คนไข้มาลาเรียลด แต่เชื้อดื้อยาเพิ่ม
เผยผู้ป่วยเสียชีวิตปีละ 1 ล้านคน
นพ.
ทั้งนี้ โรคมาลาเรียมียุงก้นปล่องเป็นพาหะนำโรค ทั่วโลกจะระบาดสูงสุดในเดือนเมษายน – กรกฎาคม ในส่วนของประเทศไทยได้สั่งการให้ทุกจังหวัดพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะบริเวณชายแดนไทย – พม่า และไทย – กัมพูชา รวม 43 จังหวัด ให้ความรู้กับประชาชน หากเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง อยู่ในป่าเขา รณรงค์ให้ใช้มุ้งชุบสารไพรีทรอยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้ยุงเป็นอัมพาตและตายภายใน 2 วินาที ไม่เป็นอันตรายต่อคน ที่สำคัญเมื่อป่วยต้องกินยาให้ครบสูตรตามแพทย์สั่ง
นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์มาลาเรียของไทยว่า แนวโน้มจำนวนผู้ป่วยลดลงตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 – มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้ป่วย 10,684 ราย เป็นไทย 8,138 ราย ที่เหลืออีก 2,546 ราย เป็นชาวต่างชาติ เสียชีวิต 4 ราย แต่พบว่าเชื้อมาลาเรียในไทยมีแนวโน้มดื้อยามากขึ้น อัตราการรักษาหายขาดประมาณร้อยละ 90 – 95 ส่วนที่เหลือยังคงมีเชื้ออยู่ในตัวและแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น และเชื้อในคนกลุ่มนี้อาจจะรักษาด้วยยาเดิม หรือขนาดเท่าเดิมไม่ได้
“ในไทยพบเชื้อดื้อยาบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา แถบ จ.จันทบุรี ตราด และเมืองไพลินของกัมพูชา เนื่องจากเชื้อที่บริเวณนี้ทั่วโลกยอมรับว่าเป็นเชื้อพันธุ์พิเศษ โดยเป็นเชื้อพลาสโมดียม (plasmodium) สายพันธุ์ฟาลซิปารั่ม (falciparum) ที่มีความแข็งแรงและทนทาน ปรับตัวต่อยาได้เร็ว จากการศึกษาพบว่าเชื้อบริเวณนี้มีแนวโน้มดื้อยามาประมาณ 40 – 50 ปีแล้ว
ทั้งนี้ ไทยได้ร่วมมือกับกัมพูชาสกัดการแพร่เชื้อชนิดดื้อยา โดยได้รับการสนับสนุนเงินจากมูลนิธิบิลและเมลินดา เกตต์ ส่วนบริเวณไทยพม่าอยู่ระหว่างขอการสนับสนุนจากกองทุนโลก” นพ.ม.ล.สมชายกล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน
update 27-04-52