คนไทยซื้อเหล้าลดลงในรอบ 5 ปี ประหยัดหลายหมื่นล้านบาท

ประชุมวิชาการสุรา ปีที่ 7 ฉลองครบ 5 ปี พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สสส. เผยกิจกรรมสร้างสิ่งแวดล้อมสังคมใหม่ ช่วยคนไทยควักกระเป๋าจ่ายค่าน้ำเมาลด 5 ปีประหยัด 50,000 ล้านบาท ปรับพฤติกรรมดื่มอันตรายน้อยลง ชี้งานสำเร็จได้ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน

วันที่ 14 ก.พ. ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.)สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงานประชุมวิชาการสุราระดับชาติ ครั้งที่ 7 หัวข้อ “นโยบายแอลกอฮอล์เป็นเรื่องของทุกคน: Ownership in alcohol policy” ในระหว่างวันที่ 14-15 ก.พ. นี้ มีทั้งตัวแทนในระดับพื้นที่ ประชาคมจากทั่วประเทศ และนักวิชาการจากต่างประเทศเข้าร่วมกว่า 600 คน เพื่อแลกเปลี่ยน เรียนรู้ข้อมูลด้านวิชาการใหม่ๆและทบทวนกฎหมายการบังคับใช้ที่ผ่านมา

โดย ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุน สสส. ในฐานะประธานการประชุม กล่าวว่า ตั้งแต่ประเทศไทยได้บังคับใช้พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาครบ 5 ปี ทำให้เกิดกลไกการทำงานบรรเทาผลกระทบจากปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตั้งแต่ในระดับจังหวัด ผ่านคณะกรรมการและภาคีเครือข่าย เพื่อนำนโยบายระดับชาติทั้งมาตรการการจำกัดการเข้าถึง การทำการตลาด และการปรับเปลี่ยนบริบทของการบริโภค ลงไปปฏิบัติงานต่อ ทำให้แต่ละพื้นที่แก้ปัญหาได้ตรงประเด็นด้วยทุนทางสังคมของตนเอง และเกิดการมีส่วนร่วมในการทำงานทำให้เกิดความเข้มแข็งขึ้น

“ประเทศอเมริกามีการประกาศสงครามกับยาเสพติดและแอลกอฮอล์มากว่า 40 ปี  ส่วนไทยมีการประกาศต่อสู้กับยาเสพติดมานานแล้วเช่นกัน แต่ในเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจยังพูดอย่างกว้างขวางเพียงไม่กี่ปี แต่พบว่า มีการต่อสู้จากธุรกิจแอลกอฮอล์ทั้งใต้ดินและบนดิน ซึ่งผู้ที่ทำงานในด้านนี้หากมีความเข้มแข็งจะสามารถปกป้องเยาวชน และประชาชนได้” ศ.นพ.อุดมศิลป์กล่าว

ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การสนับสนุน ประสานร่วมมือกับบุคคล องค์กรต่างๆ เพื่อให้เกิดความตระหนัก และลดพฤติกรรมเสี่ยงการบริโภคสุรา และยาสูบ ถือเป็นวัตถุประสงค์ของ สสส. ตั้งแต่เริ่มแรก ผ่านกิจกรรมต่างๆ โดยใช้พลังปัญญา สังคม นโยบายร่วมกัน เช่น การรณรงค์งานบุญปลอดเหล้า การงดเหล้าเข้าพรรษา ที่ทำให้เกิดกระแสสังคมหันมาลด ละ เลิก ในช่วงเข้าพรรษาได้กว่าครึ่ง และลดการบริโภคต่อเนื่องไปจนถึงออกพรรษาได้ หรือการเปลี่ยนกระแสสังคมโดยจัดงานสวดมนต์ข้ามปี เพื่อให้คนไทยเปลี่ยนพฤติกรรมจากการเฉลิมฉลองด้วยแอลกอฮอล์เป็นการทำบุญ สวดมนต์สร้างสมาธิ ซึ่งถือเป็นการสร้างสิ่งแวดล้อมให้ประชาชนได้มีกิจกรรมสร้างสรรค์เพิ่มขึ้น

“จากการรณรงค์ในโอกาสต่างๆ ประกอบกับการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้คนไทยเสียเงินซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลงอย่างต่อเนื่องมา 5 ปีแล้ว จาก 154,998 ล้านบาท ในปี 2550 ลดลงเหลือ 137,059 ล้านบาท ในปี 2554 เท่ากับสามารถประหยัดเงินค่าซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เกือบ 18,000 ล้านบาท แต่หากไม่มีการรณรงค์ลดดื่มแอลกอฮอล์ ค่าซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นเมื่อคำนวณแล้วเท่ากับ ใน 5 ปีที่ผ่านมา สามารถประหยัดเงินค่าซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เกือบ 50,000 ล้านบาท  รวมทั้งอัตราการดื่มแบบอันตรายมีแนวโน้มลดลง จากร้อยละ 9.1 ในปี 2546-2547 เหลือร้อยละ 7.3 ในปี 2551-2552 โดย สสส.จะทำหน้าที่เป็นน้ำมันหล่อลื่นเพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับปัญหาใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต” ทพ.กฤษดา กล่าว

ด้าน นพ.ภูษิต ประคองสาย ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ กล่าว ว่า การจัดการปัญหาแอลกอฮอล์ ไม่สามารถทำได้เพียงลำพังแค่กระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และภาคประชาสังคม เพราะผลจากการดื่มอย่างไม่มีการควบคุม จะสร้างผลกระทบอย่างกว้างขวาง ทั้งต่อตัวผู้ดื่ม บุคคลรอบข้าง และสังคมโดยรวม จึงจำเป็นต้องสร้างความเป็นเจ้าของ ความเข้าใจ และการมีส่วนร่วม จากภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะในหน่วยงานระดับพื้นที่และจังหวัด สามารถเป็นคานงัดจุดเปลี่ยนอนาคตปัญหาแอลกอฮอล์ของสังคมไทย การประชุมวิชาการสุราระดับชาติครั้งนี้

ทั้งนี้ ภายในงาน ศ.นพ.อุดมศิลป์ ได้มอบรางวัลยกย่องบุคคลผู้มีส่วนร่วมในการบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 จำนวน 3 รางวัล คือ 1.นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าฯ จ.นครศรีธรรมราช จากภาคราชการ 2.นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากภาคองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ 3.นางสมควร งูพิมาย สภาองค์กรชุมชนเทศบาลตำบลพิมาย จ.นครราชสีมา จากภาคประชาสังคม

 

 

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข

 

Shares:
QR Code :
QR Code