์บอนมอนอกไซด์และนิโคตินทำสมองเด็กผิดปกติ ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ เป็นแล้วรักษาไม่หายขาด
น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต พร้อมด้วย ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ประธานศูนย์การเรียนรู้พิเศษประภาคารปัญญา เปิดแพรคลุมป้าย "คลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็ก" ภายในศูนย์การเรียนรู้พิเศษประภาคารปัญญา มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม.
น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีประชาชนทุกช่วงวัยที่มีสติปัญญาบกพร่อง มีระดับไอคิวต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยมากถึง 650,000 คนทั่วประเทศ โดยมีสาเหตุจากหลายปัจจัยทั้งพันธุกรรมสมองกระทบกระเทือน ขาดธาตุเหล็ก ไอโอดีน และยังพบว่าเกิดมาจากการสูดควันบุหรี่ขณะมารดาตั้งครรภ์ ทั้งควันบุหรี่มือ 1 และควันบุหรี่มือ 2 สารในควันบุหรี่ที่มีผลกระทบกับเด็กในครรภ์มากที่สุดคือ สารคาร์บอนมอนอกไซด์และนิโคติน ทำให้หลอดเลือดหดตัวและขัดขวางการลำเลียงออกซิเจนของเม็ดเลือดแดงจากตัวแม่ไปยังลูกผ่านทางสายสะดือและรก ไม่เพียงพอด้วยจึงมีผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการสมองของเด็กผิดปกติ ทำให้สติปัญญาต่ำ ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ มีเพียงการบำบัดและฟื้นฟูเพิ่มทักษะด้านต่างๆ ให้ผู้ที่มีบกพร่องดำเนินชีวิตได้ดียิ่งขึ้น
"ที่ผ่านมาผู้มีสติปัญญาบกพร่องเข้าถึงระบบการดูแลรักษาฟื้นฟูประมาณร้อยละ 10 โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ในวัยเรียนภาคบังคับ อายุ 5-15 ปียังอยู่นอกระบบการศึกษามากถึงร้อยละ 75 จึงขอให้ประชาชนที่มีลูกหลานมีพัฒนาการล่าช้า หรือมีสติปัญญาบกพร่อง พาไปพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านทั่วประเทศหรือปรึกษาสายด่วน 1323 ฟรี เพื่อรับการตรวจประเมินความรุนแรงและขึ้นทะเบียนเป็นผู้พิการทางสติปัญญา ได้รับการช่วยเหลือด้านต่างๆโดยเร็ว" น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าว
นพ.ศรุตพันธุ์ จักรพันธุ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กทม. กล่าวว่าผู้ที่สติปัญญาบกพร่อง มีความเสี่ยงเกิดปัญหาทั้งสุขภาพกายและอารมณ์จิตใจ มีพฤติกรรมต่อต้านสังคมสูงกว่าบุคคลทั่วไปจึงต้องมีผู้ดูแลช่วยเหลือในดำรงชีวิตอย่างใกล้ชิดและได้รับการช่วยเหลือด้านสวัสดิการทางสังคมจากภาครัฐสำหรับความร่วมมือในคลินิกกระตุ้นพัฒนาการครั้งนี้ศูนย์การเรียนรู้พิเศษประภาคาร สนับสนุนด้านอุปกรณ์และสถานที่ในการดำเนินกิจกรรมต่างๆเน้นหนักในเด็กอายุ 5-15 ปี เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ระบบการศึกษาโดยสถาบันกัลยาณ์ฯ จัดทีมสหวิชาชีพนำโดยจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ตรวจประเมินอาการความรุนแรง ให้การรักษาอาการผิดปกติทางจิตใจนักจิตวิทยาคลินิกตรวจประเมินระดับไอคิวและปรับพฤติกรรม พยาบาลวิชาชีพวางแผนจัดกิจกรรมกระตุ้นพัฒนาการรายบุคคลร่วมกับครูการศึกษาพิเศษนักกิจกรรมบำบัดฝึกเตรียมความพร้อมการพูดและฝึกทักษะต่างๆที่จำเป็นต่อการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันด้วยตนเองนักกายภาพบำบัดกระตุ้นการเคลื่อนไหวเพื่อเพิ่มกำลังและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อทุกวันทบทวนแผนทุก1เดือนและประเมินความก้าวหน้าทุก 6 เดือน เพื่อปรับแผนการบำบัดฟื้นฟูโดยได้เริ่มทดลองดำเนินการในเดือนมกราคม 2561 – เมษายน 2561 จำนวน 14 คน ได้ฟื้นฟูด้านกิจกรรมบำบัด 712 ครั้ง ด้านกายภาพบำบัด 693 ครั้ง กระตุ้นพัฒนาการและปรับพฤติกรรม 715 ครั้ง ต้องทำอย่างต่อเนื่องขณะนี้มีเด็กสติปัญญาบกพร่องอยู่ในศูนย์การเรียนฯ 50 คน