คผยจ.ขอนแก่น เดินหน้าขับเคลื่อนงานควบคุมยาสูบอย่างเข้มแข็ง เน้นสร้างภาคีเครือข่าย ทำงานร่วมกันทั้งจังหวัด มุ่งเป้าลดนักสูบหน้าใหม่
ที่มา : คณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบจังหวัดขอนแก่น
คผยจ.ขอนแก่น เดินหน้าขับเคลื่อนงานควบคุมยาสูบอย่างเข้มแข็ง เน้นสร้างภาคีเครือข่าย ทำงานร่วมกันทั้งจังหวัด มุ่งเป้าลดนักสูบหน้าใหม่
จังหวัดขอนแก่น เป็นจังหวัดที่มีการดำเนินการควบคุมยาสูบมาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้กลไกระดับจังหวัด เช่น การประชุมคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบจังหวัด (คผยจ.) เป็นประจำทุกปี มีการกำหนดนโยบายที่สำคัญ 3 นโยบาย ได้แก่ (1) การคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ โดยให้สถานที่สาธารณะตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข จัดให้มีเครื่องหมายเขตปลอดบุหรี่ตามที่กฎหมายกำหนด (2) การป้องกันนักสูบหน้าใหม่ โดยกำหนดให้สถานศึกษาทุกแห่งดำเนินการ 7 มาตรการสถานศึกษาปลอดบุหรี่ และ (3) มาตรการชุมชนปลอดบุหรี่ โดยการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีการดำเนินการในเทศบาลนคร 1 ชุมชน เทศบาลทุกเทศบาล และ อบต. ละ 1 หมู่บ้าน ทั้งนี้ ได้มีการจัดทำหนังสือแจ้งมติที่ประชุม คผยจ. และนโยบายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบของจังหวัด ไปยังทุกหน่วยราชการเพื่อให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ทำให้การขับเคลื่อนงานควบคุมยาสูบจังหวัดขอนแก่นมีผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม และสามารถเป็นต้นแบบการขับเคลื่อนงานให้กับจังหวัดอื่น ๆ ได้
นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ในฐานะรองประธาน คผยจ.ขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นดำเนินงานควบคุมยาสูบ ผ่านกลไก คผยจ. โดยกำหนดเป็นนโยบายเพื่อให้ทุกภาคส่วนนำไปปฏิบัติ ทั้งเรื่องการคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ เน้นติดป้ายห้ามสูบบุหรี่เป็นป้ายข้อความที่เหมือนกันทั้งจังหวัด การป้องกันนักสูบหน้าใหม่ เน้นการทำงานกับสถานศึกษา แต่งตั้งคณะอนุกรรมการสถานศึกษาปลอดบุหรี่ โดยมีศึกษาธิการจังหวัดเป็นประธาน นอกจากนี้ ยังได้มอบนโยบายให้ท้องถิ่น ดำเนินการสร้างชุมชนปลอดบุหรี่ อย่างน้อยแห่งละ 1 ชุมชน ทำให้จังหวัดขอนแก่นได้รับรางวัลจังหวัดที่มีผลงานยอดเยี่ยมด้านการขับเคลื่อนและสนับสนุนการควบคุมยาสูบ ประจำปี 2566 (ด้านการขับเคลื่อนกลไกการดำเนินงานควบคุมยาสูบ) จากกองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
“ปัจจัยความสำเร็จที่ทำให้จังหวัดขอนแก่นได้รับรางวัลนี้ เกิดจากการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความสำคัญ พร้อมมอบนโยบายจนนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง และกลไก คผยจ. ทุกคน มีความเห็นพ้องกันว่าต้องขับเคลื่อนเรื่องนี้ไปพร้อมกัน ร่วมกำหนดมาตรการ กำหนดนโยบาย ทำให้การทำงานประสบความสำเร็จ และการได้รับรางวัลในครั้งนี้ ถือเป็นพลังที่จะต้องทำเรื่องนี้อย่างเข้มข้นมากขึ้น” รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าว
ด้านนางวาสนา ทิพเลิศ ผู้รับผิดชอบงานควบคุมยาสูบ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่น ได้ดำเนินงานตามมาตรการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบครบทุกมาตรการ มีการประชุมคณะกรรมการ คผยจ. อย่างต่อเนื่อง พร้อมกำหนดแนวทางการดำเนินงานผ่านมติที่ประชุมทุกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดการระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า คผจย. ได้มีมติเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ให้สำรวจสถานการณ์การใช้บุหรี่ไฟฟ้าของนักเรียนในจังหวัดขอนแก่น พร้อมเตรียมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินงานมาตรการชุมชนปลอดบุหรี่ และเสนอให้บรรจุวาระการดำเนินงานควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวทีประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ
สำหรับปัจจัยความสำเร็จในการขับเคลื่อนงานควบคุมยาสูบในพื้นที่ คือ จากการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความสำคัญ ทำให้การทำงานเกิดผลเป็นรูปธรรม รวมทั้งการมีภาคีเครือข่ายที่อยู่ในกลไก คผยจ. ทั้งท้องถิ่น สรรพสามิต ฝ่ายปกครอง สถานีตำรวจภูธร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น ซึ่งการที่ กลไก คผยจ. มีนโยบายที่ชัดเจน กรรมการทุกคนให้ความสำคัญ เข้าร่วมประชุมทุกครั้ง และพร้อมนำลงสู่การปฏิบัติ ทำให้เกิดความต่อเนื่อง และยั่งยืน
“ต้องขอบคุณผู้บริหารทุกระดับ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ที่มีนโยบายที่ชัดเจน และมีการติดตามงานหัวหน้าส่วนราชการอย่างต่อเนื่อง อปท. และภาคีเครือข่ายเข้มแข็ง ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้อัตราการบริโภคยาสูบ และการเกิดนักสูบหน้าใหม่ลดลงได้” นางวาสนา กล่าว
ขณะที่นายมนตรี สิงหปุณณภัทร รองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวถึงการสนับสนุนงานควบคุมยาสูบในพื้นที่ ว่า เทศบาลนครขอนแก่นให้ความสำคัญเรื่องพิษภัยบุหรี่ และยาเสพติทุกชนิด ซึ่งนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กำหนดนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการต่อต้าน ป้องกัน ระมัดระวังให้ปลอดบุหรี่และยาเสพติด ประกาศเป็นนโยบายไม่เอาบุหรี่อย่างชัดเจน ผ่านการจัดกิจกรรม รณรงค์ สร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับทุกภาคส่วน ทั้งนี้ เทศบาลนครขอนแก่น ได้การดำเนินงานตามมาตรการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบของจังหวัด ได้แก่
มาตรการที่ 1 การคุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ จัดให้มีเครื่องหมายเขตปลอดบุหรี่ ในสถานที่สาธารณะ ได้แก่สวนสาธารณะ จำนวน 8 แห่ง ในเขต เทศบาล ประชาสัมพันธ์ และติดเครื่องหมายแสดงเขตปลอดบุหรี่บริเวณโลตัส และมินิบิ๊กซีทุกสาขา สถานประกอบการ ร้านค้า สถานบันเทิง
มาตรการที่ 2 การป้องกันนักสูบหน้าใหม่ ให้สถานศึกษาในสังกัด จำนวน 11 แห่ง ดำเนินการตาม 7 มาตรการสถานศึกษาปลอดบุหรี่ และผ่านการประเมินจากเครือข่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่จังหวัดขอนแก่น เป็นศูนย์เรียนรู้การดำเนินงานสถานศึกษาปลอดบุหรี่ จำนวน 2 แห่ง คือ โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีฐาน โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนชัย นอกจากนี้ โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีฐาน ยังผ่านการประเมินจากคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนสถานศึกษาปลอดบุหรี่จังหวัดขอนแก่น เป็น “สถานศึกษาปลอดบุหรี่ ระดับดีเด่น” ของจังหวัดขอนแก่น อีกด้วย
มาตรการที่ 3 การจัดสภาพแวดล้อมให้เป็นเขตปลอดบุหรี่ โดยติดแสดงเครื่องหมายเขตปลอดบุหรี่บริเวณทางเข้าออกภายในโรงเรียน และทุกโรงเรียนมีการเขียนโครงการขอรับงบประมาณจากกองทุนสุขภาพเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อดำเนินการให้สถานศึกษาเป็นสถานศึกษาปลอดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ครบ 7 มาตรการ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการ เปิดภาคเรียนปีการศึกษานี้
มาตรการที่ 4 มาตรการชุมชนปลอดบุหรี่ มีชุมชนต้นแบบปลอดบุหรี่ 84 พรรษา เทศบาลนครขอนแก่น โดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เทศบาลนครขอนแก่น โรงพยาบาลขอนแก่น ศูนย์แพทย์วัดหนองแวงพระอารามหลวง สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น
“เทศบาลนครขอนแก่น ทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย และเห็นปัญหาร่วมกันว่าโทษและภัยของบุหรี่เป็นอย่างไร ส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย ชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างไร ทำให้เกิดการทำงานร่วมกันเป็นทีม มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทั้งผลสำเร็จและถอดบทเรียนในบางประเด็นที่ล้มเหลว เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาบุหรี่และยาเสพติดทั้งในชุมชนและโรงเรียนได้” นายมนตรี กล่าว