คลื่นมือถือรบกวนการนอน
ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ นำไปสู่ความเครียด สมาธิสั้น
เป็นเรื่องดีที่ได้คุยกับคนรักก่อนนอน แต่ไม่แนะนำให้สนทนาปราศรัยผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพราะผลการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์นานาชาติชี้ชัดว่าความแรงของคลื่นโทรศัพท์ส่งผลต่อระบบการนอน เช่นเดียวกับอาการปวดหัว
ดร.คริส อิดซิโคว์สกี้ ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพการนอนในเอดินบะระ สกอตแลนด์ เปิดเผยว่า จากการทดสอบกับอาสาสมัครชาย 35 คน หญิง 36 คน ที่มีอายุอยู่ที่ระหว่าง 18-45 ปี พบว่าผลข้างเคียงของคลื่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพการนอน ทำให้อาสาสมัครเหล่านี้มีช่วงเวลาที่เรียกว่าหลับลึก (deep sleep) น้อยกว่าปรกติ เช่นเดียวกับปวดหัว แม้ความรุนแรงของอาการจะเล็กน้อยก็ตาม ซึ่งผลที่ตามมาของการพักผ่อนไม่เพียงพออาจนำไปสู่ความเครียด สมาธิสั้น และบุคลิกภาพส่วนตัวที่เปลี่ยนแปลงไป หากอยู่ในวัยเด็กหรือวัยรุ่นก็จะมีผลต่อความจำและประสิทธิภาพในการเรียน
การศึกษาของอิดซิโคว์สกี้ ได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณจากบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่หลายๆ แห่ง เพื่อทดสอบว่าคลื่นที่ปล่อยออกมาจากตัวโทรศัพท์มีผลต่อสุขภาพมนุษย์หรือไม่ ก่อนที่ผลการศึกษาในครั้งนี้จะยืนยันว่าการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ก่อนนอนมีผลต่อการหลับลึกของมนุษย์ หรือมีช่วงเวลาในการนอนสั้นกว่าปรกติ ซึ่งจะส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพในระยะยาว เพราะอย่างที่ทราบกันว่าตามปรกติร่างกายมนุษย์จะใช้เวลานั้นในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและสร้างเซลล์ใหม่ๆ ที่เสียหายไปในช่วงเวลากลางวัน
ทีมนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันคาโรลินส์กา และมหาวิทยาลัยอัพส์ซาลา ในสวีเดน และมหาวิทยาลัยเวน์ย สเตท ในมิชิแกน สหรัฐ ซึ่งเป็นผู้นำการศึกษาในครั้งนี้ กล่าวสรุปว่า จากผลที่ออกมาคืออีกหนึ่งหลักฐานที่ชี้ให้เห็นถึงอันตรายของโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ก่อนหน้านี้วงการวิทยาศาสตร์ไม่เคยคาดคิดมาก่อน นั่นคือคลื่นโทรศัพท์มีผลต่อการนอน หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือมีผลต่อสมองนั่นเอง
ที่มา : โลกวันนี้
ภาพประกอบ : www.thaihealth.or.th
update 23-01-51