“ควันบุหรี่มือสอง” ฆ่าคนรอบข้างตายผ่อนส่ง

ชี้ผับบาร์ต้องปลอดบุหรี่ 100%

 “ควันบุหรี่มือสอง” ฆ่าคนรอบข้างตายผ่อนส่ง

          ผับบาร์ ตลาด และอีกหลายสถานที่ถูกจัดให้เป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ 100% ตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแล้ว แต่ทางภาครัฐยังอาศัยในช่วงดังกล่าวเป็นการรณรงค์และปรับตัว และจะเริ่มจับปรับจริงในวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคมนี้อีกครั้ง

 

          เหตุที่ต้องออกประกาศให้ผับบาร์ปลอดบุหรี่คงไม่ใช่สิ่งอื่นใด แต่เป็นเพราะเจ้าควันบุหรี่มือสองนั่นเอง

 

          เพราะบุหรี่นอกจากทำร้ายผู้สูบแล้ว ควันบุหรี่ซึ่งมีสารพิษกว่า 4,000 ชนิดและมีสารก่อมะเร็งอย่างน้อย 42 ชนิด ยังทำร้ายสุขภาพคนรอบข้างอีกด้วย

 

          โดยโรคมะเร็งที่เป็นสาเหตุคนไทยเสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 1 ปีละเกือบ 60,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นมะเร็งปอดมากที่สุด นักวิทยาศาสตร์ และแพทย์ ทั่วโลกยืนยันตรงกันว่า บุหรี่เป็นสาเหตุ 1 ใน 3 ของโรคมะเร็งปอดเป็นทั้งผู้สูบและผู้ที่ไม่ได้สูบแต่ได้รับควันบุหรี่มือสอง

 

          ไม่เพียงแต่ควันบุหรี่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอดแล้ว ยังต้องขอให้ข้อมูลอีกว่า เจ้าควันอันตรายนี้ยังนำโรคมฤตยูผองเพื่อนมันมาอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นโรคความดันสูงและมีไขมันในเลือดสูงร่วมด้วย และควันบุหรี่มือสองยังเป็นสาเหตุของโรคถุงลมโป่งพอง หอบหืด และเส้นเลือดในสมองแตกอีกด้วย

 

          “ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดจากการได้รับควันบุหรี่มือสองค่อนข้างสูง คือ มีความเสี่ยงประมาณครึ่งหนึ่งของผู้สูบบุหรี่ นอกจากนี้คนที่ทำงานในผับบาร์ หรือแห่งของควันบุหรี่มือสองในระดับสูง เป็นอันตราย มีสถิติในอังกฤษมือสอง และในจำนวนนี้เองมี 50 คน เป็นพนักงานในบาร์และภัตตาคาร”

 

          สิงห์อมควันทั้งหลายอาจไม่รู้สึกว่าการสูบบุหรี่ของตนเองนั้นสร้างความรำคาญอย่างไร…

 

          รศ.ณ.เนาวรัตน์ เจริญค้า นักวิจัยจากคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลและคณะได้ศึกษาระดับฝุ่นขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 2.5 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่ามีขนาดเล็กในระดับที่สามารถหลุดเข้าไปในระบบทางเดินหายใจจนสามารถตกค้างในถุงลมปอดได้ ศึกษากับสถานบันเทิง 26 แห่ง

 

          พบว่า มีฝุ่นขนาดเล็กตั้งแต่ 7-1,598 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตรขณะเดียวกันค่าเฉลี่ยของฝุ่นขนาดเล็ก 319 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตรซึ่งค่ามาตรฐานที่องค์กรพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกากำหนดไว้เพียง 15 ไมครอนต่อลูกบาศก์เมตรเท่านั้น

 

          “เท่ากับว่าระดับฝุ่นของสถานบันเทิงของไทยสูงเกินค่ามาตรฐานอย่างมาก ผลของการศึกษาชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงถึงของอันตรายในการสูดดมและสัมผัสกับสารพิษของควันบุหรี่ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้บริการ และผู้ทีต้องประกอบอาชีพในสถานบันเทิง

 

          พนักงานในผับบาร์เหล่านี้จะได้รับอันตรายจากควันบุหรี่มากกว่าพนักงานในสำนักงานต่างๆ สูงถึง 4-6 เท่า และได้รับอันตรายมากกว่าได้รับควันบุหรี่ในบ้าน 4 เท่าครึ่งเลยทีเดียว”

 

          เสียงร่ำร้องของพวกเขาดูจะเป็นเสียงเล็กๆ แต่วันนี้กลับมีกฎหมายที่คุ้มครองสุขภาพของพวกเขาแล้ว จากการสำรวจพบว่า พนักงานยอมรับเองว่าควันบุหรี่ทำให้มีปัญหาสุขภาพในช่วง 3 เดือนก่อนการเก็บข้อมูล เริ่มตั้งแต่ไอ เจ็บคอ 47.6% ตาลาย 38.7% มึนศีรษะ 28.8% หูอื้อ 12.1% อาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น หายใจไม่ออก ปวดเมื่อยตามร่างกาย เป็นหวัด ร่างกายอ่อนแอ 2.9% และไม่เคยมีอาการผิดปกติใด ๆ มาก่อน 21.7% โดยกว่า 49.4% ลงความเห็นตรงกันว่าอาการป่วยเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการทำงานในสถานบันเทิงที่รมไปด้วยควันบุหรี่ ขณะที่มีเพียง 10.7% เห็นว่าไม่เกี่ยวข้องกันและกัน 39.9% เริ่มไม่แน่ใจว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่

 

          ไม่เพียงแต่ควันบุหรี่มือสองที่จะมีมากในผับบาร์แล้วเท่านั้นนประกาศนี้คุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ไปยัง ตลาดสด ตลาดนัดขาย เสื้อผ้า ร้านตัดผม ร้านเสริมสวย สถานที่จำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ฯลฯ ซึ่งโอกาสที่เยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติอยู่ในสถานที่เหล่านี้ก็มีมากขึ้นด้วย จึงเท่ากับว่าเป็นการคุ้มครองสุขภาพของพวกเขาด้วยเช่นกัน

 

          เพราะเจ้าควันร้ายเหล่านี้เมื่อไม่ได้อยู่ในสถานที่ที่ควรอยู่ เช่น ห้องสำหรับสูบบุหรี่ แต่กลับไปอยู่ใกล้กับลูกๆ หลานๆ อนาคตของชาติเราจะเกิดสู่ความหายนะอย่างแน่นอน!!!

 

          ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกพบว่าเด็กประมาณ 700 ล้านคนหรือครึ่งหนึ่งของเด็กทั่วโลก ได้รับพิษจากควันบุหรี่

 

โดยผู้สูบบุหรี่รอบข้างหรือบุหรี่มือสอง ทำให้มีปัญหาสุขภาพหลายด้านคือ ปอดมีการเจริญเติบโตช้า ติดเชื้อทางเดินหายใจ ติดเชื้อที่หูส่วนกลาง และเป็นโรภูมิแพ้ง่ายกว่าเด็กที่ไม่ได้รับควันบุหรี่มือสอง

 

          ก่อนที่จะต้องมีประกาศฉบับต่อๆ ไป จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อให้สถานที่สาธารณะอื่นๆ เป็นสถานที่ปลอดบุหรี่นั้น หนทาที่ดีที่สุด จึงควรเลิกสูบบุหรี่เสียเถอะ เพื่อสุขภาพของคุณและคนรอบข้าง

 

 

 

 

 

เรื่องโดย : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

ภาพประกอบ : อินเตอร์เน็ต

 

 

 

 

Update : 27-08-51

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code